|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
โบรกเกอร์ แนะเก็งกำไรหุ้น "ปตท.สผ." หลังผลงานไตรมาส 3 กำไรสุทธิพลาดเป้า แต่ยังคงเป้าหมายทั้งปี แม้สถาบันเอสแอนด์พี จะยกเลิกการพิจารณาปรับลดเรตติ้งแล้ว มีเพียงบล.ดีบีเอสฯ เล็งปรับลดเป้ากำไรสุทธิปี 2549 ลง ขณะที่ บล.เกียรตินาคิน แนะขายทำกำไร โดยราคาเป้าหมายอยู่ต่ำสุดที่ 108 บาท และสูงสุดที่ 130 บาท
หลังจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือแสตนดาร์ดแอนด์พัวร์ส หรือเอสแอนด์พี ประกาศยกเลิกการพิจารณามุมมองเชิงลบ ต่ออันดับความน่าเชื่อถือของบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP หลังนำเข้าสู่การพิจารณามุมมองเชิงลบเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ที่ผ่านมา โดยอันดับความน่าเชื่อถือ PTTEP อยู่ที่ระดับ BBB+ และ BBB+ มุมมองมีเสถียรภาพ
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้ประเมินฐานะ PTTEP ว่า จากไตรมาส 3 ปี 2549 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6.8 พันล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 5.15% และลดลงจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา 6.38% ขณะที่ 9 เดือน กำไรสุทธิ 2.2 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 70% ของกำไรสุทธิประมาณการที่ 3.1 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 9.58 บาท
ทั้งนี้ คาดว่าไตรมาสที่ 4 กำไรสุทธิจะสูงกว่าไตรมาสที่ผ่านมา เพราะจะไม่มีการตัดจำหน่ายหลุมแห้งและจะมียอดขายในโครงการยาดานาเพิ่มจาก 525 เป็น 565 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ตามสัญญาซื้อขายเพิ่มเติม และยังมีการขายเพิ่มในแหล่งโอมาน
บล.ฟิลลิปฯ ประเมินมูลค่าพื้นฐาน PTTEP ไว้ที่ระดับหุ้น 120.51 บาท โดยประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบที่ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาหุ้นปัจจุบันปรับตัวขึ้นมาใกล้เคียงราคาพื้นฐาน จึงแนะนำ ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
ราคาเหมาะสมที่หุ้นละ 130 บาท
ด้านบล.ฟินันซ่า ระบุว่า ราคาหุ้นปัจจุบัน ซื้อขายกันที่ระดับ EV/EBITDA ปี 2550 ที่ 5.4 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มพลังงานที่ซื้อขายกันที่ระดับประมาณ 6.5-7 เท่า และหากการประเมินด้วยวิธี Discounted Equity Cash Flow ภายใต้สมมุติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบที่ระดับ 57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มีมูลค่าเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานอยู่ที่ (NAV) หุ้นละ 130 บาท ดังนั้นจึงแนะนำให้ซื้อ
"ภาพอุตสาหกรรมปีหน้ายังดูดีอยู่ ราคาน้ำมันยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ขณะที่ท่อเส้นที่ 3 จะเริ่มส่งก๊าซได้ในปลายปีนี้ จะทำให้บริษัทสามารถจำหน่ายก๊าซได้เพิ่มขึ้น โดยบริษัทคาดว่าปริมาณการขายปี 2550 จะอยู่ที่ประมาณ 224,000 BOED เพิ่มขึ้น 30% จาก 172,000 BOED ในปีนี้"
ดีบีเอสฯเล็งปรับลดกำไรปี49
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส วิเคราะห์ว่า ไตรมาสสุดท้ายของปี กำไรสุทธิ PTTEP น่าจะดี เพราะปริมาณขายสูงขึ้น จากการเปิดโครงการใหม่ คือ โอมาน 44 และภูฮ่อม ซึ่งจะชดเชยกับราคาขายเฉลี่ยที่ต่ำลง และค่าใช้จ่ายในการสำรวจต่ำลงจากไตรมาส 3/2549 แต่อาจจะมีการปรับลดประมาณการกำไรสุทธิของบริษัทลดลง เพื่อให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง
"เรายังแนะนำ Fully Valued ณ ราคาปัจจุบัน ซื้อขายที่ PE ปี 2550 เท่ากับ 12 เท่า EV/EBITDA 5.7 เท่า คาดว่าจะให้ Dividend Yield ปี 49 เท่ากับ 3.2% โดยให้ราคาตามพื้นฐานเท่ากับ 108 บาท"
บล.ยูไนเต็ดแนะนำซื้อเก็งกำไร
บล.ยูไนเต็ด ระบุว่า ผลงานไตรมาส 3 ปี 2549 ต่ำกว่าคาดการณ์ไว้เล็กน้อยประมาณ 2.8% โดยคาดการณ์ไว้ที่ 7,010 ล้านบาท แต่ยังให้เป้าหมายกำไรสุทธิทั้ปงี 2549 ไว้ที่ 29,462 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 9.0 บาท บวกกับแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ดูไบ) ที่ปรับตัวดีขึ้น มาที่ประมาณ 57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งใช้เป็นราคาอ้างอิงในการกำหนดราคาขายผลิตภัณฑ์ของ PTTEP และปริมาณขายที่คาดว่าจะเติบโต 7-8% ต่อปีในช่วงปี 2549-2553 จึงแนะให้ให้ซื้อเก็งกำไร (Trading Buy) โดยมีราคาเป้าหมายที่หุ้นละ 117 บาท
บล.เกียรตินาคิน แนะขายทำกำไร
ด้าน บล.เกียรตินาคิน ได้คงประมาณการปี 2549 โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ประมาณ 29,067 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 8.88 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 22% ขณะที่ผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี 2549 ออกมาคิดเป็น 75% ของที่เราประมาณการผลประกอบการไว้ โดยให้ราคาที่เหมาะสมด้วยอยู่ที่ DCF ปี 2549 ไว้ที่หุ้นละ 119 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับราคาปิดล่าสุดมี Upside ไม่มาก เราจึงยืนคำแนะนำ "ขายทำกำไร"
|
|
 |
|
|