ตลาดเครื่องสำอางหนีไม่พ้นได้รับผลกระทบจากการเมืองและเศรษฐกิจ “สหเอเชียแปซิฟิก”เตรียมโยกงบการตลาดหันไปจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย หวังช่วยกระตุ้นยอดขายสิ้นปีถึงเป้าที่ไว้วางโตขึ้น 25% เชื่อตลาดจะกลับมาดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปีหน้า ด้าน “ชิเซโด้”เผยปีนี้ทำงานหนัก เล็งงัดกลยุทธ์สู้ศึกไตรมาสสุดท้าย กระทุ้งยอดขายถึงสิ้นปีโต 5-9%

นายสุชัย มีสมบูรณ์พูนสุข ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัทสหเอเชียแปซิฟิค จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องสำอางซีเอ (Za) , อูโน, เพียว แอนด์ มาย และไวท์เทีย เปิดเผยว่า ปัญหาเรื่องการเมืองได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของบริษัทฯอยู่บ้าง เช่น ในแง่จิตวิทยาและการลงทุน เป็นต้น อย่างไรก็ตามบริษัทฯพยายามทำทุกอย่าง เพื่อให้ธุรกิจเป็นไปตามแผนที่วางไว้ แต่อาจจะลำบากบ้าง เนื่องจากตลาดต้องประสบปัญหาจากเรื่องเศรษฐกิจและราคาน้ำมัน รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงไป ขณะที่การเมืองถือว่าเป็นตัวเร่งให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯเตรียมโยกงบการตลาดกว่า 80% จากงบทั้งหมดไปเน้นจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายมากกว่าการทำโฆษณา เนื่องจากต้องการเพิ่มและกระตุ้นยอดขายสิ้นปีนี้ให้เติบโตขึ้น 25% จากยอดรายได้รวมปีที่แล้วที่มีประมาณ 480 ล้านบาท แบ่งเป็นของแบรนด์ซีเอกว่า 380 ล้านบาทและที่เหลือเป็นแบรนด์อื่นๆ โดยยังไม่มีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ในไตรมาสสุดท้ายนี้ เพราะช่วง 3 ไตรมาสแรกที่ผ่านมาได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ไปมากแล้ว

ขณะที่ภาพรวมตลาดเครื่องสำอางในปีนี้มองว่าส่วนใหญ่ยอดขายลดลงไป เห็นได้จากจุดขายในช่องทางต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าและดีพาร์ทเมนต์สโตร์ ฯลฯ จะพบว่ามีจำนวนการบริโภคของผู้บริโภคลดลง ดังนั้นทางห้างฯจึงต้องจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายบ่อยขึ้น เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค ขณะที่ตลาดรวมเครื่องสำอางปีหน้ามองว่าช่วงครึ่งแรกยังหนักอยู่ และจะค่อยดีขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง

ชิเซโด้งัดกลยุทธ์สู้ศึกQสุดท้าย

นางวนิดา อัศวลาภศิลป์ ผู้จัดการแผนกการตลาดและการขาย บริษัท ชิเซโด้ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเครื่องสำอางในปีนี้ไม่ค่อยดี และตลาดอาจจะไม่เติบโตมากเหมือนทุกปี อันเนื่องมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดี ราคาน้ำมัน และการเมือง ในส่วนของกลยุทธ์ของบริษัท ช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้เตรียมแผนเด็ดในการกระตุ้นตลาดและเพื่อให้ยอดรายได้ของบริษัทฯเป็นไปตามเป้าหรือมีอัตราการเติบโตขึ้น 5-9%

“ภาพรวมปีนี้เหนื่อย เราต้องทำงานกันอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้พบว่าไม่ดีเลย อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่าภาพรวมตลาดปีหน้าคงจะดีขึ้นกว่าปีนี้ จากการที่การเมืองนิ่งเพราะได้ผู้นำประเทศที่ชัดเจนมากขึ้นแล้ว” นางวนิดากล่าว