Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน6 พฤศจิกายน 2549
ทุนอินเดียจ้องฮุบINOX"ประยุทธ"ไว้ฟอร์มโขกราคาขาย             
 


   
www resources

โฮมเพจไทยน๊อคซ์ สเตนเลส, บมจ.

   
search resources

ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส, บมจ.
Metal and Steel




ธุรกิจ "เหล็ก-สเตนเลส" ถึงจุดที่บริษัทขนาดเล็ก-กลางจะต้องควบรวมเพื่อขยายธุรกิจ และเพิ่มอำนาจการต่อรอง โบรกฯชี้เหตุผล "ประยุทธ มหากิจศิริ" เตรียมทิ้งไทยน๊อคซ์ฯ เพราะความขัดแย้งลูกค้าในประเทศหลังปรับราคาสินค้าขึ้นแบบไร้เหตุผล ประกอบกับการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองหมดยุค "ทักษิณ" เรืองอำนาจ รุกแก้เกมเตรียมเปิดตัวเอ็มดีใหม่ต้นปีหน้า ชี้กลุ่มทุนที่มีโอกาสจ่อซื้อหุ้นมากสุดมาจากอินเดีย ขณะที่ "ประยุทธ" ยังโก่งราคาขาย

นายชำนิ จันทร์ฉาย ประธานกรรมการ บริษัท เจ.ซี.มอร์แกน จำกัด ในฐานะนักอุตสาหกรรม กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจเหล็กและสเตนเลสในปัจจุบันว่า แน้มโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คือ การควบรวมของบริษัทขนาดกลางเนื่องจากหลายบริษัทในประเทศมีจุดเด่น จุดด้อยที่ต่างกัน ซึ่งหากไม่นำความได้เปรียบในแต่ละบริษัทมารวมกันเพื่อขยายธุรกิจโอกาสที่จะประสบความล้มเหลวเป็นไปได้สูง

ทั้งนี้ การแข่งขันที่รุนแรงและผลกระทบที่เกิดจากราคาวัตถุดิบในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นผันผวนค่อนข้างมาก ประกอบกับความจำเป็นที่จะต้องสั่งซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการรายใหญ่รายเดียวของเมืองไทยทำให้บริษัทขนาดกลางและบริษัทขนาดเล็กจะต้องเร่งเพิ่มอำนาจในการต่อรองให้กับตนเองซึ่งการควบรวมกิจการเพื่อให้บริษัทมีขนาดใหญ่ขึ้นและสามารถสั่งวัตถุดิบรวมถึงมีอำนาจในการต่อรองมากขึ้นจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น

แหล่งข่าวบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวถึงสาเหตุและความจำเป็นที่กลุ่มนายประยุทธ มหากิจศิริ ประธานกรรมการ บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) หรือ INOX สนใจที่จะขายหุ้นที่ถือครองทั้งหมดให้กับนักลงทุนรายอื่นว่า ปัจจุบันธุรกิจเหล็กและสเตนเลสใกล้ถึงจุดที่จะต้องมีการควบรวมกันเนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นในธุรกิจ

ทั้งนี้ คาดว่ากลุ่มทุนที่จะเข้ามาซื้อหุ้นจากกลุ่มนายประยุทธ คือกลุ่มทุนจากประเทศอินเดีย แต่สาเหตุที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้เพราะราคาที่นายประยุทธต้องการขายกับราคาที่กลุ่มทุนต้องการซื้อยังแตกต่างกันค่อนข้างมาก โดยส่วนตัวเชื่อดีลดังกล่าวแม้ว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้แต่คงไม่ใช่เรื่องง่าย

สำหรับความขัดแย้งระหว่างนายประยุทธกับลูกค้าของบริษัทในประเทศ เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมาหลังจากที่บริษัทได้มีการขอปรับขึ้นราคาสเตนเลสอีก 8,000 บาทต่อตันจาก 1.24 แสนบาทต่อตันหลังจากที่ราคาเหล็กและสเตนเลสในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยได้ให้พนักงานบริษัทสอบถามความต้องการวัตถุดิบจากลูกค้า

ทั้งนี้ หลังจากนั้น 1 สัปดาห์บมจ. ไทยน๊อคซ์ สเตนเลสได้มีหนังสือแจ้งต่อลูกค้าในประเทศเพื่อยกเลิกออเดอร์สั่งซื้อสินค้าที่รับจองไว้ในสัปดาห์ก่อนพร้อมกลับปรับราคาขายสเตนเลสเพิ่มอีก 1.3 หมื่นบาทต่อวัน ส่งผลทำให้ราคาสเตนเลสเพิ่มขึ้นถึง 2.1 หมื่นบาทต่อวันในช่วงเวลาเพียง 1 สัปดาห์มาอยู่ที่ 1.45 แสนบาทต่อตัน

อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างบริษัทกับลูกค้าส่งผลทำให้ช่องทางการขายสินค้าในประเทศของบมจ. ไทยน๊อคซ์ สเตนเลสต้องมีปัญหาเนื่องจากลูกค้าหลายรายได้รวมตัวกันเพื่อติดต่อกับบริษัทสเตนเสสขนาดใหญ่ในประเทศจีนเพื่อสั่งซื้อสเตนเลสเข้ามาแม้ว่าจะต้องเสียภาษีเพิ่มเติมอีก 5% ก็ตามซึ่งหากคำสั่งซื้อมีจำนวนมากราคาสเตนเลสที่ผู้ประกอบการขนาดกลางรวมตัวกันสั่งซื้อจากคู่ค้าจากประเทศจีนก็จะปรับลดลง

แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า นอกจากเรื่องความขัดแย้งระหว่างลูกค้าของบริษัทกับบริษัทแล้ว การเปลี่ยนขั้นทางการเมืองไทยภายหลังคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเข้ามายึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ส่งผลกระทบที่ชัดเจนต่อบมจ. ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส เนื่องจากนายประยุทธ แสดงตัวที่ชัดเจนว่าเป็นกลุ่มนายทุนของพรรคไทยรักไทย

ทั้งนี้ การแก้เกมของนายประยุทธ เพื่อแก้ปัญหาในเรื่องลูกค้าในประเทศ คือ การเตรียมเปิดตัวกรรมการผู้จัดการบริษัทคนใหม่เพื่อเข้ามาประสานรอยร้าวระหว่างบริษัทกับลูกค้า โดยคาดว่าจะมีการเปิดตัวประมาณเดือนมกราคม 2550 ซึ่งบุคคลที่จะเข้ามาเป็นคนในแวววงอุตสาหกรรม

นายนิโคลัส โซวาร์ ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจเหล็ก กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศจีนมีความพร้อมมากขึ้นในการควบกิจการธุรกิจเหล็กทั่วโลก เนื่องจากจีนอยู่ระหว่างการเร่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มผู้ผลิตเหล็กภายในประเทศจนทำให้กลุ่มผู้ผลิตเหล็กมีความแข็งแกร่งมากขึ้นและยังมีความสามารถในการซื้อกิจการของคู่แข่งในต่างประเทศ

ทั้งนี้ นโยบายของรัฐบาลจีนต่อธุรกิจเหล็ก รวมทั้งนโยบายการลดเงินส่งคืนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มด้านการส่งออก และระบบการออกใบอนุญาตการนำเข้าสินแร่เหล็กถือว่าเป็นนโยบายที่ดี

อนึ่งก่อนหน้า มีกระแสข่าวระบุว่า นายประยุทธเตรียมที่จะขายหุ้นที่ถือทั้งหมด 65.68% ให้กับนักลงทุนต่างชาติที่สนใจ จำนวน 3 ราย ซึ่งแสดงความสนใจซื้อหุ้น แต่ยังตกลงเรื่องราคาไม่ได้ ซึ่งภายหลังนายประยุทธปฏิเสธข่าวการขายหุ้นดังกล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us