เกียรตินาคินปลื้มออกหุ้นกู้มูลค่า 2,500 ล้านบาท นักลงทุนสนใจเพียบ พร้อมเดินหน้านำเงินมาขยายธุรกิจ เล็งปลายปีนี้ออกตั๋วแลกเงิน (B/E) กว่า 3,000 ล้านบาท ให้กับประชาชนทั่วไป มุ่งเป็นทางเลือกในการออมเงินรูปแบบใหม่กับลูกค้าและผู้ที่สนใจ

นางสาวฐิตินันท์ วัธนเวคิน ประธานสายงาน บริหารการเงินและเงินฝาก ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากการที่ธนาคาร ได้เสนอขายหุ้นกู้แบบไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน อายุ 2 ปี และ 3 ปีไป เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้เสนอขายให้กับนักลงทุนสถาบันและประชาชนทั่วไปนั้น ปรากฏว่าได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุน ซึ่งได้เสนอขายหุ้นกู้รวม 2 ชุด ในเบื้องต้น ธนาคารเกียรตินาคิน เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ 2,000 ล้านบาท และได้จัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Greenshoe Option) ไว้ 1,000 ล้านบาท ซึ่งได้ใช้สิทธิ์ exercise option จำนวน 500 ล้านบาท รวมหุ้นกู้ที่เสนอขายครั้งนี้มีมูลค่าเท่ากับ 2,500 ล้านบาท

“หุ้นกู้ดังกล่าวแบ่งเป็น 2 ชุด ชุดที่ 1 มูลค่า 1,580 ล้านบาท อายุ 2 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2551 กำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ 5.72% (Treasury + 0.75%) ต่อปี ชุดที่ 2 มูลค่า 920 ล้านบาท อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2552 กำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ 5.84% (Treasury + 0.85%) โดยมีธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย”นางสาวฐิตินันท์ กล่าว

สำหรับเงินที่ได้จากการขายหุ้นกู้นี้ ธนาคาร จะนำไปขยายการดำเนินงานใน 3 ธุรกิจหลัก คือ สินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย และสินเชื่อเช่าซื้อ และในปลายปีนี้ ธนาคารจะออกตั๋วแลกเงิน หรือ Bills of Exchange (B/E) ให้กับประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นทางเลือกในการออมเงินรูปแบบใหม่กับลูกค้าและผู้ที่สนใจ วงเงินประมาณ 3,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ธนาคารได้เสนอขายหุ้นกู้รวมทั้งสิ้น 2 ครั้ง ครั้งแรกเดือนพฤษภาคม มูลค่า 2,000 ล้านบาท ครั้งที่สอง เดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นหุ้นกู้ระยะสั้น ระยะเวลา 270 วัน มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ของธนาคารทุกชุด ได้รับการจัดอันดับเครดิตจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ "A-" ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" และเมื่อเร็วๆ นี้ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ได้เปิดเผยผลการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (บจ.) จำนวน 402 บริษัทประจำปี 2549 ซึ่งปรากฏว่าธนาคารเกียรตินาคินได้รับการจัดอันดับระดับ 4 ตราสัญลักษณ์หมายถึงดีมาก (คะแนนอยู่ในช่วง 80-89 คะแนน โดยคะแนนเฉลี่ยประจำปี 2549 อยู่ที่ 71 คะแนน) นอกจากนี้ธนาคารยังให้ความสำคัญกับการตั้งสำรองหนี้เพื่อรองรับความเสี่ยงจากการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งได้ตั้งไว้สูงกว่าเกณฑ์ที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนด ปัจจุบันมีเงินกองทุนเท่ากับ 17,080 ล้านบาท โดยมีอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ร้อยละ 22.51 สินทรัพย์รวมเท่ากับ 74,641 ล้านบาท