|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แบงก์กรุงศรีฯ ตีปีกหลังจีอียืนยันซื้อหุ้นเพิ่มทุน เตรียมร่วมจัดทำแผนปีหน้า วาดแผนธุรกิจรายย่อยจะชัดเจนและโดดเด่นขึ้น ขณะที่คาดแนวโน้มดอกเบี้ยไม่แข่งดุ เหตุแบงก์สภาพคล่องแบงก์ใหญ่ยังเหลือและดอกเบี้ยนโยบายเริ่มทรงตัว
นางชาลอต โทณวณิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)(BAY) เปิดเผยว่า ทาง GE Capital International Holdings Corporation(GECIH) ได้ยืนยันการเข้าจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนของธนาคารจำนวน 1,391,000,000 หุ้นภายในวันที่ 10 มกราคม 2550 และ GECIH ยังได้นำหนังสือค้ำประกันของ GE CapitalCorporation บริษัทแม่ของ GECIH ซึ่งได้ออกให้ธนาคารเพื่อค้ำประกันการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทางจีอีฯจะทำการซื้อหุ้นเพิ่มทุนของธนาคารแล้วก็ตาม แต่ขณะนี้จีอีฯยังไม่สามารถชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุนได้ทันที เนื่องจากสัดส่วนหุ้นจะเกินกำหนดที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนด จึงต้องรอให้มีการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ์การซื้อหุ้น (วอร์แรนต์) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 30 ธันวาคม 2549 เพราะจะทำให้มีหุ้นสามัญเพิ่มขึ้น และหลังจากนั้น จีอีสามารถชำระเงินได้จนถึงวันที่ 10 มกราคม 2550
นางชาลอตกล่าวว่า หลังจากที่ทางจีอีเข้ามาจะทำให้แนวทางในการดำเนินธุรกิจรายย่อยของธนาคารมีความชัดเจนขึ้น และหลังจากนี้ 2 เดือนจะเป็นการทำแผนดำเนินงานปีหน้าร่วมกันระหว่างธนาคารกับจีอี ซึ่งทางธนาคารจะเป็นฝ่ายทำแผนเอง และจีอีจะเพิ่มเรื่องการกำหนดเป้าหมายเข้ามา โดยธนาคารจะนำมาปรับเปลี่ยนงบประมาณให้เข้ากับเป้าหมาย
“ธุรกิจสินเชื่อรายย่อยของธนาคารในปีหน้าจะมีความโดดเด่นมากขึ้น มีการปรับเปลี่ยนภาพธุรกิจให้ชัดเจนขึ้น หลังจากที่กลุ่ม GE เข้ามาตกลงซื้อหุ้น ส่วนธุรกิจลูกค้ารายใหญ่ของธนาคารก็ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน”นางชาลอตกล่าว
เชื่อปีหน้าการแข่งขันดอกเบี้ยลดลง
สำหรับการแข่งขันอัตราดอกเบี้ยของธนาคารในปีหน้านั้น น่าจะลดลงเมื่อเทียบกับปีนี้ ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยนโยบายของทางการที่เริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มจะปรับลดลงในปีหน้า ขณะเดียวกันสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ที่อยู่ในระดับที่สูงจะทำให้การระดมเงินฝากของธนาคารขนาดใหญ่ลดลง
“ปัจจัยหลักที่จะทำให้การแข่งขันระดมเงินฝากลดลง ก็คือสภาพคล่องในระบบที่ยังอยู่ในระดับที่สูง รวมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เริ่มทรงตัว ดังนั้น จึงคาดว่าการแข่งขันดอกเบี้ยในครึ่งแรกของปีหน้าจึงไม่น่ารุนแรง”นางชาลอต กล่าว
ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2550 น่าจะเติบโตดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2549 เนื่องจากในปี 2549 มีปัจจัยลบจากเรื่องราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น แต่ปัจจัยต่างๆในปี 2549 เริ่มที่จะดีขึ้นทำให้แรงกดดันต่อการเติบโตของเศรษฐกิจลดลง ดังนั้นเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจึงน่าจะเติบโตได้ดีขึ้นกว่าปีนี้
|
|
|
|
|