Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน30 มกราคม 2546
ปูนใหญ่หวันเศรษฐกิจชะลอ จี้รัฐผ่อนผันน้ำหนักรถบรรทุก             
 


   
search resources

เครือซิเมนต์ไทย
ชุมพล ณ ลำเลียง




"ชุมพล ณ ลำเลียง" วอนรัฐผ่อนผันเรื่องน้ำหนักรถบรรทุก หวั่นกระทบต้นทุนสินค้าและธุรกิจต่างๆชะลอตัวไปมากกว่านี้ เนื่องจากขาดแคลนรถบรรทุก เผยขณะนี้ลุกลามไปถึงการส่งออกบ้างแล้ว ยืนยันราคาขายปูนขยับขึ้น ไม่เกี่ยวกับปูนใหญ่ แต่มาจากการขนส่งขาดแคลน ส่วนผลประกอบการปี45 ปูนใหญ่กำไรโต 92% ประกาศจ่ายปันผลหุ้นละ 30 บาท พร้อมทั้งแตกพาร์เหลือหุ้นละ 1 บาท เพื่อให้หุ้นมีสภาพคล่องมากกว่าเดิม

นายชุมพล ณ ลำเลียง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC กล่าว ถึงกรณีที่ราคาขายปลีกปูนซีเมนต์ในท้องตลาดปรับตัวสูงขึ้นประมาณถุงละ 20 บาทนั้น สืบเนื่องมาจากปัญหารถบรรทุกขาดแคลน เป็นผลสืบเนื่องจาก ความเข้มงวดในเรื่องน้ำหนักการบรรทุกสินค้าที่รัฐผ่อนผันให้เหลือ 26 ตันจากเดิมที่เคยบรรทุกถึง 40 ตัน ทำให้กระทบต่อการขนส่งปูนซีเมนต์ไปด้วย โดยที่บริษัทฯไม่ได้เสนอปรับราคาแต่อย่างใด

ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าราคาค่าขนส่ง ในประเทศที่ผ่านมา ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากมีการบรรทุกน้ำหนักเกิน แต่เมื่อรัฐหันมาบังคับให้รถบรรทุกสินค้าน้ำหนักตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ย่อมทำให้ต้นทุนการขนส่งสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และขณะนี้ต้นทุนการผลิตหลายอุตสาหกรรมก็ได้เพิ่มสูงขึ้น

"ที่ผ่านมารถจะบรรทุกสินค้าน้ำหนักเกินข้อกฎหมายมาโดยตลอด เฉลี่ย 40 ตันต่อเที่ยว แม้ทางการจะผ่อนผันให้เหลือ 26 ตัน ทำให้จำนวน รถบรรทุก ไม่เพียงพอต่อความต้องการ จำเป็นต้องเพิ่มรถบรรทุกอีก ประมาณ 50-60% เพราะช่วงเกิดวิกฤต เศรษฐกิจ รถบรรทุกก็ไม่ว่างอยู่แล้ว เพราะไม่ได้มีการซื้อรถบรรทุกใหม่เพิ่ม ซึ่งแนวทางแก้ปัญหาระยะยาวจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนรถบรรทุก แต่ระยะสั้นรัฐควรผ่อนผันในเรื่องดังกล่าว หากไม่มีมาตรการผ่อนผันเรื่องน้ำหนักในการบรรทุก ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องต่างๆ ก็จะชะลอตัวลง ส่วนต้นทุน ค่าขนส่งก็จะเพิ่มขึ้น" นายชุมพลกล่าว

เดิมบริษัทเคยตั้งเป้าธุรกิจวัสดุก่อสร้าง์ในปีนี้น่าจะเติบโตจากปีก่อนประมาณ 10% แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขนส่งขาดแคลน จึงไม่สามารถระบุได้ว่าจะเติบโตได้มากน้อยแค่ไหน

นายชุมพลฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับขึ้นราคา ปูนซีเมนต์นั้น ปัจจัยหนึ่งมาจากขนส่งที่ขาดแคลนทำให้ปูนขาดแคลนด้วย ส่งผลให้ราคาขายปลีกปูนซีเมนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนที่จะกระทบต่อธุรกิจก่อสร้างนั้นคงเป็นส่วนน้อย เมื่อเทียบกับราคาวัสดุที่เกี่ยวข้อง เช่น หิน และทราย ซึ่งมีสัดส่วนในการใช้มากกว่าปูน 6-7 เท่า

"คนหยุดก่อสร้างบ้านไม่ใช่เพราะขาดปูน แต่คนหยุดก่อสร้างเพราะขาดหินและทราย โดยปูน 1 ตันจะใช้หินและทราย 6-7 ตัน โดยราคาหินและทรายประมาณ 80% มาจากค่าขนส่ง"

นอกเหนือจากรถบรรทุกไม่เพียงพอแล้ว การส่งออกก็ยังติดปัญหาด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะรถและคอนเทนเนอร์ไม่เพียงพอที่จะขนส่งไปที่ท่าเรือ ทำให้มีการชะลอการโหลดสินค้าลงเรือไปบ้างเหมือน กัน ทำให้ขณะนี้เริ่มสินค้าในสต็อกที่รอการจัดส่งบ้างแล้ว
"ปัจจุบันการขนส่งปูนถุงจากโรงงานส่วนใหญ่เป็นการขนจากเอเย่นต์ ทำหน้าที่ส่งให้กับร้านค้าอีกทอดหนึ่ง ดังนั้นการขนส่งส่วนใหญ่อยู่ในมือเอเย่นต์ ยกเว้นแต่ปูนผงที่บริษัทฯจะจัดส่งไปบ้าง "

ปัจจุบันราคาปูนที่จำหน่ายหน้าโรงงาน ตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์นั้น ปูนตราเสือ ตันละ 1,958 บาท ส่วนปูนตราช้าง ตันละ 2,294 บาท

จ่ายปันผลหุ้นละ 30 บาท

นายชุมพล กล่าวถึงผลการดำเนินงานในปี 2546 ว่า บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 5-10% ใกล้เคียงจากปีที่แล้ว โดยธุรกิจหลักที่คาดว่าจะสร้างรายได้มากที่สุดยังคงมาจากกลุ่มปิโตร เคมี รองลงมาคือ กระดาษ และซีเมนต์ เพราะราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่กำลังการผลิตเดินเครื่องเต็มที่แล้ว

สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2545 ก่อนตรวจสอบว่า บริษัทฯและบริษัทฯย่อยมีรายได้รวม 130,072 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 122,643 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,429 ล้านบาท หรือ 6% และมีกำไรสุทธิ 14,676.30 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 92% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 7.634.17ล้านบาท

กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นนี้เกินเป้าหมายที่คาดไว้ เป็นผลมาจากความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นและการฟื้นตัวของภาคการก่อสร้างและการใช้จ่ายของภาครัฐ ทำให้ธุรกิจซีเมนต์มียอดขาย 27,269 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 13%

ส่วนธุรกิจกระดาษและบรรจุภัณฑ์ มียอดขาย 29,305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เนื่องจากปริมาณความ ต้องการของตลาดเพิ่มสูงขึ้น และราคาเยื่อ และกระดาษเพิ่มขึ้น ธุรกิจปิโตรเคมีมียอดขาย 42,394 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% เนื่องจากมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น

นายชุมพล กล่าวต่อไปว่า จากการที่ผลการดำเนินงานของเครือซิเมนต์ไทยดีขึ้น ทางคณะกรรมการบริษัทปูนซิเมนต์ไทยจึงเห็นควรเสนอที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้น ในวันที่ 26 มีนาคม 2546 เพื่ออนุมัติการจ่ายเงินปันผลทั้งปีในอัตราหุ้นละ 30 บาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทฯได้จ่ายเงินปันผล เพียงหุ้นละ 10 บาท

แตกพาร์หุ้นละ 1 บาท

นอกจากนี้ ยังมีมติอนุมัติเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท เหลือเพียงหุ้นละ 1 บาท เนื่องจากปัจจุบันราคาหุ้นSCC อยู่ที่ระดับสูงถึงหุ้นละ 1,300-1,400 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาหุ้นโดยเฉลี่ยในตลาดหลักทรัพย์ อีกทั้งผู้ถือหุ้นได้แสดงความเห็นให้บริษัทฯแตกพาร์เพื่อสร้างสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นมากยิ่งขึ้นด้วย

วานนี้ (29 ม.ค.) หุ้น SCC ปิดตลาดอยู่ที่ 1346 บาท ลดลง 36 บาท หรือเปลี่ยนแปลง -2.60% มูลค่า การซื้อขาย 136.48 ล้านบาท

ออกหุ้นกู้ล็อตใหม่ 6 พันล้าน

นายชุมพล กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมฯคณะกรรมการบริษัทปูนซิเมนต์ไทย อนุมัติออกหุ้นกู้ชุดใหม่ประเภทระบุชื่อผู้ถือ ไม่มีหลักประกัน ไม่ด้อยสิทธิและมีผู้แทนถือหุ้นกู้ มูลค่าไม่เกิน 6,000 ล้านบาท สำหรับผู้ถือหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอน เม.ย.นี้

โดยหุ้นกู้ดังกล่าวจะมีอายุ 4 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2550 อัตราดอกเบี้ยคงที่ตามราคาตลาดขณะที่ออก และมีกำหนดจ่ายอัตราดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน โดยจะเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นกู้บริษัทปูนซิเมนต์ ไทย จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 3/2542 (SCC#3) ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 1 เมษายน 2546 ในอัตราส่วน 50% ของจำนวนที่ครบกำหนดไถ่ถอนเท่านั้น และจะเปิดให้ของซื้อระหว่างวันที่ 10-28 มีนาคม 2546

สำหรับผู้ถือหุ้นกู้บริษัทปูนซิเมนต์ไทย ครั้งที่ 3/2542 ที่มีความสนใจลงทุนในหุ้นกู้ชุดใหม่นี้ สามารถ ศึกษารายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทต่อไป ผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ชุดใหม่นี้ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารนครหลวงไทย ธนาคารทหารไทย ธนาคารดอยช์แบงก์ และธนาคารกรุงศรีอยุธยา

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us