Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤศจิกายน 2549








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2549
See You Tomorrow, Andre! (ตอนที่ 2)             
โดย มานิตา เข็มทอง
 

   
related stories

See You Tomorrow, Andre!

   
search resources

Sports
อังเดร อากัสซี่




หลังจากอังเดร อากัสซี่ ประกาศแขวนไม้เทนนิส เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา ในรายการยูเอสโอเพ่น แฟนๆ ของเขายังคงติดตามว่าเขาจะทำอะไรต่อไป... อันที่จริง อังเดรมีงานนอกสนามควบคู่กับงานในสนามมาตั้งแต่เขาเริ่มต้นชีวิตการเป็นนักเทนนิสมืออาชีพ นั่นคืองานการกุศลซึ่งมาจากความมุ่งมั่นของเขาในการช่วยเหลือพัฒนาเด็กด้อยโอกาสให้เติบโตเป็นคนที่มีคุณภาพ... ในปี 2001 ความมุ่งมั่นของอังเดรเป็นรูปเป็นร่าง มากยิ่งขึ้น เมื่อเขาเปิดตัวสถาบันเตรียมความ พร้อมด้านการศึกษาในระดับอุดมศึกษา อังเดร อากัสซี่ (The Andre Agassi College Preparatory Academy) ซึ่งเปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลไปจนถึงเกรด 12 หลังจากที่สั่งสมแรงกาย แรงใจและแรงทรัพย์ จากผู้สนับสนุนภาคต่างๆ มานานถึง 12 ปี

เมื่อ 12 ปีก่อนเขาก่อตั้งมูลนิธิอังเดร อากัสซี่เพื่อการกุศล (The Andre Agassi Charitable Foundation) เป็นองค์กรที่สนับสนุนด้านสันทนาการและให้โอกาสทาง การศึกษาแก่เด็กและเยาวชนผู้ด้อยโอกาสที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของมลรัฐเนวาดา ซึ่งเด็กเหล่านั้นอยู่ในวัยอยากเล่น อยากลองและเติบโตในพื้นที่ที่แวดล้อมด้วยแหล่งมั่วสุมสิ่งเสพติด การพนัน และมิจฉาชีพทั้งหลาย ฉะนั้นอังเดรคิดว่าแทนที่จะปล่อยให้เด็กเหล่านั้น ลองเล่นหรือลองเสี่ยงกับสิ่งที่อาจจะเป็นภัยต่อ ชีวิตของพวกเขา ก็สนับสนุนให้เด็กเล่น และลองกีฬาที่พวกเขาไม่มีโอกาสได้สัมผัสมากนัก

มูลนิธิอังเดรฯ มีภารกิจหลักในการสนับสนุนเยาวชนค้นพบตัวเองว่าชอบทำในสิ่งใด และสร้างความมั่นใจให้แก่พวกเขาว่า พวกเขาสามารถประสบความสำเร็จได้เหมือนคนอื่นๆ "ตัวผมเองได้รับโอกาสมากมายเข้ามาในชีวิต แต่เด็กเหล่านี้ต้องเผชิญกับอุปสรรคมรสุมมากมาย ดังนั้นหากผมสามารถมีอิทธิพลในทางที่ดีให้แก่ชีวิตของเด็กสักคนหนึ่ง มันก็เป็นสิ่งที่คุ้มค่าแล้ว" อังเดรกล่าวไว้ในที่มาของมูลนิธิของเขา

ในปี 1997 อังเดรเปิดตัวสโมสร The Andre Agassi Boys and Girls Club ภายใต้มูลนิธิอังเดรฯ เป็นศูนย์รวมสันทนาการเป็นที่พบปะทำกิจกรรมร่วมกัน ภายในสโมสร ขนาด 25,000 ตารางฟุต มีสนามบาสเกต บอลในร่ม สนามเทนนิสกลางแจ้ง ห้องคอม พิวเตอร์ ห้องสมุด และศูนย์เยาวชน ซึ่งในช่วงซัมเมอร์มีสมาชิกเข้ามาใช้สโมสรประมาณ 400 คนต่อวัน จากสมาชิกประมาณ 2,000 คน

สโมสรนี้มีทีมเทนนิสเยาวชนใช้ชื่อว่า "ทีมอากัสซี่" นักกีฬาหัวกะทิของทีมนี้ส่วนใหญ่ แล้วไม่มีประสบการณ์การเล่นเทนนิสมาก่อน แต่หลังจากมาฝึกซ้อมกับ Tim Blenkiron ซึ่งเป็นโค้ชของสโมสร ทำให้ทีมอากัสซี่ติดอันดับ 4 ระดับชาติ นอกจากนี้ยังมีทีมบาส เกตบอล ใช้ชื่อว่า "ทีมอากัสซี่ สตาร์ส" ซึ่งก่อตั้งเมื่อ 6 ปีที่ผ่านมานี้เอง นำทีมโดยโค้ช Jermone Riley

สโมสรอังเดรฯ นอกจากจะเป็นที่ฝึกสอนการกีฬาแล้ว ยังปลูกฝังเยาวชนในเรื่องของจริยธรรม การร่วมงานกับผู้อื่นแบบทีมเวิร์ก การรู้แพ้รู้ชนะ และมีน้ำใจนักกีฬา รวมทั้งวางแผนเตรียมความพร้อมให้เด็ก เพื่อศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาอีกด้วย

นอกจากนี้ ในปีเดียวกันนั้นยังเปิดองค์กร Boys Hope/Girls Hopes เป็นโครงการสนับสนุนให้ทุนการศึกษา และดูแลความเป็นอยู่ให้แก่เด็กที่มีอายุระหว่าง 9-14 ปี ที่เรียนดี มีความสามารถ แต่ครอบครัวมีฐานะยากจนมากถึงขั้นผู้ปกครองไม่สามารถเลี้ยงดูได้ หลายคนกลายเป็นเด็กเร่ร่อน เพื่อไม่เป็นการตัดอนาคตของเด็กเหล่านั้น ที่มีทีท่าว่าจะรุ่งโรจน์ในอนาคต องค์กรนี้ยื่นมือเข้าไปช่วยอุปการะในเรื่องของค่าเล่าเรียน ค่าอาหาร ค่าเครื่องนุ่งห่ม และค่าเป็นอยู่ด้านอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันมีนักเรียนชายที่สำเร็จจากโครงการบอยส์โฮปจำนวน 3 คนแล้ว และทั้งสามก็เข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ผ่านทุนขององค์กรอีกด้วย ส่วนโครงการ Girls Hopes สำหรับนักเรียนหญิงอยู่ในระหว่างการเตรียมงาน คาดว่าจะเปิดรับเด็กหญิงได้ในเร็วๆ นี้

อีกโครงการหนึ่งคือ โครงการสถานรับเลี้ยงเด็ก Child Heaven เป็นสถานที่รับอุปการะเด็กตั้งแต่แรกเกิดที่ถูกกระทำทารุณหรือถูกทอดทิ้ง ทางสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งนี้ให้การดูแลเด็กตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน มูลนิธิอังเดรฯ ได้สนับสนุนเงินทุนและการก่อสร้างอาคารเรียนในแก่เด็ก โดยในปี 1997 เปิดตัวอาคารขนาด 10,000 ตารางฟุต ขนาด 6 ห้องเรียน เป็นที่ตั้งของศูนย์อากัสซี่เพื่อการ ศึกษา (The Agassi Center for Education) นอกจากนี้ มูลนิธิอังเดรฯ ยังบริจาคเงินจำนวน 720,000 เหรียญสหรัฐ ในการก่อสร้างอาคาร อังเดร อากัสซี่ เพื่อเด็กป่วยและพิการ (The Andre Agassi Cottage for Medically Fragile Children) ซึ่งอาคารนี้มีขนาด 20 เตียง และเปิดใช้บริการแล้วตั้งแต่ปี 2001

นอกจากนี้เพื่อเป็นการสนับสนุนเด็กให้รักการอ่านการเขียน ทางมูลนิธิอังเดรฯ ยัง สนับสนุนวารสารวัยรุ่นคลาส (Class) ซึ่งใช้เป็นเวทีในการแสดงความสามารถของเด็ก และเป็นที่แลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ความคิดเห็นภายในวารสารมีส่วนที่เป็นเรื่องราวของ Hispanic

โครงการเหล่านี้เป็นเพียงแค่บางส่วนของโครงการที่มีมากมายที่มูลนิธิอังเดรฯ ให้การสนับสนุน และไม่ได้กล่าวถึงในที่ที่ซึ่งแต่ละโครงการมีภารกิจและจุดมุ่งหมายหลักในการสนับสนุนทั้งภาคการเตรียมความพร้อมทางการศึกษาและกิจกรรมหลังเลิกเรียนให้แก่เด็กและเยาวชนผู้ด้อยโอกาส โครงการเหล่านี้จะช่วยฉุดพวกเขาขึ้นมาจากความมืดมน นำพาสู่ทางสว่าง พร้อมที่เจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต

ทั้งหมดนี้เป็นงานนอกสนาม (เทนนิส) ของอังเดร ที่เขาสร้างขึ้นด้วยแรงกาย แรงใจ และแรงทรัพย์ ภายใต้การสนับสนุนอย่างแรง กล้าจากครอบครัว และเพื่อนๆ ในทุกสายอาชีพ งานของเขาในวันนี้คือการพยายามหารายได้เข้ามูลนิธิอังเดรฯ เพื่อสานฝันของเด็กๆ เหล่านี้ให้เป็นจริง ล่าสุด เขาเพิ่งจัด รายการเทนนิสเยาวชนและงานคอนเสิร์ตกาลาดินเนอร์การกุศล ครั้งที่ 11 ของมูลนิธิฯ และจากงานนี้ได้เงินบริจาคถึง 8.6 ล้านเหรียญ ส่วนเงินบริจาคทั้งปี 2006 ได้มากถึง 60.9 ล้านเหรียญ จากผู้บริจาคเกือบแสนราย

ก้าวต่อไปของอังเดร นอกจากงาน การกุศลแล้ว เขายังไม่ละทิ้งงานออกกำลัง (กาย) ที่อยู่คู่กับเขามาตลอดชีวิต ล่าสุดอังเดรเซ็นสัญญากับบริษัท Exclusive Resort ซึ่งให้บริการที่พักตากอากาศระดับหรูส่วนตัว มีทั้งสโมสรและฟิตเนส เซ็นเตอร์ โดยอังเดรจะเปิดบริการศูนย์ออกกำลังกายและเทนนิส อากัสซี่-กราฟ (The Agassi-Graf Tennis and Fitness Centers) ในโลเกชั่นที่เหมาะสม

แน่นอน ชีวิตหลังแขวนไม้เทนนิสมืออาชีพของอังเดร เพิ่งจะเริ่มต้น...

ข้อมูลจาก : www.agassifoundation.org   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us