Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน31 ตุลาคม 2549
สหวิริยาฯไตรมาส3กำไรพุ่ง200%เดินหน้าเพิ่มสัดส่วนตลาดส่งออก             
 


   
www resources

โฮมเพจ สหวิริยาสตีลอินดัสตรี

   
search resources

สหวิริยาสตีลอินดัสทรี, บมจ.
วิน วิริยประไพกิจ
Metal and Steel




สหวิริยาสตีลอินดัสตรี โชว์ผลงานไตรมาส 3 พลิกฟื้นจากขาดทุนกว่า 657 ล้านบาท ในปี 2548 เป็นกำไรสุทธิ 642 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 200% ขณะที่ 9 เดือนกำไรสุทธิรวม 2.2 พันล้านบาท ด้านผู้บริหาร เดินหน้าขยายตลาดส่งออก หลังจากประสบความสำเร็จยอดส่งออกเพิ่มขึ้นจาก 16% เป็น 42% ตามทิศทางความต้องการใช้เหล็กโลก

นายวิน วิริยประไพกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 ว่า บริษัทมีรายได้จากการขายเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน และเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดปรับผิวและเคลือบน้ำมันจำนวน 10,653.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 642.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 197.76% จากไตรมาสเดียวกันของปี 2548 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 657 ล้านบาท และกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.05 บาท

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนของปี 2549 มีรายได้จากการขาย 28,004.9 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,238.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,345.4 ล้านบาท หรือคิดเป็น 150.69% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2548 ที่กำไรสุทธิ 892.8 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.17 บาท

"แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอยู่ในภาวะชะลอตัวตั้งแต่ต้นปี และราคาเหล็กยังคงผันผวนตลอดเวลา บริษัทยังสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนกว่า 200"

สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัท สืบเนื่องจากบริษัทมีการปรับกลยุทธ์ด้านการตลาดให้สอดคล้องกับความต้องการใช้เหล็กของโลกที่เพิ่มสูงขึ้น โดยในไตรมาสนี้บริษัทได้เร่งขยายสัดส่วนตลาดส่งออกเพิ่มมากขึ้นจากเดิม 16% ของปริมาณการขายรวม เป็น 42% ของปริมาณการขายรวม นับเป็นปริมาณที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งตลาดหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ตะวันออกกลาง เอเชีย และยุโรป

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีกำไรขั้นต้นจากการขายและบริการ 1,653.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากไตรมาสเดียวกันของปี 2548 ซึ่งเท่ากับ 541.2 ล้านบาท และมีการปรับลดสินค้าคงคลังเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ จากความพร้อมในการบริหารจัดการด้านวัตถุดิบ บวกกับศักยภาพในการแข่งขันระดับสากล และมีท่าเรือน้ำลึกขนาดใหญ่ของบริษัทฯ ซึ่งสร้างความได้เปรียบในระบบขนส่งสินค้าไปตลาดต่างประเทศ ประกอบกับภาวะอุตสาหกรรมเหล็กโลกโดยรวมมีแนวโน้มขยายตัวในทิศทางที่ดีจากปริมาณความต้องการใช้เหล็กโลกที่มีมากขึ้น ทำให้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า จะสามารถขยายการส่งออกได้อย่างต่อเนื่องตลอดปี 2549   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us