อะโรเมติกส์ เผยผลงานไตรมาส 3 กำไรสุทธิรวมกว่า 2.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 207% ขณะที่งวด 9 เดือนกลับลดลงจากปีก่อนเหลือ 4.2 พันล้านบาท หรือลดลง 6% ผู้บริหาร แจงกำไรไตรมาส 3 พุ่งเกิดจากยอดขายและราคาสินค้าเพิ่มขึ้น

นายเพิ่มศักดิ์ ชีวาวัฒนานนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อะโรเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ATC กล่าวถึง ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 สิ้นสุดณ วันที่ 30 กันยายน 2549 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,816.77 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.91 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 914.87 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.95 บาท หรือกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1,901.90 ล้านบาท คิดเป็น 207.89%

ขณะที่งวด 9 เดือน กำไรสุทธิ 4,253.70 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 4.39 บาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 4,543.86 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 4.71 บาท กำไรสุทธิลดลง 290.16 ล้านบาท หรือลดลง 6.39%

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ATC มี EBITDA จำนวน 3,272 ล้านบาท เพิ่มขึ้นปีก่อน 1,814 ล้านบาท หรือ 124% เกิดจากการเพิ่มขึ้นส่วนต่างของราคาผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบ โดยมีกำไรจากส่วนต่างมูลค่าผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบ (Product to Feed Margin) อยู่ที่ 180 เหรียญสหรัฐต่อตัน จากปี 2548 อยู่ที่ 122 เหรียญสหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 1,869 ล้านบาท คิดเป็น 89.47%

โดยสาเหตุหลักที่ทำให้ส่วนต่างของราคาผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาและปริมาณการขายผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น คือ ด้านราคา ทำให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น 1,300 ล้านบาท โดยราคาเฉลี่ยผลิตภัณฑ์สูงขึ้น 22% คิดเป็นมูลค่า 2,419 ล้านบาท แต่ราคาวัตถุดิบปรับสูงขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าโดยสูงขึ้นเพียง 17% คิดเป็นมูลค่า1,119 ล้านบาท

ขณะที่ปัจจัยด้านปริมาณ ทำให้กำไรเพิ่มขึ้น 569 ล้านบาท เป็นผลจากปริมาณขายเพิ่มขึ้น 138,951 ตัน ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มกำลังการผลิตของ Condensate Splitter จาก 50 KBD เป็น 62 KBD และการเปลี่ยน Adsorbent และอุปกรณ์ภายใน Parex Unit ทำให้ปริมาณพาราไซลีนเพิ่มขึ้น 11,698 ตัน

ส่วนต้นทุนการผลิต (Processing Cost) ไตรมาส 3 ลดจากปีก่อน 32 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากมีรายจ่ายที่เกิดขึ้นเฉพาะไตรมาส 3 ปี 2548 หลายรายการ อาทิ เช่น เงินเพิ่มค่าเบี้ยประกันภัยโรงงานจากการปรับมูลค่าตามจริง 24 ล้านบาท ค่าจ้างที่ปรึกษาเสนองานค่าก่อสร้างAromatics Complex II จำนวน 15 ล้านบาท

ด้านฐานะการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 54,520 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากก่อน 1,497 ล้านบาท หนี้สินรวม 33,614 ล้านบาท ลดลง 300 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 20,906 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,796 ล้านบาท