|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"สุทธิศักดิ์ โล่ห์สวัสดิ์" พร้อมพันธมิตรถือหุ้น AMAC กว่า 50% คาดพร้อมกลับเข้ามาเทรดหมวดปกติได้ภายในปีนี้ ขณะที่ขาดทุนสะสมกว่า 54 ล้านคาดล้างหมดปีหน้า "ธีรชัย" ตั้งเป้ารายได้ปีหน้า 600-700 ล้านบาท เผยเตรียมเซ็นสัญญาได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถแทรคเตอร์ยี่ห้อ ISEKI เพียงรายเดียวในประเทศ เล็งเพิ่มทุนหวังขยายธุรกิจ
นายจักรกฤษณ์ ธนวิรุฬห์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านการเงิน บริษัท อะโกร อินดัสเตรียล แมชชีนเนอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ AMAC กล่าวว่า กลางเดือนที่ผ่านมาบริษัทได้ยื่นข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์เพื่อขอกลับเข้ามาซื้อขายในหมวดปกติ โดยคาดว่าจะสามารถกลับเข้ามาซื้อขายได้ภายในปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินการในเรื่องการแก้ไขเพื่อให้บริษัทออกจากแผนฟื้นฟูกิจการซึ่งจะแล้วเสร็จในช่วงเวลาดังกล่าว
ทั้งนี้การปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นและโครงสร้างทางธุรกิจของบริษัทที่ผ่านมาได้มีการลดทุนจดทะเบียนจาก 75 ล้านบาทเหลือ 20 ล้านบาทก่อนที่จะมีการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงจำนวน 180 ล้านหุ้นทำให้ทุนจดทะเบียนของบริษัทปัจจุบันอยู่ที่ 200 ล้านบาท ในราคาหุ้นละ 1 บาท เท่ากับมูลค่าที่ตราไว้ให้กับพันธมิตรรวม 29รายโดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ นายสุทธิศักดิ์ โล่ห์สวัสดิ์และพันธมิตรประมาณ 50% กลุ่มนายชำนิ จันทร์ฉาย ประมาณ 10% และกลุ่มผู้ถือหุ้นของบริษัทฟาร์อีสท์ แอสเซทส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประมาณ 14% ซึ่งจำนวนหุ้นเพิ่มทุนที่เสนอขายในครั้งนั้นได้มีการจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมจำนวนประมาณ 800 รายของบริษัทฟรีตามสัดส่วนการถือครองรวมจำนวน 6 ล้านบาท
สำหรับข้อมูลทางการเงินของบริษัทในปัจจุบันภายหลังได้รับการลดหนี้จากกลุ่มเจ้าหนี้เดิมจากหนี้สินเดิมประมาณ 6,600 ล้านบาทเหลือเพียง 140 ล้านบาทซึ่งขณะนี้บริษัทได้ดำเนินการชำระหนี้ระยะยาวหมดแล้วเหลือเพียงหนี้ระยะสั้นเท่านั้น โดยปัจจุบันบริษัทยังมีผลขาดทุนสะสมประมาณ 54 ล้านบาทซึ่งคาดว่าภายในปีหน้าน่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้หมด
ขณะที่สินทรัพย์ของบริษัทอยู่ที่ 140 ล้านบาท หนี้สินอยู่ที่ 40 ล้านบาท ส่วนยอดขายของบริษัทไตรมาส 3/49 อยู่ที่ 90 ล้านบาท กำไรสุทธิรวม 9 เดือนอยู่ที่ 14 ล้านบาทโดยมูลค่าหุ้นทางบัญชีอยู่ที่ 0.50 บาทต่อหุ้น
ในส่วนของโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548 อันดับ 1.บริษัท ฟาร์อีสท์ แอสเซ็ท คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 14%โดยภายหลังได้ขายหุ้นในเครือญาติทั้งหมด อันดับ2. นายสุทธิศักดิ์ โล่ห์สวัสดิ์ สัดส่วน 10% อันดับ 3. UBS AG, Singapore Branch สัดส่วน 8% อันดับ 4.นายมนตรี สีหนาทกถากูล สัดส่วน 5%อันดับ 5.นางสาวสุภาพร อรุณเสถียร สัดส่วน 5%
นายจักรกฤษณ์ กล่าวอีกว่า การจัดสรรหุ้นให้กับพันธมิตรของบริษัทแม้ว่าจะทำให้สภาพคล่องของปริมาณหุ้นที่จะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์จะเหลือเพียงประมาณ 25 ล้านหุ้นแต่ผู้ถือหุ้นของบริษัทที่ได้รับการจัดสรรสามารถขายหุ้นออกมาได้ในสัดส่วน 25% ตามเกณฑ์ไซเลนต์พีเรียดหลังจากที่หุ้นกลับเข้ามาซื้อขายในหมวดปกติได้อีกครั้ง ซึ่งจะทำให้ปริมาณหุ้นหมุนเวียน (ฟรีโฟลท) มีอยู่ที่ประมาณ 65 ล้านหุ้นซึ่งก็ถือว่าไม่น้อยจนเกินไป
นายธีรชัย เหรียญทรัพย์ดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท.อะโกร อินดัสเตรียล แมชชีนเนอรี่ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าที่จะกลับมาเป็นกลุ่มผู้นำในธุรกิจประกอบเครื่องยนต์ระบบไดเร็คอินเจ็คชั่น รวมถึงการนำเข้ารถแทรคเตอร์ โดยคาดว่าในปีนี้บริษัทจะมีมาร์เกตแชร์ประมาณ 10% ของอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบันเม็ดเงินในอุตสาหกรรมเครื่องยนต์อยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปีหน้าที่ระดับ 600-700 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากปีนี้ประมาณ 2 เท่าเนื่องจากบริษัทเตรียมที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าภายใต้ยี่ห้อ ISEKI จากประเทศญี่ปุ่นโดยจะนำเข้าและจัดหน้ารถแทรคเตอร์เพื่อการเกษตรในประเทศไทยเพียงรายเดียว ซึ่งเบื้องต้นจะทำสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่าย 2 ปี
"ISEKI ถือว่าเป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันมีรถแทรคเตอร์ของ ISEKI ในประเทศไทยประมาณ 4,000 คันซึ่งเรามองเห็นว่ายังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก ประกอบกับทางญี่ปุ่นก็มองเห็นศักยภาพในการจัดหน่ายของบริษัท ในเรื่องดังกล่าวแม้ว่าสัญญาที่จะต้องทำระหว่างกันอาจจะมีความเสี่ยงอยู่บ้างแต่เราเชื่อว่าเราจะได้รับการต่อสัญญาอย่างต่อเนื่องในอนาคตแน่นอน"นายธีรชัยกล่าว
นอกจากนี้ ในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อนำเงินมาขยายกำลังความสามารถของบริษัท เนื่องจากบริษัทมองเห็นว่าแนวโน้มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก
|
|
|
|
|