CPN ขายหุ้นในส่วนของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ให้แก่บุคคลในวงจำกัดของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ จำนวน 71.9 ล้านหุ้น เพราต้องการเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้นของบริษัท และเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยได้ประโยชน์ขจากการขยายธุรกิจในอนาคต คาดจะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นรายย่อยจากร้อยละ 30.8 เป็นร้อยละ 34.1 ตามความต้องการจากผลสำรวจ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ภัทร เมอร์ริล ลินช์ (สิงคโปร์) และบริษัทหลักทรัพย์ยูบีเอส เอจี เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย
นายนริศ เชยกลิ่น เลขานุการคณะกรรมการ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) (CPN ) แจ้งว่า บริษัทฯ ได้รับแจ้งจากกองทุนเพื่อการร่วมลงทุน (Thailand Equity Fund) ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ซึ่งเดิมถือหุ้นร้อยละ 8.2 ว่าได้ขายหุ้นสามัญที่ถืออยู่ในบริษัทฯ จำนวนรวม 71.9 ล้านหุ้น ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) โดยภายหลังการขายหุ้นดังกล่าว กองทุนเพื่อการร่วมลงทุนยังคงถือหุ้นในบริษัทฯ ร้อยละ 4.9
ทั้งนี้ กองทุนเพื่อการร่วมลงทุนได้แจ้งให้บริษัทฯ ทราบถึงวัตถุประสงค์ในการขายหุ้นสามัญครั้งนี้ว่าเพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นรายย่อย (Free Float) ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่หุ้นของบริษัทฯ และเพิ่มโอกาสให้แก่นักลงทุนรายย่อยได้รับประโยชน์จากการขยายธุรกิจในอนาคตของบริษัทฯ
โดยคำชี้แจงที่บริษัทได้รับจากกองทุนเพื่อการร่วมลงทุนคือ " กองทุนเพื่อการร่วมลงทุน และกลุ่มจิราธิวัฒน์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทฯ ได้หารือและมีข้อตกลงร่วมกันว่า เนื่องด้วยในปัจจุบัน บริษัทฯ ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นได้จากการที่บริษัทฯ ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 50 หุ้นชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET 50)เมื่อเดือนมกราคม 2549 และได้เข้ารวมอยู่ใน MSCI Index เมื่อเดือนพฤษภาคม 2549 กองทุนเพื่อการร่วมลงทุนและกลุ่มจิราธิวัฒน์ เชื่อว่าการเพิ่มสัด ส่วนการถือหุ้น รายย่อยจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่หุ้นของบริษัทฯ และเพิ่มโอกาสให้แก่นักลงทุนรายย่อย ได้รับประโยชน์จากการขยายธุรกิจในอนาคตของบริษัทฯ ดังนั้น กองทุนเพื่อการร่วมลงทุนจึงดำเนินการเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัทฯ ที่ถืออยู่ให้แก่บุคคลในวงจำกัด จำนวน 71,900,400 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 3.3 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมด(2,178,816,000 หุ้น) ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นรายย่อยจากร้อยละ 30.8 เป็นร้อยละ 34.1 ในการดำเนินการนี้จัดทำโดยการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book-Building) เพื่อเสนอขายต่อนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ภัทร เมอร์ริล ลินช์ (สิงคโปร์) และบริษัทหลักทรัพย์ยูบีเอส เอจี เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย "
ทั้งนี้ กองทุนเพื่อการร่วมลงทุน เป็นกองทุนปิดที่มีมูลค่าการลงทุนขนาด 245 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีผู้ลงทุนหลัก ประกอบด้วย Lombard Investment, Inc. ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา และ International Finance Corporation (IFC ) ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มธนาคารโลก (World Bank) กองทุนเพื่อการร่วมลงทุนนี้จัดตั้งขึ้นโดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลประเทศไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการลงทุนในธุรกิจภายในประเทศ ทั้งนี้ นักลงทุนในกองทุนเพื่อการร่วมลงทุน ได้แก่ IFC, California Public Employees' Retirement System ("CalPERS"), Asian Development Bank, DEG (ในกลุ่ม KfW ของประเทศเยอรมัน), กระทรวงการคลังประเทศไทย, ธนาคารพาณิชย์ 10 แห่ง และสถาบันการเงินชั้นนำต่าง ๆ ของไทย
|