|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ตลาดอิฐมวลเบาร้อนระอุ คิวคอนเตรียมขยายฐานตลาดทั่วประเทศ เลิกขายตรง ปรับแผนมุ่งบทบาทผู้ผลิต เร่งเจาะตลาดเอเยนต์ 100% ภายใน 3 ปี พร้อมตั้งศูนย์อบรมผู้รับเหมา ให้ความรู้การใช้ผลิตภัณฑ์ หวังดันตลาดอิฐมวลเบารวมโต
คิวคอน เป็นแบรนด์ของอิฐมวลเบาที่เป็นที่รู้จักกันดี ในฐานะที่เป็นเจ้าตลาดที่ครองมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับ1 ถึง 60-70% จากคู่แข่งในตลาดจำนวน 6-7 ราย ทั้งรายใหญ่และรายย่อย สิ่งสำคัญที่ทำให้คิวคอนขึ้นแท่นเป็นผู้นำในตลาดน่าจะมาจากฐานของตลาดที่แข็งแกร่งและกว้างขวางจากการที่เป็นธุรกิจที่ “แลนด์ แอนด์ เฮาส์” เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และมีการกระจายสินค้าให้กับทุกๆโครงการของแลนด์ฯ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าโครงการก่อสร้างต่างๆ ของแลนด์ฯ มีจำนวนมากมายเพียงใด อีกทั้งยังส่งให้กับโครงการของบริษัทที่ใกล้ชิดกับแลนด์ฯ ทั้งคิว เฮาส์ และเอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ หรือ เอพี
นอกจากนี้การชูจุดขายคุณสมบัติของอิฐมวลเบาที่ประหยัดพลังงาน และทนไฟ กลายเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ตลาดหันมาให้ความสนใจ ยิ่งนานวันยิ่งกินรวบตลาดเก่าอย่างอิฐมอญมากขึ้น เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ดีกว่า แต่ปัญหาที่พบ คือ ผู้ใช้งานทั้งช่างรับเหมาก่อสร้าง สถาปนิก วิศวกรยังไม่มีความเข้าใจในการใช้งานผลิตภัณฑ์อย่างเพียงพอ
รวมทั้งต้องแข่งขันกับคู่แข่งมากหน้าหลายตาที่เดินหน้าเข้ามาขอแบ่งส่วนตลาดอยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ในปีที่แล้วเป็นปีที่แห่งสงครามราคาที่ผู้ประกอบการอิฐมวลเบายอมเฉือนกำไร แห่ลดราคาเพื่อสร้างยอดขายกันสุดๆ จนเหลือราคา 130-140 บาทต่อ ตร.ม. เท่านั้น ทั้งตัวคิวคอนเอง รวมทั้งผู้ประกอบการอื่น เช่น บมจ. ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี หรือ CCP และ บมจ.ซุปเปอร์บล๊อก เพื่อดึงดูดตลาดให้หันมาใช้งานมากขึ้น
สุนทรมโนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและขาย บมจ.ควอลิตี้คอนสตัคชั่นโปรดักส์ ผู้ผลิตอิฐมวลเบาคิวคอน กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดอิฐมวลรวมในปีนี้ค่อนข้างผันผวนไปตามภาวะของตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยในช่วงไตรมาส 3 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มกระเตื้องขึ้น เนื่องจากตลาดเริ่มชินกันสถานการณ์ต่างๆ จึงเริ่มมีการตัดสินใจลงทุน ปัจจุบันยอดขายไตรมาส 3 ของปีนี้มีการเติบโตขึ้น 40%จากไตรมาส 2 ซึ่งมียอดขาย 1.6 ล้าน ตร.ม. จากเป้ารายได้ทั้งปี 8 ล้าน ตร.ม. หรือ 1,000 ล้านบาท
ยอดการส่งสินค้าในส่วนของเอเยนต์ต่างจังหวัดมีการเติบโตมาก ปัจจุบันมีเอเยนต์ในต่างจังหวัดประมาณ 200 ราย และคาดว่าสิ้นปีจะมีถึง 250-300 ราย คิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 200% ส่วนตลาดส่งออกยังมีสัดส่วนไม่มากนักเพียง 3-5% เนื่องจากต้นทุนค่าขนส่งที่สูงขึ้นถึง 100% ทำให้เสียเปรียบคู่แข่งในประเทศอื่นที่อยู่ใกล้เคียงกว่า ขณะนี้อาศัยเพียงการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา เวียดนาม เท่านั้น
ทิศทางการทำตลาดอิฐมวลเบาของคิวคอนต่อจากนี้ กิตติ กล่าวว่า ไม่น่าจะมีสงครามราคาเกิดขึ้นอีก จะมีก็แต่การขึ้นราคา เนื่องจากต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น โดยคิวคอนจะมีการปรับราคาอีกครั้งในไตรมาส 4 แต่ต้องรอดูคู่แข่งก่อน เพราะไม่ต้องการเสียตลาดหากมีการปรับราคาสูงกว่าคู่แข่ง โดยปัจจุบันราคาขายอยู่ที่ 130 บาท ต่อ ตร.ม. จากที่เคยปรับขึ้นจาก 120 บาท ต่อ ตร.ม. เมื่อต้นปี
ปัจจุบันคิวคอนมีสัดส่วนการส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าโครงการและเอเยนต์ 50:50 ทั้งนี้สัดส่วนการทำตลาดในอนาคต จะเลิกขายสินค้ากับลูกค้าโครงการโดยตรง แต่มุ่งไปเจาะตลาดเอเยนต์เพียงอย่างเดียวให้ได้ครอบคลุมทั่วประเทศภายใน 3 ปี เพื่อหันไปเน้นน้ำหนักกับบทบาทของผู้ผลิตมากกว่า และปล่อยให้เอเยนต์ได้เติบโตในการทำตลาดกับลูกค้าโครงการแทน โดยบริษัทฯ จะยังคงสัดส่วนลูกค้าในโครงการแลนด์ แอนด์ เฮาส์ และ เอพี เอาไว้
ในส่วนของความรู้ความเข้าใจในการใช้งานอิฐมวลเบาในกลุ่มผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของตลาดนี้ คิวคอนได้เปิดศูนย์ฝึกอบรมความรู้ด้านคอนกรีตมวลเบา “Q-Con Training Center” ขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ภายในโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา และนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ระยอง มุ่งเจาะกลุ่มสถาปนิก วิศวกร ผู้รับเหมา เจ้าของโครงการ รวมทั้งช่างรับเหมาที่เป็นผู้ใช้งานโดยตรง เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการใช้งาน หวังเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคในต่างจังหวัดที่ยังคงนิยมใช้อิฐมอญอยู่ให้หันมาใช้อิฐมวลเบามากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดรวมอิฐมวลเบาขยายตัวได้อีกมาก
|
|
|
|
|