Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน27 ตุลาคม 2549
ประยุทธส่อทิ้งไทยน็อคซ์เจรจาขายต่างชาติ-มูลค่ารวม8พันล.             
 


   
www resources

โฮมเพจไทยน๊อคซ์ สเตนเลส, บมจ.

   
search resources

ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส, บมจ.
ประยุทธ มหากิจศิริ
Metal and Steel




"ประยุทธ มหากิจศิริ" เตรียมทิ้ง "ไทยน็อคซ์ สเตนเลส" ออกทั้งหมด โดยมีนักลงทุนต่างประเทศ 3 รายสนใจเข้าเจรจา แต่ยังไม่มีข้อสรุปเหตุไม่สามารถตกลงราคากันได้ เหตุ "ประยุทธ" ต้องการขายในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดมาก โบรกเกอร์ชี้ถ้าเจรจาสำเร็จจะเป็นดีลขายกิจการที่ใหญ่สุดของปีนี้ มูลค่ารวมประมาณ 7-8 พันล้านบาท

แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์เปิดเผยว่า ขณะนี้นายประยุทธ มหากิจศิริ ประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ไทยน็อคซ์ สเตเลส จำกัด(มหาชน)หรือ INOX ซึ่งถือเป็นบริษัทที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสเตเลสที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยนั้น มีแผนที่จะขายหุ้นที่ถืออยู่ออกมาทั้งหมด โดยพร้อมที่จะเจรจากับผู้ที่สนใจเข้ามาซื้อ ซึ่งปรากฏว่ามีนักลงทุนต่างประเทศซึ่งเป็นผู้ประกอบการเกี่ยวกับเหล็กและอุตสาหกรรมสเตเลส จำนวน 3 รายที่แสดงความสนใจจะเข้ามาซื้อหุ้นทั้งหมด

อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป เนื่องจากมีกระแสข่าวว่านายประยุทธต้องการที่จะขายหุ้นในระดับราคาที่สูงกวาราคาในตลาดหลักทรัพย์เป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงยังไม่สามารถตกลงกันได้

"ถ้าประยุทธสามารถตกลงกับนักลงทุนต่างประเทศรายหนึ่งรายใดได้ภายในปีนี้ เชื่อว่าดีลขายหุ้นไทยน็อคซ์จะเป็นดีลที่ใหญ่ที่สุดของปีนี้ได้เช่นกัน เพราะเชื่อว่ามูลค่าการซื้อขายจะอยู่ประมาณ 7-8 พันล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมกับที่นักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งจะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และจะต้องทำคำเสนอซื้อหรือเทนเดอร์ออฟเฟอร์จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือก.ล.ต. ซึ่งถ้านำเงินที่จะต้องนำเงินที่ต้องใช้เทนเดอร์ออฟเฟอร์ด้วย ไปรวมด้วยเชื่อวาจะอยู่ในระดับ 1 หมื่นล้านบาทได้เช่นกัน"แหล่งข่าวกล่าว

ทั้งนี้สาเหตุที่กลุ่มนายประยุทธจะขายหุ้นบริษัทไทยน็อคซ์ สเตเลส เชื่อว่าส่วนหนึ่งเกิดจากการที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมานายประยุทธจึงได้นำเงินไปลงทุนเพื่อขยายงานในบริษัทไทยน็อคซ์เป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงอาจจะไม่ต้องการที่จะนำเงินไปลงทุนเพื่อให้เป็นภาระอีกแล้ว จึงตัดสินใจที่จะขายหุ้นออกมาทั้งหมด

นอกจากนี้การที่บริษัทไทยน็อคซ์ สเตเลสเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงต้องหาพันธมิตรต่างประเทศเข้ามาร่วมทุน หรือไม่ก็ขายหุ้นเพื่อให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาบริหารแทน เพราะนักลงทุนต่างประเทศ ถือเป็นกลุ่มทุนที่มีเงินลงทุนจำนวนมาก สามารถนำเงินไปขยายกิจการเพื่อที่จะแข่งขันในตลาดโลกได้

ทั้งนี้ โครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัทไทยน็อคซ์ สเตเลส จำกัด(มหาชน) ณ วันที่ 7 เมษายน 2549 ปรากฏว่ากลุ่มนายประยุทธ ถือหุ้นเป็นจำนวนมาก โดยถือทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งประกอบด้วยบริษัท เลควูด แลนด์ จำกัดถือหุ้น 2,349.78 ล้านหุ้นหรือ 29.37% เป็นอันดับ 1 นอกจากนี้ก็มีนายประยุทธ มหากิจศิริ ถือหุ้น 1,936.20 ล้านหุ้นหรือ 24.20%,นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ถือหุ้น 429 ล้านหุ้นหรือ 5.36% บริษัท เลควูด แลนด์ จำกัด ถือหุ้น 200 ล้านหุ้น หรือ 2.50%,นางสาวอุษณีย์ มหากิจศิริ ถือหุ้น 183.26 ล้านหุ้นหรือ 2.29%,บริษัทเลควูดคันทรี่คลับ จำกัดถือหุ้น 116.58 ล้านหุ้นหรือ 1.46%

อนึ่งในช่วงที่บริษัทไทยน็อคซ์ สเตเลสกระจายหุ้นเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปหรือ IPO ในปี 2547 นั้นปรากฏว่าบริษัทได้ลดจำนวนหุ้นที่เสนอขาย ในส่วนของหุ้นสามัญเดิม ของกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมหรือกลุ่มของนายประยุทธ เนื่องจากไม่พอใจกับราคาไอพีโอ ที่บล.ทิสโก้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหรือลีดอันเดอร์ไรเตอร์ซึ่งกำหนดราคาที่หุ้นละ 2.10 บาท เพราะทางกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมนั้นต้องการที่จะเสนอขายในราคาหุ้นละ 2.50 บาท ดังนั้นสัดส่วนการถือหุ้นของกลุ่มนายประยุทธจึงยังถือว่าอยู่ในระดับที่มากอยู่

จากการสอบถามไปยังนายประยุทธ มหากิจศิริ ประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทไทยน็อคซ์ สเตเลส จำกัด(มหาชน)ปรากฏว่าได้รับคำตอบว่ายังไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ เนื่องจากอยู่ระหว่างการประชุมสำหรับราคาหุ้นบริษัทไทยน็อคซ์ สเตเลสวานนี้(26 ต.ค.)ปิดที่ระดับ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us