Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน26 ตุลาคม 2549
ทีพีไอโพลีนกำไร9เดือนพุ่ง81%โบรกแนะถือราคาเหมาะสม14บ.             
 


   
www resources

โฮมเพจ ทีพีไอโพลีน

   
search resources

ทีพีไอ โพลีน, บมจ.
อรพิน เลี่ยวไพรัตน์




"ทีพีไอ โพลีน" โชว์ผลงานงวดไตรมาส 3 กำไรสุทธิรวม 773 ล้านบาท โดยกำไรจากดำเนินงานตามปกติเพิ่มขึ้นกว่า 34% ขณะที่งวด 9 เดือน กำไรสุทธิ 2.2 พันล้านบาท เพิ่มกว่า 81% และมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นอยู่ที่ 24.75 บาท ส่วนราคาหุ้นบนกระดานวิ่งรับข่าวดีปรับตัวเพิ่มขึ้นไปปิดที่ 10.20 บาท ด้านโบรกเกอร์ แนะนำถือ ให้ราคาเป้าหมายที่หุ้นละ 14 บาท

นางอรพิน เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 772.56 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.59 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 734.43 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.93 บาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 38.13 ล้านบาท หรือ 5.19%

ขณะที่งวด 9 เดือน กำไรสุทธิ 2,244.66 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.33 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,237.04 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.57 บาท หรือกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1,007.62 ล้านบาท คิดเป็น 81.45%

นางอรพิน กล่าวว่า ไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ทีพีไอ โพลีนและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและรายได้รวม 6,029 ล้านบาท และ 6,882 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.70% และ 10.27% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและรายได้รวมจำนวน 5,598 ล้านบาท และ 6,241 ล้านบาทตามลำดับ โดยมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และรายการตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวน 1,019 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ 1,055 ล้านบาท หรือลดลง 3.41% ขณะที่กำไรจากการดำเนินธุรกิจปกติ 561 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 418 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปีก่อน หรือคิดเป็น 34.21%

โดยบริษัทและบริษัทย่อยได้บันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 368 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 200 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา และได้บันทึกการชำระภาษีเงินได้เป็นจำนวน 170 ล้านบาท ในขณะที่ไม่มีการบันทึกรายการดังกล่าวในงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา

สำหรับ งวด 9 เดือนแรกของปี 2549 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินธุรกิจปกติ 1,194 ล้านบาท ลดลง 14.29% จาก 1,393 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิ 2,245 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.49% จากกำไรสุทธิจำนวน 1,237 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 บริษัทมีมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้นเท่ากับ 24.75 บาท

ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้น วานนี้ (25 ต.ค.) TPIPL มีแรงซื้อเข้ามาพอสมควร ทำให้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันก่อน โดยมีราคาสูงสุดที่ 10.30 บาท ต่ำสุด 10.10 บาท ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 10.20 บาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 0.20 บาท หรือ 2.00% มูลค่าการซื้อขายรวม 78.59 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ของ TPIPL ปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ โดยมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 392 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 0.30 บาท) เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 61% แต่ลดลงจากไตรมาส 3 ปีก่อน 6% โดยมีสาเหตุหลักจาก กำไรจากการดำเนินงานภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ปรับลดลงเหลือเพียง 216 ล้านบาท หลังจากที่เพิ่มทุนทำให้ภาระหนี้เงินกู้ลดลงจาก 28,450 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 2/2549 เหลือ 16,804 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 3/2549

อย่างไรก็ตาม เมื่อคำนวณผลกระทบจากการเพิ่มทุน (Dilution effect) หารกำไร 392 ล้านบาท ด้วยหุ้นเต็มจำนวน 2,019 ล้านหุ้น จะทำให้กำไรต่อหุ้นที่ค่อนข้างต่ำเพียง 0.19 บาทต่อหุ้น แต่หากรวมรายการพิเศษคือกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 368 ล้านบาท TPIPL จะมีกำไรสุทธิเท่ากับ 773 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 0.59 บาท) เพิ่มขึ้น 125% แ จากไตรมาสก่อน และ 5% จากปีก่อน

ด้านยอดขายจำนวน 6,029 ล้านบาท เป็นผลจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาขายปูนซีเมนต์ และราคาเม็ดพลาสติก LDPE/EVA ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 23.3% ทรงตัวจากไตรมาสก่อน ขณะที่ราคาขายปูนซีเมนต์ปรับดีขึ้น แต่สเปรดระหว่าง LDPE - Ethylene ลดลง เนื่องจากต้นทุนพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น

"ผลงานที่กระเตื้องขึ้นจริง แต่ยังไม่โดดเด่นนัก เพราะกำไรต่อหุ้นแบบ Fully Dilute ยังค่อนข้างต่ำ ดังนั้นจึงแนะให้ ถือ เพื่อรอพัฒนาการด้านบวกที่เด่นชัดกว่านี้ โดยคงประเมินราคาเหมาะสมเท่ากับ 14 บาท ซึ่งเป็นค่ากลางระหว่าง วิธี 10 เท่าของ P/E ปี 2550 และ วิธี Replacement Cost"   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us