มิลเลนเนียม สตีล ปรับใช้มาตรฐานการบัญชีใหม่ อิงรูปแบบต่างประเทศ ดีเดย์ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้ พร้อมทั้งเพิ่มทุนบริษัทย่อย "เหล็กสยาม" เพื่อให้สอดคล้องกับการดำรงฐานะบริษัทต่างด้าว หลัง Tata Steel เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ก่อนจะประกาศเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "ทาทา สตีล ประเทศไทย" หรือ TSTH

นายสันติ ชาญกลราวี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิลเลนเนียม สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MS กล่าวว่าว ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 26 (4/2549) อนุมัติให้ใช้นโยบายการบัญชี เรื่อง ผลประโยชน์พนักงาน ซึ่งมาตรฐานการบัญชีของไทยยังไม่ได้ประกาศใช้ โดยการใช้มาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศ ฉบับที่ 19 (IAS 19) เรื่อง Employee Benefits แทน ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2549

จากการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางบัญชี อาจจะส่งผลต่องบการเงินประจำปี สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2549 คือ ในงบดุล รายการภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี จะเพิ่มขึ้น 24.76 ล้านบาท และกำไรสะสมต้นงวดจะถูกปรับยอด ลดลง 50.45 ล้านบาท ขณะที่ในงบกำไรขาดทุน จะมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับผลตอบแทนของพนักงานในปี 2549 เพิ่มขึ้น 7.32 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ คณะกรรมการ ยังอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท เหล็กสยาม (2001) จำกัด (SISCO (2001)) (บริษัทย่อยที่ MS ถือหุ้น 99.94%) จาก 1 ล้านบาท เป็น 120 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นสามัญใหม่ 1,190,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (ราคาพาร์) หุ้นละ 100 บาท เสนอขายให้ MS ในราคาพาร์ ทำให้ MS ถือหุ้นใน SISCO (2001) เพิ่มจาก 9,994 หุ้น หรือ 99.94% เป็น 1,199,994 หุ้น หรือ 99.99% เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดการดำเนินธุรกิจของบริษัทต่างด้าว หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทเป็น Tata Steel Limited ส่วน SISCO (2001) จะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนไปชำระหนี้ให้กับบริษัทต่อไป

นอกจากนี้ ได้มีการเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทจาก บริษัท มิลเลนเนียม สตีล จำกัด (มหาชน) (Millennium Steel Public Company Limited) เป็นบริษัท ทาทา สตีล ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (Tata Steel Thailand Public Company Limited) และแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัท และเปลียนแปลงชื่อย่อหลักทรัพย์จาก MS เป็น TSTH หลังจากที่ได้รับอนุมัติการเปลี่ยนชื่อบริษัทจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น และจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ เรียบร้อยแล้ว

ขณะเดียวกัน บริษัทจะเปลี่ยนแปลงรอบปีบัญชีของบริษัทใหม่ โดยเริ่มต้นในวันที่ 1 เมษายน และสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มีนาคม (เริ่มตั้งแต่ปี 2550) จากเดิมรอบบัญชีเริ่ม 1 มกราคม สิ้นสุด 31 ธันวาคมของทุกปี ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวจะนำเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณา โดยกำหนดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 5 (2/2549) ในวันที่ 8 ธันวาคม 2549 เวลา 15:00 น. โรงแรมโซฟิเทลเซ็นทรัลพลาซา กรุงเทพฯ และปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2549 เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป