"บัวทอง" ส้มหล่นรับบริหารงานขายโครงการใหญ่ คลังทอง ซิตี้ 1,081 ยูนิต มูลค่า 2,840 ล้านบาท ย่านอ้อมน้อย เจ้าของแพปูนรายใหญ่ในอ.กระทุ่มแบน รับน้ำท่วมยอดขายบ้านริมแม่น้ำ-คลอง อืด แต่เชื่อหลังน้ำลดยอดขายเข้าสู่ภาวะปกติ คาดบริหารโครงการใหญ่หนุนยอดขายได้ตามเป้า 2,500 ล้านบาท

นายรังสรรค์ หวังไพฑูรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าไปรับบริหารการขายและการตลาดให้แก่โครงการ "คลังทอง ซิตี้" บนถนนเศรษฐกิจ พัฒนาเป็นทาวน์เฮาส์ โฮมออฟฟิต จำนวน 1,081 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,840 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดในขณะนี้

พัฒนาโครงการโดยกลุ่มบริษัท คลังทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ของนาย ทัตภณ เกิดเจริญ โดยมีแนวคิดที่จะพัฒนาเป็นเมืองใหม่ ภายในโครงการจะมีเทศบาล อำเภออ้อมน้อย ซึ่งได้แบ่งซื้อที่ดินโครงการไป 36 ไร่ และบริษัทได้บริจาคที่ดินให้อีก 6 ไร่ ซึ่งเทศบาลเองมีแผนที่จะพัฒนาตลาดขนาด 3 ชั้น ชั้นล่างเป็นตลาดสด อีก 2 ชั้นที่เหลือเป็น ตลาดนัดติดแอร์ นอกจากตลาดแล้ว ยังมีสนามฟุตบอล สนามกีฬา โรงเรียนอาชีวะ

"คลังทอง ซิตี้" ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 180 ไร่ แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์ หน้ากว้าง 5 เมตร 960 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.26 - 1.59 ล้านบาท หน้ากว้าง 4 เมตร 220 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 9.99 แสนบาท โฮมออฟฟิต 4 ชั้นติดถนนใหญ่ ราคา 3.5 ล้านบาท และ 3 ชั้นครึ่ง ติดถนนโครงการ ราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท รวม 121 ยูนิต

อนึ่ง นายทัตภณ เกิดเจริญ ทำธุรกิจแพปูนรายใหญ่ที่สุดในอ.กระทุ่มแบน ดำเนินงานภายใต้บริษัทคลังทองอุตสาหกรรมคอนกรีต ซึ่งก่อนหน้านี้ได้พัฒนาโครงการบ้านจัดสรร ภายใต้ชื่อ พฤกษาธารา 1-5

นายรังสรรค์ กล่าวว่า จากการศึกษาภาพรวมของตลาดในย่านนั้นพบว่ามีคามต้องการสูงมาก เนื่องจากใกล้ย่านอุตสาหกรรมบนถนนพุทธมณฑลสาย 4-5 โรงงานอุตสาหกรรมสมุทรสาคร ประกอบกับการมีแนวคิดที่จะย้ายตลาดเก้าแสน มาอยู่ในตลาดแห่งใหม่ จึงเชื่อว่าจะสามารถดึงดูดลูกค้าได้จำนวนมาก

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ทำการสำรวจโครงการในย่านใกล้เคียงพบว่า มีจำนวนน้อยมาก และก่อนหน้านี้มีโครงการทาวน์เฮาส์ จำนวนกว่า 700 ยูนิต ราคา 1.3-1.4 ล้านบาท ซึ่งอยู่ห่างจากถนนมาก แต่สามารถขายหมดภายใน 1 ปีกว่าๆ เท่านั้น ดังนั้นบริษัทจึงเชื่อว่าจะสามารถขายโครงการหมดภายใน 2 ปีครึ่ง ซึ่งโครงการคลังทองยังได้เข้าร่วมในโครงการบ้านสวัสดิการของสำนักงานประกันสังคม(สปส.) โดยผู้ประกันต้นที่ซื้อโครงการดังกล่าวจะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2.5% เป็นเวลา 5 ปี วงเงินกู้ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท

สำหรับโปรโมชันที่ทางโครงการได้เตรียมไว้ให้แก่ลูกค้า ได้แก่ รถยนต์กระบะ อีซูซุจำนวน 8 คัน ทองคำมูลค่า 1 ล้านบาท 2 รางวัล รวมมูลค่าของรางวัลทั้งหมด 8 ล้านบาท โดยแบ่งรางวัลเป็นอาคารพาณิชย์ลุ้นรถยนต์ 2 คัน ทาวน์เฮาส์ 6 คัน โดยจับรางวัลทุกๆ 50 ยูนิต

"ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างบ้านตัวอย่าง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ และเมื่อโครงการพร้อมเชื่อว่าจะทำให้ยอดขายมีความคืบหน้ามากขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้าว่าจะขายได้ไม่ต่ำกว่า 50 ยูนิต/เดือน" นายรังสรรค์กว่า

นายรังสรรค์ กล่าวว่า ในส่วนการขายของกลุ่มบริษัทบัวทองในช่วงเดือนตุลาคมนี้ไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะโครงการที่รอบนอกเมือง ในซอยหรือติดริมแม่น้ำหรือใกล้คลอง เพราะผู้บริโภคกังวลเรื่องปัญหาน้ำท่วม รวมถึงโครงการด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกของกรุงเทพฯ แต่ในส่วนของโครงการในเมืองหรือคอนโดมิเนียมกลับไม่มีปัญหาด้านการขายแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ภาวะดังกล่าวเชื่อว่าจะคลี่คลายลงได้หลังน้ำลดและเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะปัจจัยลบต่างๆ มีความกดดันน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเมือง อัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาบริหารงานขายให้กับโครงการคอนโดมิเนียมกลางเมืองอีก 1 แห่งหากการเจรจาสำเร็จ รวมถึงยอดขายจากโครงการคลังทอง ก็เชื่อว่าจะสามารถทำให้ยอดขายของบริษัทได้ตามเป้าหรือประมาณ 2,500 ล้านบาท