พลัสฯ ดันแบรนด์ "คอนโดวัน" แทรกเข้าไปเจาะกลุ่มลูกค้าโซนเยาวราช รูปแบบโลว์ไรท์สูง 9 ชั้น มูลค่า 210 ล้านบาท มั่นใจดีมานด์มีต่อเนื่อง เคาะราคาขายเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท แพงสุดกว่า 5-6 ล้านบาท เปิดขายอย่างเป็นทางการ 27 ต.ค.นี้ ด้านแอล.พี.เอ็น.ตอกย้ำคอนเซ็ปต์ LPN X-Place ผนึกบริษัทนำเข้าระบบน้ำดื่ม WaterNet ติดตั้งตู้รองรับความต้องการของคนในโครงการนำร่อง "ลุมพินี นราธิวาส-เจ้าพระยา"
นายเมธา จันทร์แจ่มจรัส ประธานอำนวยการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ จำกัด เปิดเผยถึงความก้าวหน้าของการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ "คอนโดวัน" ว่า ภายหลังที่ได้เปิดขายคอนโดวันทั้ง 9 โครงการ จำนวน 1,500 ยูนิต ตั้งแต่ต้นปี 2549 ปัจจุบันทางบริษัทเหลือขายอยู่เพียง 2 โครงการ คือ คอนโดวันเอ็กซ์ สาทร-นราธิวาส มียอดขายไปแล้วกว่า 70% ของจำนวน 493 ยูนิต และคอนโดวันสาทร มียอดขายไปแล้ว 50% ของจำนวน 70 ยูนิต อย่างไรก็ดี จากการสำรวจตลาดยังพบว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับว่า ผู้ประกอบการจะสามารถเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคได้มากหรือน้อยเพียงใดเท่านั้น แต่เพื่อรองรับความต้องการ ทางบริษัทพลัสฯ ได้ตัดสินใจเปิด 2 โครงการในทำเลเด่น คือ “คอนโด วัน ลาดพร้าว สเตชั่น ติดถนนลาดพร้าวซอย 18 ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน” โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1.399 ล้านบาท ที่ได้เปิดขายอย่างไม่เป็นทางการไปเมื่อวันศุกร์ที่ 20 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า มีเพียงแค่ 3 วัน ก็สามารถสร้างยอดขายได้กว่า 50% ของจำนวน 142 ยูนิต และ “คอนโดวัน โซโห ทำเลทองเยาวราช” ขายในราคาเริ่มต้นที่ 2.49 ล้านบาท หรือราคาประมาณ 90,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งกำหนดเปิดขายในวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคมนี้ เน้นกลุ่มลูกค้าในบริเวณดังกล่าว คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลาม
ทั้งนี้ โครงการ คอนโดวัน โซโห ตั้งอยู่บริเวณใกล้เยาวราช ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่หายากมากในปัจจุบัน มีเนื้อที่โครงการรวม 344.4 ตารางวา เป็นคอนโดมิเนียมแนวราบสูง 9 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวม 54 ยูนิต มูลค่าโครงการ 210 ล้านบาท มีให้เลือก 3 แบบ ประกอบด้วย สตูดิโอขนาด 29 – 36 ตร.ม. จำนวน 16 ยูนิต, แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 40 – 56 ตร.ม. จำนวน 30 ยูนิต และแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 63 – 67 ตร.ม. จำนวน 8 ยูนิต ส่วนโครงการคอนโดวัน ลาดพร้าว-สเตชั่น เนื้อที่โครงการประมาณ 1 ไร่ สูง 9 ชั้น จำนวน 1 อาคาร จำนวนยูนิต 142 ยูนิต มูลค่าโครงการ 307 ล้านบาท มีให้เลือก 3 ขนาด ประกอบด้วย สตูดิโอ ขนาด 29.12–32.06 ตร.ม. จำนวน 67 ยูนิต, 1 ห้องนอน ขนาด 46.32 – 52.31 ตร.ม. จำนวน 68 ยูนิต และ 2 ห้องนอนขนาด 66.16 ตร.ม. จำนวน 7 ยูนิต
"โครงการคอนโดวันที่บริษัทได้นำออกสู่ตลาดจนถึงปัจจุบันแล้ว รวมโครงการเก่าและโครงการใหม่แล้ว 11 โครงการ ปริมาณ 2,000 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมเกือบ 5,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าเฉพาะ 2 โครงการที่เหลือขายจะมีจำนวนเหลือขายไม่เกิน 200 ยูนิต คาดว่าภายในสิ้นปีจะสามารถปิดการขายได้" นายเมธากล่าว ปัจจุบันพลัสฯ มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 600 ล้านบาท มีทั้งสิ้นกว่า 30 โครงการ และโครงการที่รับบริหาร (Property Management) รวม 106 โครงการ
ด้านนายโอภาศ ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทได้เป็นพันธมิตรกับ Family Mart ในการให้บริการร้านสะดวกซื้อในทุกโครงการของLPN ตามนโยบายในการพัฒนาอาคารชุดพักอาศัยแบบบูรณาการ ภายใต้คอนเซ็ปต์ LPN X-Place ที่มุ่งตอบสนองความต้องการของการใช้ชีวิตในเมือง ล่าสุด บริษัทฯ ได้ตกลงผสานความร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัท วอเทอร์ เน็ท จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการระบบน้ำดื่มอัตโนมัติ ภายใต้แบรนด์ "WaterNet" โดยจะเริ่มติดตั้งระบบภายในชั้นพักอาศัยในทุกโครงการ โดยบริษัทฯจะจัดตั้งระบบน้ำดื่มWaterNet ในบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง สำหรับโครงการที่ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว รวมถึงโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เช่น ลุมพินี เพลส นราธิวาส-เจ้าพระยา , ลุมพินี เพลส พหล-สะพานควาย และรวมถึงโครงการในอนาคต ซึ่งบริษัทจะจัดเตรียมระบบท่อน้ำ เพื่อติดตั้งระบบน้ำดื่มในทุกๆ 2 ชั้นของส่วนพักอาศัย เพื่ออำนวยความสะดวก และลดปริมาณการใช้พลังงาน
นายณัฐพล ประดิษฐผลเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอเทอร์ฯ กล่าวว่า บริษัทจะเริ่มต้นในการติดตั้งตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญโครงการแรกคือ ลุมพินี นราธิวาส-เจ้าพระยา ซึ่งทางบริษัทได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของธุรกิจการให้บริการน้ำดื่มสะอาดแก่ผู้ที่พักอาศัยในอาคารสูง โดยมีแผนการตลาดที่เจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ซึ่งเป็นคนกลุ่มเมือง
|