เก็งกำไรหุ้น PAE ไม่หยุด 11 วันทำการราคาหุ้นพุ่งแล้ว 83% หลังตลท.อนุญาตให้กลับมาซื้อขายหมวดปกติอีกครั้งตั้งแต่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา พบทำรายการบิ๊กล็อต 1.6 ล้านหุ้น เป็นเงิน 3.58 ล้านบาท โบรกฯ ประเมินแนวต้านที่ 2.50 บาท

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท พีเออี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PAE หลังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศอนุญาตให้กับมาซื้อขายในหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่งผลทำให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรค่อนข้างมาก ส่วนหนึ่งเนื่องจากแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นหลังสถานการณ์ทางการเมืองชัดเจนมากขึ้น

ทั้งนี้ หุ้น PAE หลังกลับมาซื้อขายในหมวดปกติราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากราคาปิดก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 1.30 บาท โดยราคาหุ้น PAE ล่าสุด (24 ต.ค.) ราคาปิดที่ 2.38 บาท ลดลง 0.02 บาท หรือ 0.83% มูลค่าการซื้อขาย 241.13 ล้านบาท ซึ่งหากเปรียบเทียบกับราคาปิดวันก่อนหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์จะอนุญาตให้กลับมาซื้อขายในหมวดปกติราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.08 บาท หรือ 83.07 %

นอกจากนี้ระหว่างวันมีการทำรายการในกระดานรายใหญ่ 1 รายการ จำนวน 1.6 ล้านหุ้น เป็นเงิน 3.58 ล้านบาท ขณะที่เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา มีการซื้อขายในกระดานรายใหญ่ 1 รายการ จำนวน 2.67 ล้านหุ้น เป็นเงิน 6.06 ล้านบาท

นายอภิสิทธิ์ ลิมป์ธำรงกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด กล่าวถึงการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาหุ้น บมจ. พีเออี (ประเทศไทย) หรือ PAE ว่าการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อนเป็นการปรับขึ้นตามภาพรวมของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับอานิสงส์จากสภาวะเศรษฐกิจดีและอัตราดอกเบี้ยคงที่

ทั้งนี้ หุ้น PAE เป็นหุ้นเก็งกำไรที่ได้รับความสนใจค่อนข้างมากเนื่องจากเพิ่งได้รับอนุญาตจากตลาดหลักทรัพย์ให้กลับมาซื้อขายใหม่ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา โดยบริษัทแนะนำนักลงทุนทยอยขายที่แนวต้าน 2.50 บาท ขณะที่แนวรับประเมินไว้ที่ 2.20 บาท

แหล่งข่าวนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ราคาหุ้น PAE เช้านี้ปรับตัวสูงขึ้น ด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาอย่างหนาแน่น รวมถึงมีการทำรายการในกระดานรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) ซึ่งเชื่อว่าเป็นการเข้ามาเล่นเก็งกำไรของนักลงทุนรายใหญ่ เนื่องจากยังคงมีข่าวในเชิงบวกเข้ามาสนับสนุนหุ้นขนาดเล็ก รวมถึงการที่เพิ่งได้รับอนุญาตให้กลับมาซื้อขายในหมดปกติ

ทั้งนี้ นักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนควรจะมีความระมัดระวังก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน โดยประเมินแนวต้านใหม่ที่ 2.6 บาท หลังจากที่ช่วงเช้าวานนี้ราคาหุ้นได้วิ่งผ่านแนวต้านที่ 2.42 บาทขึ้นมาได้ ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 2.38-2.40 บาท

นายสรเดช ชูเทศระ ผู้อำนวยการพัฒนาธุรกิจและเทรดดิ้ง บมจ.พีเออี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภายหลังที่บริษัทได้ออกจากกลุ่มฟื้นฟูกิจการ (รีแฮปโก้) บริษัทจะพยายามสร้างผลการดำเนินงานให้กับบริษัทให้ได้มากที่สุด ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะสะท้อนออกมาในราคาหุ้น โดยปัจจุบันบริษัทก็มีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนอยู่เดิมแล้ว แต่สัดส่วนการถือหุ้นยังไม่เต็มสัดส่วนที่กำหนดไว้ 30%

นอกจากนี้ บริษัทกำลังเร่งศึกษาการเข้าไปรับงานต่างประเทศหลังจากหยุดศึกษาเรื่องดังกล่าวตั้งแต่เข้ามาอยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งคาดว่างานที่บริษัทจะเน้นยังคงเป็นกลุ่มประเทศที่เคยเป็นลูกค้าเก่า เช่น ประเทศไต้หวัน บรูไน โดยเฉพาะประเทศในตะวันออกกลาง เนื่องจากบริษัทมีความชำนาญในการก่อสร้างทั้งโรงงานปิโตรเคมีและก๊าซ เช่น ซาอุดิอารเบีย