|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
ซัมซุงทุ่ม 50 ล้านบาท จัด 11 Days Special กระตุ้นยอดขายช่วงโลว์ซีซัน งัดแพ็กเกจพิเศษซื้อสินค้าครบ 4 กลุ่ม เอวี เอชเอ ไอที มือถือ รับส่วนลดเงินสดสูงสุด 40% หวังเพิ่มสัดส่วนเฮาส์โฮลด์แชร์ สกัดคู่แข่งขยายฐาน
Digital Convergence ถือเป็นพันธกิจที่ซัมซุงประกาศในปี 2000 มาจนทุกวันนี้การเชื่อมต่อทางเทคโนโลยีหรือดิจิตอลคอนเวอร์เจนซ์ก็ยังไม่เกิดเป็นรูปเป็นร่าง ส่วนหนึ่งเกิดจากโครงสร้างพื้นฐานของบ้านเรายังก้าวไปไม่ถึงโลกแห่งบรอดแบนด์ทำให้สินค้าในกลุ่มเอชเอหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนยังไม่สามารถเชื่อมต่อกับระบบไอทีเพื่อสั่งการหรือสื่อสารได้ นอกจากนี้ดิจิตอลคอนเวอร์เจนซ์ยังทำให้ผู้บริโภคใช้สินค้าของซัมซุงแบบยกชุดเพื่อให้การเชื่อมต่อเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นการตีกันคู่แข่งในอีกทางหนึ่ง แต่เมื่อปัจจุบันยังก้าวไปไม่ถึงจุดดังกล่าว ซัมซุงจึงพยายามหาแคมเปญที่จะเพิ่มสัดส่วนการใช้สินค้าของซัมซุงในครัวเรือนให้มากขึ้น (Household Share)
ซัมซุงใช้งบ 50 ล้านบาทในการทำแคมเปญ 11 Days Special ในช่วง 10 วันคือระหว่าง 21-31 ตุลาคมนี้เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงโลว์ซีซันซึ่งปกติจะกินระยะเวลาตั้งแต่ตุลาคมไปถึงต้นเดือนธันวาคม ในขณะที่หลายแบรนด์จะรอทำโปรโมชั่นในช่วงฤดูขายหรือประมาณธันวาคมไปถึงกุมภาพันธ์ นอกจากความแตกต่างในเรื่องของระยะเวลาแล้ว ยังมีความพิเศษในเรื่องของโปรโมชั่นที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆที่ทำเพียงแค่ลดแลกแจกแถม แต่ซัมซุงจะมีการนำสินค้าทั้ง 4 กลุ่มไม่ว่าจะเป็นหมวดภาพและเสียง (เอวี) เครื่องไฟฟ้าในครัวเรือน (เอชเอ) โทรศัพท์มือถือ และไอที มาทำโปรโมชั่นร่วมกันเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรู้ความหลากหลายของสินค้าซัมซุง รวมถึงเพิ่มโอกาสในการสร้างตลาดให้กับสินค้าแต่ละกลุ่มที่มีการทำโปรโมชั่นร่วมกัน โดยแบ่งเป็น 3 แพกเกจ
Mix & Match เป็นแพกเกจใหญ่โดยลูกค้าที่ซื้อสินค้าของซัมซุง 3 หมวด ในราคารวม 50,000 บาทขึ้นไปจะได้รับส่วนลดเงิดสด 20-30% ส่วนลูกค้าที่ซื้อครบ 4 หมวดจะได้รับส่วนลดเงินสด 25-40% แต่ลูกค้าจะได้รับส่วนลดเงินสดหลังจากซื้อสินค้าไปแล้วโดยส่งเอกสารการซื้อและสมุดบัญชีกลับมาที่ซัมซุงเพื่อที่จะคืนเงินเข้าบัญชีใน 30 วัน ทั้งนี้เพื่อให้บัญชีการซื้อขายของผู้ค้าเป็นปกติ เพราะถ้าคืนส่วนลดเงินสดให้ทันทีจะทำให้บัญชีของผู้ค้ามีตัวเลขที่ต่ำ ดังนั้นซัมซุงจึงเลือกที่จะให้ผู้บริโภคจ่ายเต็มไปก่อนแล้วรับส่วนลดเงินสดทีหลังโดยซัมซุงเป็นผู้ซัปพอร์ตส่วนลดดังกล่าวภายใต้งบ 40 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี Mix & Match ถือเป็นแพกเกจใหญ่ที่ไม่ใช่ทุกคนจะซื้อได้ ดังนั้นซัมซุงจึงทำแพกเกจรองรับตลาดที่ต้องการสินค้า 1-2 ชิ้นด้วย เช่นแพกเกจพรีเมี่ยมที่เป็นการจับคู่สินค้า 2 ชิ้นโดยให้ส่วนลดตั้งแต่ 16-33% ส่วนแพกเกจ Thank you Offer เป็นการขายสินค้าชิ้นเดียวในราคาพิเศษพร้อมของกำนัลโดยมีส่วนลดตั้งแต่ 8-30%
ซัมซุงเชื่อว่าปัจจัยลบต่างๆที่เกิดอยู่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ หรือปัญหาน้ำท่วมจะไม่กระทบกับการทำแคมเปญดังกล่าวเพราะเป้าหมายหลักคือการสื่อสารไปสู่กลุ่ม High Life Seeker ซึ่งมีรสนิยมในการบริโภคสินค้าเทคโนโลยีและถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อที่ดี นอกจากนี้การเกิดน้ำท่วมทำให้สินค้าได้รับความเสียหาย ดังนั้นภายหลังน้ำลดก็จะมีการซื้อสินค้าใหม่ทดแทนของเก่าที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้ และการที่ซัมซุงมีการทำโปรโมชั่นก่อนคู่แข่งถือเป็นชิงตลาดได้ก่อนและถ้าประสบความสำเร็จ หมายถึงความยากลำบากของคู่แข่งที่จะทำโปรโมชั่นตามหลังเพราะลูกค้าซื้อสินค้าไปแล้วก็จะไม่ซื้อซ้ำในเวลาอันสั้นนี้ เว้นเสียแต่สาวกแบรนด์ค่ายอื่นๆอย่างโซนี่ซึ่งจะมีการจัดโปรโมชั่นโซนี่เดย์ทุกๆปลายปีก็จะมีขาประจำที่รอซื้ออยู่แล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีโปรโมชั่นของช่องทางจำหน่ายต่างๆเช่นเพาเวอร์บายซึ่งมีทั้งงานเอ็กซ์โปใหญ่และแคมเปญย่อยตลอดทั้งปี ล่าสุดมีการจัดงาน Hi Technology ภายใต้คอนเซ็ปต์ "สินค้าไฮเทค เก๋ๆ เดิร์นๆ ในราคาเบาๆ" อีกทั้งยังมีการทำโรดโชว์ของแบรนด์ต่างๆในช่วงปลายปีซึ่งจะมีการทำโปรโมชั่นพิเศษ บางส่วนเป็นการแนะนำสินค้าใหม่สำหรับปีหน้า บางส่วนก็เป็นการล้างสต๊อกสินค้าเก่าที่กำลังจะตกรุ่น
"11 Days Special มีวัตถุประสงค์ที่จะสะท้อนความเป็น Total Solution Provider ที่มีสินค้าเทคโนโลยีครบทุกหมวด โดยมีแพกเกจโปรโมชั่นที่หลากหลายเพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกให้เหมาะกับตัวเองและเป็นการสร้างประสบการณ์ในการใช้สินค้าซัมซุงให้กับผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นการเพิ่ม Household Share นอกจากนี้ยังเป็นการปูทางไปสู่ความเป็นไอคอนแบรนด์ของโลกแห่งดิจิตอลคอนเวอร์เจนซ์" อาณัติ จ่างตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ กล่าว
ปัจจุบันซัมซุงประเมินว่าผู้บริโภคไทยในแต่ละครัวเรือนมีการใช้สินค้าของซัมซุง 10% ซึ่งซัมซุงคาดหวังว่าสัดส่วนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเป็น 15-20% ในปีถัดไปและค่อยๆเพิ่มขึ้นในแต่ละปี ทั้งนี้ อาณัติ จ่างตระกูล ให้ทัศนะว่าเฮาส์โฮลด์แชร์เป็นสิ่งที่ซัมซุงให้ความสำคัญมากกว่ามาร์เก็ตแชร์หรือส่วนแบ่งการตลาด เนื่องจากปัจจุบันซัมซุงมีส่วนแบ่งติด 3 อันดับแรกของแต่ละตลาดอยู่แล้ว ดังนั้นบริษัทจึงตั้งเป้าที่จะทำให้แต่ละครัวเรือนมีการใช้สินค้าของซัมซุงมากขึ้น โดยแคมเปญ 11 Days Special ถือเป็นแคมเปญที่ตอบโจทย์ดังกล่าวได้อย่างชัดเจนก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ยุคของดิจิตอลคอนเวอร์เจนซ์ในอนาคต อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้ซัมซุงเคยมีการทำ Cross Selling ด้วยการทำ CRM กับฐานลูกค้าเก่าโดยการยื่นข้อเสนอพิเศษให้ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวกลับมาซื้อสินค้ากลุ่มอื่นๆของซัมซุงในราคาพิเศษ
ทั้งนี้ซัมซุงคาดว่าแคมเปญดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้ยอดขายของซัมซุงในช่วงเดือนตุลาคมมีการเติบโต 50% ในขณะที่ยอดขายทั้งปีตั้งเป้าว่ากลุ่มเอวีรวมกับเอชเอจะมียอดขายทั้งสินค้า 8,000 ล้านบาท โตขึ้น 20% แบ่งเป็นเอวี 60% เอชเอ 40% ส่วนสินค้าในกลุ่มโทรศัพท์มือถือคาดว่าจะมียอดขาย 8,000 ล้านบาท เติบโต 25% ส่วนสินค้ากลุ่มไอทีที่มีปริ้นเตอร์และมอนิเตอร์เป็นสินค้าหลักน่าจะปิดยอดขายได้ 3,000 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 25%
|
|
 |
|
|