ณ…วันนี้บริษัทมหิศร จำกัด อาจจะยังไม่เป็นที่คุ้นเคยของผู้ที่อยู่ในแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
แต่ในเร็วๆ นี้ชื่อนี้จะเป็นที่รู้จักกันทั่วไป
บริษัทมหิศร จำกัด เป็นบริษัทพัฒนาที่ดินในเครือของธนาคารไทยพาณิชย์ มี
ดร. โอฬาร ไชยประวัติ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ และประธานบริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์
บริษัทพัฒนาที่ดินยักษ์ใหญ่ มานั่งในตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทด้วย โดยมีสุเทพ
พรรณสมบูรณ์ ซึ่งมาจากกลุ่มไทยสมุทรพาณิชย์ประกันภัย นั่งในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ
ความจริงแล้วมหิศร ไม่ใช่เป็นบริษัทใหม่ แต่อยู่ในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ที่จดทะเบียนก่อตั้งมาหลายปีแล้ว
เพียงแต่ที่ผ่านมารับงานพัฒนาที่ดินและซื้อขายที่ดินแปลงเล็กๆ ของลูกหนี้แบงก์ที่มีปัญหา
จึงไม่ค่อยมีบทบาทอะไรมากนัก
การเข้าไปลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยพาณิชย์ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่เหมือนกัน
เพราะได้เจ้าไปถือหุ้นอยู่ในธุรกิจเรียลเอสเตทหลายๆ แห่ง ที่ใหญ่ๆ คือ แลนด์แอนด์เฮ้าส์
สยามพาณิชย์พัฒนาอุตสาหกรรม และคริสเตียนี่ แอนด์ นีลเส็น แต่เป็นการลงทุนร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้อยู่แล้ว
มหิศรเป็นกิจการแรกที่ถือว่าเป็นของไทยพาณิชย์ล้วนๆ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะประกอบด้วยผู้ถือหุ้นที่เป็นกิจการในเครือของไทยพาณิชย์เองทั้งหมด
เรียกว่าหลังจากไปร่วมกับคนอื่นๆ มาแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะลงไม้ลงมือเองเสียที
งานชิ้นใหญ่ชิ้นแรกของมหิศรก็คือ การเข้ามารับงานพัฒนาที่ดินโครงการ "ไทยพาณิชย์
ปาร์ค พลาซ่า" ซึ่งเป็นที่ดินในส่วนที่เหลือบริเวณสถานที่ก่อสร้างธนาคารไทยพาณิชย์
สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ บริเวณสี่แยกรัชโยธิน ช่วงระหว่างถนนวิภาวดีรังสิต
กับถนนรัชโยธิน มีพื้นที่รวมของโครงการทั้งหมด 55 ไร่ แบ่งการก่อสร้างทั้งหมดออกเป็น
3 เฟส ๆ แรกจะเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ไทยพาณิชย์ซึ่งจะก่อสร้างเป็นอาคารสูง
37 ชั้น 1 อาคาร อาคารสูง 22 ชั้น 2 อาคาร ในส่วนนี้การก่อสร้างเริ่มแล้วตั้งแต่ต้นปี
2536 และจะอวดโฉมรูปร่างใหม่ประมาณกลางปี 2538
และด้วยความเป็นโครงการแรกของมหิศร บริษัทที่ดำเนินงานก่อสร้างจึงต้องระดับแนวหน้าเช่นกัน
ในเฟสแรกนั้นบริษัทนันทวัน จำกัด ได้งานไป ส่วนเฟส 2 และ 3 บริษัทคริสเตียนี่
แอนด์ นีลเส็น (ไทย) จะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดส่วนควบคุมงานโครงสร้างและสถาปัตยกรรม
ยกให้เป็นหน้าที่ของบริษัทวิศวกรที่ปรึกษาต่อตระกูล ยมนาคและคณะ
และสำหรับโครงการใหญ่ที่รับเป็นโครงการแรกนี้ก็ยังโชคดีที่พื้นที่ขายส่วนหนึ่งผู้ที่เป็นผู้จับจองก็ไม่ต้องหาที่อื่นไกล
แต่ได้จากบริษัทในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ส่วนหนึ่งนั่นเอง
สำหรับก้าวย่างต่อไปของมหิศรนั้น สุเทพ กล่าวว่าได้วางแผนไว้ว่า จะพัฒนาโครงการที่มีขนาดใหญ่
ได้มาตรฐานและราคาสูง โดยน่าจะเป็นตึกสูงลักษณะเป็นคอมเพล็กซ์ครบวงจรมากกว่าโครงการบ้านจัดสรรนอกเมือง
ส่วนที่ดินที่จะพัฒนานั้น ทางบริษัทจะหาที่ดินแปลงต่อๆ ไปมาพัฒนาเองหรืออาจจะเอาที่ดินของแบงก์ไทยพาณิชย์ที่ยึดจากลูกค้ามาทำก็ได้
รวมทั้งที่ดินแปลงต่างๆ ของบริษัทในเครือทำเลที่สนใจเป็นพิเศษก็คือทางด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ
หรือบางนาตราด
"มันถึงเวลาแล้วที่ทางไทยพาณิชย์ต้องเพิ่มบทบาทบริษัทพัฒนาที่ดินของตนเอง
เพราะมีทรัพย์สินอยู่หลายแปลงที่คาดว่าจะนำมาพัฒนาทำประโยชน์ได้มากกว่านี้"
สุเทพกล่าวย้ำ
ดังนั้นความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในบริษัทมหิศรก่อนที่จะเกิดโครงการใหม่ก็คือการปรับโครงสร้างใหม่ของผู้ถือหุ้น
ซึ่งจากเดิมนั้นจะเป็นการถือหุ้นของธนาคารไทยพาณิชย์เอง และบริษัทในเครือทั้งสิ้น
จึงคาดว่าจะมีการดึงบริษัทพัฒนาที่ดินมืออาชีพหลายกลุ่มเข้ามาร่วมด้วยและด้วยสายสัมพันธ์ที่ดีของ
ดร. โอฬาร กับกลุ่มแลนด์แอนด์เฮ้าส์ และสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ทำให้เป็นไปได้มาก
โฉมหน้าผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่อาจจะต้องมีหน้าตาของกลุ่มดังกล่าวมาร่วมวงไพบูลย์ด้วย
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็น่าจะเชื่อได้ว่ามหิศร คงจะเป็นบริษัทพัฒนาที่ดินน้องใหม่ที่กล้าแกร่งพอตัวเพื่อรองรับการเวียนกลับมาบูมอีกครั้งของธุรกิจที่ดินแน่นอน