Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 มกราคม 2546
ทหารไทยเพิ่มทุนหนีข่าว"ควบกิจการ"             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารทหารไทย

   
search resources

ธนาคารทหารไทย




บิ๊กทหารไทย บ่นข่าวเพิ่มทุนรั่ว กระทบแผนเจรจา ผู้ร่วมทุนกลุ่มใหม่ หวังให้ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ก่อนเปิดเผย คาดเพิ่ม ทุนได้ภายในปีนี้ หลังจากการเดินแผนล้างขาดทุนสะสมทันที มั่นใจทำสำเร็จแน่ พร้อมปฏิเสธข่าวควบรวม แบงก์ชาติเห็นด้วยสั่งทำแผน สำรองหนี้และเพิ่มทุนให้มีความชัดเจนภายในสิ้นก.พ.หรือต้นมี.ค.นี้ ยันไม่คิดแทรกแซงเพราะมีฐานะที่มั่นคงดีอยู่แล้ว ด้านแบงก์กรุงเทพ เตรียมล้างขาดทุนสะสมหลังไถ่ถอนแคปส์

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่านายศิริ การเจริญดี รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร ทหารไทยได้เข้าหารือกับธปท.เพื่อหาแนวทางการเสริมฐานะความแข็งแกร่งและการกันสำรองหนี้สงสัยจะสูญในธนาคารทหารไทยเพิ่มขึ้น และกำลังเตรียมทำดังกล่าว ทั้งเรื่องการสำรองหนี้เพิ่ม รวมทั้งแผนการ เพิ่มทุนมาให้ธปท.ได้พิจารณา

ทั้งนี้จากการพิจารณาในเบื้องต้นเห็นว่า เป็น เรื่องที่ดี แต่แผนที่เสนอมายังไม่มีตัวเลขการกันสำรองหนี้เพิ่มเติม และการเพิ่มทุนใหม่ที่ชัดเจนว่าเป็นจำนวนเท่าไร และเงินลงทุนใหม่จะมาจากที่ใด จึงได้ให้ธนาคารทหารไทยกลับไปดำเนิน การจัดทำแผนให้มีความชัดเจนมากกว่าเดิม เพื่อ เสนอกลับมายัง ธปท.อีกครั้งว่า จะมีการสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มเติมจำนวนเท่าไร และจะมีกระบวนการในการเพิ่มทุนใหม่อย่างไร

"คาดว่าแผนการสำรองหนี้และการเพิ่มทุน ใหม่นั้นจะเสร็จประมาณสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพราะเห็นว่าได้จ้างมอร์แกน สแตนเลย์ เป็นที่ปรึกษาและช่วยทำแผนเพิ่มทุนให้อยู่ คาดว่าแผน ต่างๆ จะเสร็จทันในสิ้นกุมภาพันธ์หรือต้นมีนาคมนี้ หลังจากนั้นธปท.ก็จะพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง" ผู้ว่าการธปท.กล่าว

ขณะนี้ยืนยันว่าฐานะการดำเนินงานและฐานะการเงินของธนาคารทหารไทยยังไม่ได้มีปัญหาอะไร ดังนั้นประเด็นของการควบกิจการนั้น คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเชื่อว่าเวลานี้ไม่มีธนาคารแห่งใดที่มีเงินมากเพียงพอให้กับธนาคารทหาร ไทย รวมทั้งประเด็นที่ธปท.จะเข้าไปแทรกแซงก็ไม่เป็นความจริง
ทหารไทยโวยข่าวเพิ่มทุนรั่วกระทบแผน

นายศิริ การเจริญดี รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าธนาคารมีแผนที่จะเพิ่มทุนเพื่อเสริมฐานะทางการเงินให้แข็งแกร่ง เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจในอนาคต รวมทั้งต้องการที่จะตั้งสำรองให้เพียงพออย่างเบ็ดเสร็จโดยที่ไม่ต้องตั้ง สำรองในจำนวนมากเหมือนกับทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา

การเพิ่มทุนดังกล่าวกำลังอยู่ในขั้นตอนของ การทำแผนศึกษาตัวเลขและภาวะตลาดอย่างใกล้ชิด โดยมีความตั้งใจว่า เมื่อแผนทุกๆอย่างออกมาชัดเจนและได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นเรียบร้อยแล้วธนาคารก็จะแจ้งตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทยและเปิดเผยให้ทราบทั่วกัน
"การที่ข่าวเพิ่มทุนของแบงก์ได้ออกมาก่อน ที่แผนทุกอย่างจะเสร็จ มีผลกระทบกับทุกๆ อย่าง ทั้งเรื่องของผู้ถือหุ้น ตลาดหลักทรัพย์ ลูกค้า ที่สำคัญกระทบกับพันธมิตรที่แบงก์กำลังเจรจาให้มาร่วมทุนอยู่ ซึ่งจะต้องเร่งหารือและอธิบายให้กับพันธมิตรให้รับทราบอย่างชัดเจนถึงข่าวเพิ่ม ทุนที่ออกมาก่อนทุกอย่างจะเสร็จอย่างสมบูรณ์" นายศิริกล่าว

สำหรับแผนการเพิ่มทุนนั้น ธนาคารได้จ้าง มอร์แกน สแตนเลย์ เข้ามาทำแผน ซึ่งคาดว่าจะเสร็จภายในเดือนนี้ และจะนำเสนอให้กับคณะกรรมการธนาคารอนุมัติ หลังจากนั้นก็จะนำเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นประมาณต้นเดือนเมษายนเพื่ออนุมัติ และจะดำเนินการเพิ่มทุน โดยจะทำให้เสร็จภายในปีนี้

ประเด็นของการเพิ่มของธนาคารต้องการที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับเงินกองทุนในการ ดำเนินธุรกิจในอนาคตและตั้งสำรองที่เพียงพอ โดยไม่เกี่ยวข้องกับแคปส์ที่จะครบกำหนดไถ่ถอน ในปี 2547 โดยมองการไถ่ถอนแคปส์นั้นเป็นโอกาศมากกว่าที่จะเป็นวิกฤตทำให้ธนาคารเสียหาย เพราะขณะนี้ธนาคารมีต้นทุนกับดอกเบี้ยแคปส์ประมาณปีละ 2,000-3,000 ล้านบาท ทำให้เสียโอกาศในการสร้างกำไรอย่างมาก

"ตั้งแต่ผมเข้ามาทำงานในตำแหน่งรักษาการ กรรมการผู้จัดการ 3 เดือน ทำให้แบงก์มีกำไรถึง 1,100 ล้านบาท แต่จะต้องมาเสียให้กับดอกเบี้ยแคปส์จำนวนมากเป็นการเสียโอกาส" นายศิริกล่าว

เพิ่มทุนเสร็จล้างขาดทุนสะสมทันที

นายศิริ กล่าวต่อไปว่า หลังจากที่ธนาคารได้ เพิ่มทุนเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีแผนที่จะล้างขาดทุน สะสมให้หมดทันที โดยจะใช้ช่องของกฎหมายมหาชน ที่จะนำส่วนล้ำมูลค่าหุ้นมาล้างขาดทุนสะสมที่มีประมาณ 44,000 ล้านบาท ซึ่งการใช้วิธีนำส่วนล้ำมูลค่าหุ้นมาล้างนั้น อาจจะยังไม่หมด ทันที เพราะมีเงินจากส่วนล้ำมูลค่าหุ้นน้อยกว่าขาดทุนสะสม ดังนั้น อาจจะนำผลกำไรจากการดำเนินธุรกิจมาล้างขาดทุนสะสมด้วย
ปฏิเสธควบรวมกิจการ

เมื่อวานนี้ธนาคารทหารไทยได้ส่งข่าวปฏิเสธ การควบรวมกิจการมายังสำนักพิมพ์ต่างๆ โดยชี้แจงว่าธนาคารขอปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงว่าจะไม่มีการควบรวมกิจการระหว่างธนาคารกับธนาคารพาณิชย์อื่นๆ และไม่ได้มีการหารือเรื่องดังกล่าวกับทางการเลยตามที่มีกระแสข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยธนาคารได้มีนโยบายที่จะตั้งสำรองอย่างเดิมที่ เพื่อให้เพียงพอที่จะแก้ปัญหาหนี้ด้อย คุณภาพ หรือเอ็นพีแอลที่มีอยู่ โดยมีเป้าหมายที่ จะให้มีสัดส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญอยู่ในระดับมาตรฐานธนาคารชั้นนำ

และเพื่อเป็นประโยชน์ที่จะลดต้นทุนของธนาคารในการดำเนินการธุรกิจธนาคารมีนโยบาย จะไถ่ถอน Super Caps ในปี 2547 ซึ่งจะลดต้นทุนของธนาคารประมาณปีละ 2,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนนี้จะกลับมาเป็นกำไรของธนาคารต่อไป

ธนาคารได้ว่าจ้างที่ปรึกษามาประเมินข้อมูล ในส่วนนี้เพื่อประกอบการทำแผนการเงินและแผนเพิ่มทุน แผนการเงินดังกล่าวธนาคารได้มีการหารือกับกระทรวงการคลังและผู้ถือหุ้นรายใหญ่อย่างใกล้ชิด โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าแผน การเงินนี้จะต้องแล้วเสร็จสมบูรณ์ก่อนการประชุม สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี

ในปี 45 ธนาคารมีผลการดำเนินงานขาดทุน 160 ล้านบาท นั้น เป็นผลมาจากใน 3 ไตรมาสแรก ธนาคารได้ตั้งสำรองในเกณฑ์สูงกว่า 2,200 ล้านบาท จึงมีผลให้ 3 ไตรมาสธนาคารแสดงผล ขาดทุนสูงเกือบ1,300 ล้านบาท ซึ่งการดำเนินงาน ที่ดีขึ้นเป็นผลมาจากการที่ธนาคารสามารถเรียกเก็บดอกเบี้ยค้างที่ลูกค้าหยุดชำระมาเป็นเวลานาน ได้มากกว่า 200 ล้านบาท ในขณะเดียวกันธนาคาร สามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมได้เพิ่มขึ้นในเกณฑ์สูง และธนาคารไม่มีภาระต้องสำรองอีก จึง ทำให้ผลประกอบการออกมาอยู่ในเกณฑ์ดีดังกล่าว มิใช่เป็นผลมาจากการที่ธนาคารนำสำรองเกินที่ตั้งไว้มา Book เป็นผลกำไร ตามที่นักวิเคราะห์เข้าใจกัน

ธนาคารทหารไทยขอให้ความมั่นใจแก่ลูกค้า และนักลงทุนทั้งหลายว่า ฐานะของธนาคารยังมีความเข้มแข็งมั่นคง ในปี 2545 ที่ผ่านมา ธนาคาร สามารถขยายธุรกิจทั้งด้านเงินฝากและสินเชื่อใน เกณฑ์สูงกว่าค่าเฉลี่ยระบบธนาคารพาณิชย์ผู้ถือ หุ้นใหญ่ของธนาคารมีความมั่นใจว่าธนาคารมีศักยภาพสูงเพียงพอที่จะดำเนินธุรกิจให้เติบโตเข้มแข็งทัดเทียมธนาคารพาณิชย์ชั้นนำได้ต่อไป

บิ๊ก BBLไม่ห่วงไถ่แคปส์ 4.6 หมื่นล.

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการ บริหารธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าธนาคารไม่มีความกังวลเกี่ยวกับการไถ่ถอนหุ้น บุริมสิทธิควบหุ้นกู้ด้อยสิทธิหรือแคปส์ของธนาคารจำนวน 46,033 ล้านบาทมากนัก เนื่องจาก มีแนวทางในการไถ่ถอนอยู่หลายวิธี อีกทั้งยังเหลือเวลาอีกประมาณ 2 ปีที่จะครบวาระการไถ่ถอนดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องรีบหาวิธีมากนัก

การที่จะเลือกใช้วิธีใดไถ่ถอนแคปส์ของธนาคารนั้น จะต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่างประกอบด้วย เช่น เรื่องของต้นทุนที่จะต้องทำให้ ได้ต่ำกว่าต้นทุนของแคปส์ เรื่องของจำนวนที่จะไถถอนระยะเวลาที่เหมาะสม

"เราจะเลือกวิธีที่ดีที่สุด เพราะมีหลายทางเลือกทั้งเพิ่มทุน รีไฟแนนซ์หรือผสม ทางเลือกต่างๆ ไม่ได้มีความหนักใจ ซึ่งคณะกรรมการจะเป็นผู้พิจารณา อย่างไรก็ตามการไถ่ถอนขึ้นอยู่กับผลประกอบการด้วย หากออกมาดีก็ไม่จำเป็น ต้องเพิ่มทุน" นายโฆสิตกล่าว
เล็งล้างขาดทุนสะสม

การไถ่ถอนแคปส์ของธนาคารนั้นจะช่วยลด ต้นทุนให้กับธนาคารจำนวนมาก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของแคปส์อยู่ในระดับ 11% ซึ่งเมื่อเทียบ กับต้นทุนดอกเบี้ยอื่นๆ ของธนาคารแล้วสูงมาก หลังจากที่ลดต้นทุนดังกล่าวจะส่งผลให้ธนาคารมีผลการดำเนินงานที่เป็นกำไรทันทีทำให้มีฐานะทางการเงินที่เข้มแข็งขึ้นนอกจากนี้การดำเนินธุรกิจ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องธนาคารจึงมีนโย-บายที่จะล้างขาดทุนสะสมทันทีในช่วงปี 2547

สำหรับผลประกอบการในปีนี้คาดว่าน่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยมีกำไรสุทธิ 6,000 กว่า ล้านบาท แบ่งเป็นกำไรในแต่ละไตรมาส 1,500-2,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นแนวโน้มของกำไรที่ดี จึงมั่นใจว่าปีนี้จะเป็นปีที่มีโอกาสทางธุรกิจต่อเนื่อง จากปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการปล่อยสินเชื่อน่าจะได้ตามเป้าหมายเพิ่มสุทธิ 2-3% ของฐานสินเชื่อรวม

"ปีนี้ถึงปี 47 คงไม่มีอะไรที่จะวิตกเรื่องการ ขยายงานและปีนี้ผลประกอบการน่าจะใกล้เคียง กับปี 45 เนื่องจากธนาคารมีโอกาสขยายธุรกิจได้ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามแม้ว่า จะมีภาวะการแข่งขันที่รุนแรงแต่เมื่อบวกลบคูณหารแล้วไม่น่าจะต่ำกว่าปีที่ผ่านมา" ประธานกรรมการบริหารกล่าว

สำหรับการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ธนาคารจะตั้งตามกำลังของธนาคาร หากมีเม็ดเงินในปริมาณที่มาก หรือมีกำไรเพิ่มขึ้นธนาคารก็จะตั้งเพิ่มขึ้น จะพิจารณาเป็นรายไตรมาส ส่วน เรื่องการเพิ่มทุนนั้น ในปีนี้ยืนยันไม่เพิ่มทุน หาก ผลประกอบการดีก็ไม่ต้องเพิ่มทุน และคาดว่าจะมีกำไรที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ส่วนเรื่องอัตรา ดอกเบี้ยนั้น ในระยะนี้คงไม่มีการเปลี่ยนแปลง สำหรับสภาพคล่องของธนาคาร ณ ปัจจุบันยังทรงๆ อยู่ ถ้าขยายธุรกิจได้มากก็จะช่วยลดสภาพ คล่องได้มาก

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us