บล.ธนชาต เผย แผนการดำเนินงานปีหน้า เล็งเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนต่างชาติ-สถาบันในประเทศ ดันมาร์เกตแชร์เพิ่มเป็น 4% จากขณะนี้ 3.2% พร้อมเปิดสาขาอีก 5 สาขา “อัศวินี” แย้มกำลังศึกษาต้นทุนเปิดไซเบอร์บลานซ์ คาดรายได้ปีนี้โต15-20%จากปีก่อน 900 ล้านบาท

นางอัศวินี ไตลังคะ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการจัดทำแผนการดำเนินงานในปี2550 โดยบริษัทตั้งเป้าจะมีส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์) ที่ 4.2% เนื่องจาก บริษัทจะมีการเพิ่มจำนวนลูกค้านักลงทุนสถาบันต่างประเทศมากขึ้นเป็น 28% จากขณะนี้ที่ 22% จากการที่บริษัทได้มีการร่วมมือทำธุรกิจร่วมกับ บริษัทหลักทรัพย์ บีเอ็นพี พารีบาส์ พีรีกรีน ในการส่งคำสั่งซื้อขายมายังบริษัท และจากการพาบริษัทจดทะเบียนไปนำเสนข้อมูล (โรดโชว์)ต่างประเทศมากขึ้น

สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่บริษัทจะนำไปโรดโชว์นั้นจะให้ทางฝ่ายวิจัยเป็นคนพิจารณาว่าในช่วงไหนเหมาะที่จะนำบริษัทในกลุ่มใดไปโรดโชว์ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นบริษัทในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ สื่อและสิ่งพิมพ์ อสังหาริมทรัพย์ อาหาร ซึ่งคาดว่าจะไปประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 2 ครั้ง ประเทศอังกฤษ 2 ครั้ง และประเทศในแถบเอเชีย เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ฯลฯ

นอกจากนี้บริษัทจะมีการเพิ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศเป็น 15% จากขณะนี้ที่มี 12% ซึ่งจะเจาะกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.)ต่างๆมาเป็นลูกค้าของบริษัทมากขึ้น โดยที่บริษัทจะมีการพัฒนาในเรื่องบทวิเคราะห์ให้มีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งขณะนี้บริษัทมีลูกค้าเปิดบัญชีซื้อขายจำนวน 26,236 บัญชี โดยเป็นบัญชีลูกค้าใหม่จำนวน 3,373 บัญชี ซึ่งปกติแล้วบริษัทจะมีลูกค้าใหม่เปิดบัญชีปีละประมาณ 3,000 บัญชี

“ 9 เดือนปีนี้บริษัทมีมาร์เกตแชร์เพิ่มขึ้นเป็น 3.21% มาอยู่ในอันดับที่ 12 จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี 2.52% อยู่ในอันดับที่ 18 เพราะ บริษัทมีการร่วมมือกับ บล.บีเอ็นพี พารีบาส์ฯซึ่งปีนี้ก็จะครบ 1 ปีในการทำธุรกิจรวมกัน ซึ่งแผนการดำเนินงานในปีหน้านั้นบริษัทจะมีการเพิ่มสัดส่วนลูกค้าสถาบันในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น จากการไปโรดโชว์ต่างประเทศ เพราะ หลังจากการไปโรดโชว์ทุกครั้งบริษัทจะมีปริมาณคำสั่งซื้อขายมากขึ้น และบริษัทจะมีการพัฒนาในเรื่องบทวิเคราะห์ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้นซึ่งแผนการดำเนินงานของบริษัทนั้นตั้งเป้ามีมาร์เกตแชร์ 5% ในปี51 ”นางอัศวินี กล่าว

นางอัศวินี กล่าวว่า ในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มอีก 5 สาขา จากปัจจุบันที่มี 29 สาขา ซึ่งสาขาที่จะเปิดใหม่นั้นจะอยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะใช้เงินลงทุนสาขาละประมาณ 3 ล้านบาท และขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาต้นทุนในเรื่องการเปิดเปิดสาขาไซเบอร์บลาซ์ ที่มีความเหมาะสม จากขณะที่บริษัทมีสาขาไซเบอร์บลาซ์เพียง 1 สาขา

ทั้งนี้สำหรับรายได้ปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 15-20% จากปี48 ที่มีรายได้ประมาณ 900 ล้านบาท ซึ่ง 9 เดือนปีนี้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 35% จากปีก่อนหรือประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ 80% รายได้จากการลงทุน 13% และรายได้ด้านวาณิชธนกิจ 7-8% ซึ่งขณะนี้บริษัทมีเจ้าหน้าที่การตลาดจำนวน 346 คน

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นในปีหน้าคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีนี้ เนื่องจากการเมืองมีความชัดเจนทำให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐบาลก็จะส่งดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น โดยคาดว่ามูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันปีหน้าจะอยู่ที่ 18,000 ล้านบาทต่อวัน จากสิ้นปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 16,000 ล้านบาทต่อวัน