Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 ตุลาคม 2549
PYLONยื่นประมูลงานกว่า400ล้านหาBACKLOGเพิ่มรอเมกะโปรเจ็กต์             
 


   
search resources

ไพลอน, บมจ.




PYLON เผยแม้โครงการเมกะโปรเจ็กต์ยืดไปออกในปีหน้า แต่บริษัทยังเดินหน้าประมูลงานเพื่อเพิ่มงานมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท เพื่อหางานในมือเพิ่มอีกจากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 200 ล้านบาท คาดรู้ผลเร็ว ๆ นี้ ส่วนผลงานไตรมาส 3 คาดออกมาดี แม้ช่วงแรกจะได้รับผลพวงจากปัจขจัยรอบด้านกระทบต่อการดำเนินงานบ้าง และจะส่งผลดีต่อไปในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ขณะที่ปี 50 มั่นใจสดใสแน่

นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) (PYLON) เปิดเผยว่าการประมูลงานเมกะโปรเจ็กต์ของรัฐบาลต้องยืดออกไปเป็นช่วงปี 50 และจะเห็นภาพชัดเจนได้ในครึ่งหลังปี 50 แล้ว ดังนั้นจึงมั่นใจว่าในปีหน้าภาพรวมเศรษฐกิจจะดีขึ้นกว่าปีนี้แน่นอน เพราะการมีรัฐบาลชุดใหม่ที่มีประสบการณ์มาแล้ว ย่อมทำให้เกิดผลดีต่อการบริหารประเทศ ซึ่งโครงการรถไฟฟ้า 3 สายของรัฐที่จะเกิดขึ้นนั้น เป็นเป้าหมายหลักหนึ่งของ PYLON ที่เล็งเข้าประมูลและมั่นใจว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคนี้ด้วย

" รัฐบาลชุดนี้ ผมเชื่อว่ามีประสบการณ์และสร้างความมั่นใจต่อนักลงทุนได้ ส่วนเราก็ต้องรอสรุปผลว่าโครงการรถไฟฟ้า 3 สายว่าจะออกมาแบบไหน แต่ผมอยากให้ออกมาปีละสาย เพราะทำปีละโครงการน่าจะดีกว่า หากออกมาพร้อมกันทีเดียว ผู้รับเหมาก็คงทำงานกันหนักมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็คงต้องรอผลจากมติคณะรัฐมนตรีว่าจะมีความชัดเจนออกมาเมื่อไหร่ " นายบดินทร์กล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้โครงการเมกะโปรเจ็กต์จะยืดออกไปอีก แต่ PYLON เองก็ยังต้องเข้าประมูลงานใหม่ ๆ เพิ่มด้วย เพื่อให้งานในมือ (BACKLOG) เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่บริษัทมีงานในมือประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งยังมีงานอื่นที่ทะยอยออกมาอีกเรื่อย ๆ โดยขณะนี้บริษัทได้ยื่นประมูลงานกว่า 400 ล้านบาท และคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่งานที่บริษัทยื่นประมูลนั้น บริษัทจะได้งานประมาณ 25% ของงานที่ยื่นประมูลทั้งหมด

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปีนี้ที่กำลังจะประกาศผลออกมานั้น ยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากเหตุทางการเมืองที่อึมครึม รวมทั้งราคาน้ำมันและต้นทุนราคาเหล็กที่สูง รวมทั้งน้ำท่วม ซึ่ง PYLON ได้รับผลพวงมาตั้งแต่ไตรมาส 2 และจะส่งผลกระทบมาถึงไตรมาส 3 ด้วยเช่นกัน

" ต้นทุนการดำเนินงานไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนต่าง ๆ พุ่ง รวมทั้งการเกิดน้ำท่วม ทำให้งานของเราหยุดชะงัก ทำให้ภาพรวมแล้วไตรมาส 2 และ 3 ตกลง ซึ่งไตรมาส 3 ได้รับมาประมาณครึ่งหนึ่งด้วย เพราะหลังจากมีการเกิดการปฎิรูปการเมืองแล้ว ก็มีความชัดเจนและจะส่งผลดีต่อการดำเนินงานของเราด้วย " นายบดินทร์กล่าว

ดังนั้น ผลจากปัญหาการเมืองคลี่คลาย แต่ราคาน้ำมันที่แม้จะปรับลดลงมาหลายครั้ง แต่ก็ยังต้องคอยติดตามเรื่องราคาน้ำมันให้ต่อเนื่อง เพราะเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวและความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มสูงมาก อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันทะยานขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลต่อต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทด้วย

อย่างไรก็ตาม สำหรับงานประมูลใหม่ที่ยื่นเสนอนั้น ก็สามารถคิดราคางานได้ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจริง ดังนั้นผลงานไตรมาส 4 ปีนี้จะขยับขึ้นได้ และคาดว่าน่าจะสูงกว่าไตรมาส 3 และส่งผลไปถึงปีหน้าด้วยเช่นกัน ส่วนราคาวัตถุดิบที่ปรับลดลงในระยะที่ผ่านมาทั้งถือเป็นเรื่องดีทั้งราคาน้ำมันปรับลด ราคาเหล็กมีแนวโน้มชะลอตัว ก็จะส่งผลต่อบริษัทในไตรามาสสุดท้ายปีนี้ด้วย ทำให้ภาพรวมปีนี้ของบริษัทน่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้คือรายได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท

สำหรับราคาหุ้นของ PYLON ระยะหลังมานี้ดูเหมือนจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากกว่าก่อนหน้า เห็นได้จากราคาหุ้นที่ขยับเพิ่มขึ้นถือเป็นสัญญานที่ดี อาจเพราะนักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจในศักยภาพของบริษัท และแนวโน้มรายได้ที่น่าจะทำได้ตามเป้าหมายในปีนี้ เพราะอย่างน้อยไตรมาสสุดท้ายผลการดำเนินงานของบริษัทจะกลับเข้าสู่ปกติ หลังจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมาบริษัทได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายอย่างรอบด้าน ซึ่งขณะนี้ก็เริ่มคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการดำเนินงานของบริษัท เพราะอย่างน้อยที่สุดงานโครงการต่าง ๆ ก็ย่อมต้องมีงานเสาเข็มพ่วงด้วยเสมอ

โดยราคาหุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้นพบว่าช่วงเช้าแม้จะบวกไป 2.26 บาท แต่ช่วงบ่ายราคากลับปรับลดลงมาจนปิดตลาดราคาหุ้นปิดที่ 2.22 บาท ลดลง 6 สตางค์ หรือคิดเป็นลดลง 2.63% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 403,000 บาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us