|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ศาลปกครองสูงสุดยกคำร้องของศาลปกครองกลางกรณีสั่งคุ้มครอง IEC ตลท.มีสิทธิใช้มาตรการเต็มที่หากการซื้อขายผิดปกติ ด้านทนายเผยเตรียมข้อมูลต่อสู้คดีฟ้องค่าเสียหายเน้นความจำเป็นในการใช้มาตรการเพื่อรักษาความเรียบร้อยในการซื้อขาย "สุมิท" เปรย ไม่ได้ต่อต้านมาตรการแค่หวังให้ทุกฝ่ายทำตามกติกาเดียวกัน ขณะที่ตลท.ยันการใช้มาตรการห้ามเน็ต-มาร์จิ้นมีกฎระเบียบที่ชัดเจน
วานนี้ (19 ต.ค.) ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายกคำร้องกรณีที่ศาลปกครองกลางที่สั่งคุ้มครองบริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC กรณีตลาดหลักทรัพย์มีคำสั่งห้ามซื้อขายในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading) ของหลักทรัพย์ IEC ชั่วคราว โดยมีผลตั้งแต่วานนี้เป็นต้นไป
นายศุภกร พลกุล ทนายความฝ่ายตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ภายหลังศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยกคำร้องคุ้มครองของศาลปกครองกลางทำให้ตลาดหลักทรัพย์ในฐานะเป็นหน่วยงานที่กำกับการดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์บริษัทจดทะเบียนสามารถดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ของตลาดหลักทรัพย์ได้อย่างเต็มที่ หากการตรวจสอบของทีมงานพบว่าการซื้อขายมีความผิดปกติและมีความจำเป็นจะต้องใช้มาตรการอย่างหนึ่งอย่างใด
ทั้งนี้การพิจารณาของตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับการใช้มาตรการกับบริษัทจดทะเบียนจะต้องพิจารณาถึงเหตุผลในการใช้และจะต้องพิจารณาจากภาพรวมการซื้อขายประกอบ ซึ่งการใช้มาตรการเพื่อเป็นการดูแลภาพรวมการซื้อขายให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย หากผู้ที่มีอำนาจในการสั่งการไม่สามารถควบคุมให้ทุกอย่างเรียบร้อยได้ การซื้อขายก็อาจจะไม่ได้อยู่ในสภาพที่ปกติได้
"หลังจากนี้ก็ไม่สามารถแย้งคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดได้ เนื่องจากถือว่าสิ้นสุดแล้ว ส่วนกรณีการฟ้องค่าเสียหายก็ต้องให้เป็นไปตามขั้นตอนของศาลฯต่อไป" นายศุภกรกล่าว
นายศุภกร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีการฟ้องร้องเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นคนละกรณีกับการยกเลิกคำสั่งของศาลปกครองวานนี้ โดยกระบวนการในเรื่องดังกล่าวจะต้องรอให้ศาลเป็นผู้พิจารณาซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการนัดสืบพยานแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ข้อมูลที่ตลาดหลักทรัพย์เตรียมไว้ใช้ในการต่อสู้ในคดี คือ ความจำเป็นที่จะต้องมีการใช้มาตรการหนึ่งมาตรการใดเพื่อสร้างความเรียบร้อยให้กับการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยการดำเนินการใดๆ ของตลาดหลักทรัพย์มีผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในเรื่องนั้นๆคอยดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว
นายสุมิท แช่มประสิทธิ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการ บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC กล่าวว่า คำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดถือว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้แล้ว เพราะการยื่นคำร้องต่อศาลปกครองของบริษัทเป็นเพราะว่าได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมจากหน่วยงานที่กำกับดูแล
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาก่อนที่บริษัทจะยื่นเรื่องต่อศาลปกครองกลางเพื่อให้มีการคำสั่งคุ้มครองการปฏิบัติของบริษัทในเรื่องต่างๆ จะถูกขึ้นเครื่องหมาย รวมถึงใช้มาตรการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยการใช้มาตรการห้ามเน็ต-มาร์จิ้นหุ้น IEC รวมแล้วประมาณ 270 วัน ซึ่งทำให้บริษัทไม่สามารถขยายงานของบริษัทได้สะดวกเนื่องจากติดปัญหาในเรื่อดังกล่าว
"เราไม่ได้ต่อต้านมาตรการต่างๆ เราแค่อยากให้ทุกคนเล่นในกติกาเดียวกัน ซึ่งทั้งผู้เล่นและผู้ที่กำกับดูแลก็ต้องเล่นในกติกาเดียวกัน ไม่มีการใช้มาตรฐานที่ต่างกันมาตัดสิน" นายสุมิทกล่าว
นายสุภกิจ จิระประดิษฐกุล ผู้ช่วยผู้จัดการสายงานกำกับตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์มีระเบียบกฎเกณฑ์ในการพิจารณาก่อนจะใช้มาตรการกับหลักทรัพย์บริษัทจดทะเบียนแห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งกฎเกณฑ์ดังกล่าวมีขั้นตอนและวิธีที่ค่อนข้างรัดกุม
ทั้งนี้ การตรวจสอบของตลาดหลักทรัพย์ในเรื่องการดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนก็ยังต้องดำเนินต่อไป โดยในกรณีของ IEC แม้ว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งยกคำร้องกรณีการคุ้มครองห้ามซื้อขาย Net Settlement และ Margin Trading แต่ในเรื่องการฟ้องค่าเสียก็ยังคงอยู่ในกระบวนการของศาลฯที่จะต้องพิจารณาต่อไป
นายศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วยผู้จัดการ สายงานกำกับตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า เหตุผลหลักของศาลปกครองสูงสุดที่ยกคำร้องกรณีคุ้มครอง IEC เนื่องจากมาตรการดังกล่าวถือว่าเป็นมาตรการที่ช่วยคุ้มครองผู้ถือหุ้นซึ่งไม่กระทบต่อการบริหารงานของบริษัท เนื่องจากเป็นนักลงทุนยังสามารถเข้ามาลงทุนได้เพียงแต่ต้องใช้เงินสดในการเข้ามาซื้อหุ้นเท่านั้น
ทั้งนี้ คำสั่งคุ้มครองของศาลปกครองในกรณี IEC ระยะเวลารวมประมาณ 5 เดือนซึ่งการตรวจสอบของทีมงานตลาดหลักทรัพย์ยังคงตรวจสอบด้วยความเข้มงวดรัดกุมอย่างแน่นอน
"แนวทางในการเตรียมตัวเรื่องการต่อสู้คดีค่าเสียหายของ IEC ได้มีการชี้แจงต่อศาลแล้วซึ่งขั้นตอนต่อไปคงเป็นไปตามกระบวนการ ส่วนจะมีการฟ้องกลับหรือไม่ส่วนตัวมองว่าไม่น่าจะมีการฟ้องกลับ"นายศักรินทร์กล่าว
ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้น IEC วานนี้ (19 ต.ค.) ปิดที่ 1.57 บาท ลดลง 0.03 บาท หรือ 1.87% มูลค่าการซื้อขาย 86.02 ล้านบาท
|
|
|
|
|