Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน19 ตุลาคม 2549
SINGHAเพิ่มทุน256ล.ซื้อเครื่องจักรขยายงาน             
 


   
search resources

สิงห์ พาราเทค, บมจ.
สมจิตร โบว์เสรีวงศ์




บอร์ด "สิงห์ พาราเทค" ไฟเขียวเพิ่มทุน 256 ล้านบาท เตรียมซื้อเครื่องจักรใหม่ เพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่ม โดยแบ่งออกเป็น 2 เฟส ล็อตแรกจำนวน 128 ล้านหุ้นขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 5 หุ้นเดิม ต่อ 2 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 2.50 บาท ล็อตที่ 2 อีก 128 ล้านหุ้น จัดสรรไว้รองรับการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของวอร์แรนต์ที่แจกให้ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญต่อ 1 วอร์แรนต์ รวม 112 ล้านหน่วย และอีก 16 ล้านหน่วยจัดสรรให้กรรมการและพนักงาน ด้านผู้บริหารมั่นใจไม่กระทบผู้ถือหุ้นเหตุเพิ่มทุนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต ยังคงเป้ารายได้เดิมที่พันล้าน

นายสมจิตร โบว์เสรีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ พาราเทค จำกัด (มหาชน) หรือ SINGHA กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 320 ล้านบาท เป็น 576 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 128 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อเสนอขายหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดินในสัดส่วน 5 หุ้นเดิม ต่อ 2 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้น 2.50 บาท

ขณะเดียวกัน ยังได้อนุมัติให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) จำนวน 112 ล้านหน่วย ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมภายหลังที่ได้เพิ่มทุนแล้ว ในสัดส่วน 4 หุ้นสามัญ ต่อ 1 วอร์แรนต์ โดยไม่คิดมูลค่า โดยวอร์แรนต์มีอายุ 7 ปี ราคาใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญอัตราหุ้นละ 6 บาท

พร้อมกันนี้ อนุมัติให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อซื้อหุ้นสามัญอีก 16 ล้านหน่วยให้กับกรรมการและพนักงาน (ESOP) มีอายุ 5 ปีราคาใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญอัตราหุ้นละ 1 บาท โดยให้ใช้สิทธิได้ปีละ 20% ของจำนวน ESOP ทั้งหมด รวมออกวอร์แรนต์ทั้งหมด 128 ล้านหน่วย

หลังจากนั้น คณะกรรมการยังมีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนอีก 128 ล้านหุ้ นเพื่อรองรับการแปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อซื้อหุ้นสามัญจำนวน 112 ล้านหุ้น ที่ออกให้ผู้ถือหุ้นเดิมและรองรับการแปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อซื้อหุ้นสามัญอีก 16 ล้านหุ้น ที่ออกให้กรรมการและพนักงานของบริษัท

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการจะนำเสนอเรื่องดังกล่าวให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาอีกครั้ง โดยกำหนดเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2549 และกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2549 เป็นต้นไป

นายสมจิตร กล่าวถึง วัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนครั้งนี้ ว่า บริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนไปลงทุนซื้อเครื่องจักรใหม่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสินค้า หลังจากยอดคำสั่งสินค้าจากลูกค้าเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ทำให้กำลังการผลิตของบริษัทไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทันต่อความต้องการของลูกค้า

นอกจากนี้ แผนงานของบริษัทในปีหน้า บริษัทเตรียมที่จะขยายตลาดไปยังประเทศออสเตรเลีย - ตะวันออกกลาง หลังจากที่ปัจจุบันทำตลาดต่างประเทศในแถบยุโรป สแกนดิเนเวีย และสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ หากการเพิ่มทุนเป็นไปตามระยะเวลาที่บริษัทมีการกำหนดไว้แล้ว จะทำให้บริษัทสามารถติดตั้งเครื่องจักรใหม่และทดสอบการทำงานได้ภายในไตรมาส 1 ปี 2550 โดยบริษัทจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าได้เป็น 2.2 ล้านตารางเมตร/ปี จากเดิมที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 1.4 ล้านตารางเมตร/ ปี

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น เนื่องจากเป็นการเพิ่มทุนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตของบริษัทรองรับคำสั่งซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหากยอดการผลิตสินค้าและจำหน่ายของบริษัทเพิ่มขึ้นจะสะท้อนออกมาในผลการดำเนินการของบริษัท ขณะที่เป้าหมายรายได้ของบริษัทในปีนี้ยังอยู่ที่ 1,000 ล้านบาทซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 25% จากเดิมซึ่งอยู่ที่ 752.24 ล้านบาท

ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้น SINGHA วานนี้ (18 ต.ค.) ราคาปิดที่ 3.74 บาท ลดลง 0.42 บาท หรือ 10.10% โดยราคาซื้อขายต่ำสุดระหว่างวันอยู่ที่ 3.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 95.72 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us