Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน18 ตุลาคม 2549
ภาครัฐ-เอกชนเร่งออกบอนด์คาดปี50มูลค่ารวมเพิ่ม 20%             
 


   
search resources

ณัฐพล ชวลิตชีวิน
Bond




ThaiBMA ฟุ้งปี 50 ปีทองตลาดตราสารหนี้ คาดมูลค่าออกบอนด์เพิ่มขึ้น 20% จากปีนี้คาดว่าทั้งปีอยู่ที่ 2.2 ล้านล้านบาท หลังปัจจัยการเมืองชัดเจนกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม ดอกเบี้ยลดลง หนุนการเทรดคึกคักกว่า 2.5หมื่นล้านบาทต่อวัน จากปีนี้อยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท พร้อมเสนอให้แก้กฎหมายออกออกบอนด์ของภาครัฐหวังเพิ่มสภาพคล่อง

นายณัฐพล ชวลิตชีวิน กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่า คาดว่าปริมาณการออกตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและเอกชนในปี2550 จะเพิ่มขึ้น 20% จากปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 2.2 ล้านบาทบาท เนื่องจากปัจจัยการเมืองมีความชัดเจนขึ้น ทำให้มีการใช้จ่ายภาครัฐดีขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศคาดเติบโตในระดับ 5-5.5% จากปีนี้ที่ 4.2-4.5% จึงต้องมีการระดมทุนเพื่อนำเงินไปลงทุนซึ่งวิธีการระดมทุนทุนส่วนหนึ่งก็จะเป็นการออกตราสารหนี้

นอกจากนี้ การปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันทำให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง ประชาชนเหลือเงินมากขึ้นก็สามารถเข้ามาซื้อขายตราสารหนี้มากขึ้น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวลดลงในปีหน้านั้นจะส่งผลให้นักลงทุนนำตราสารหนี้ออกมาซื้อขายมากขึ้น โดยคากว่าปริมาณการซื้อขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 25,000 ล้านบาทต่อวัน จากปีนี้ที่มีปริมาณการซื้อขาย 22,000 ล้านบาทต่อวัน

“ปีหน้าถือว่าเป็นปีทองของตลาดตราสารหนี้จากการเมืองมีความชัดเจนทำให้การใช้จ่ายของภาครัฐดีขึ้นและส่งผลให้เศรษฐกิจรวมมีการเติบโตมากขึ้น โดยปัจจัยเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่น่าจะปรับตัวลดลงทำให้นักลงทุนนำตราสารหนี้ออกมาขายมากขึ้น โดยผู้ที่ออกตราสารมากคือภาครัฐที่คาดว่าจะออกอีก 1-1.5ล้านล้านบาทจากที่ตราสารหนี้ที่ออกในปีนี้จะครบอายุ”นายณัฐพลกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้คณะกรรมการตลาดตราสารหนี้ จะมีการประชุมเพื่อเสนอให้ทางบอร์ดมีการพิจารณาในเรื่องการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการซื้อขายตั๋วเงินระยะสั้น (B/E) เป็นรายปีจากผู้ประกอบการที่ออกตราสารหนี้เพื่อลดภาระการดำเนินงานของทางตลาดตราสารหนี้ โดยผู้ออกB/Eจะต้องมีการแจ้งให้ทางตลาดตราสารหนี้ทราบล่วงหน้าว่าทั้งปีจะมีการออกเท่าไร

นายณัฐพล กล่าวอีกว่า การประชุมครั้งนี้จะมีการหารือว่าจะทำอย่างไรให้ทางบริษัทหลักทรัพย์ หันมาเพิ่มปริมาณการทำธุรกรรมตราสารหนี้มากขึ้น จากขณะนี้ที่มีการทำธุรกรรมดังกล่าวน้อยมาก เพราะบริษัทหลักทรัพย์ยังไม่มีความจำเป็นในการทำธุรกรรมดังกล่าวเพื่อเพิ่มรายได้ ประกอบกับสภาพคล่องในตลาดสารหนี้มีน้อยทำให้ได้รับผลตอบแทนที่น้อย

นอกจากนี้จะมีการหารือในเรื่องการเสนอให้มีการแก้กฎหมายในเรื่องการออกตราสารหนี้ของภาครัฐให้สามารถออกตราสารหนี้ได้ในช่วงที่ดุลบัญชีเดินสะพันเกินดุล จากที่ขณะนี้กฎหมายระบุว่าภาครัฐจะสามารถออกตราสารหนี้ได้ในช่วงที่มีการขาดดุลเดินสะพัดเท่านั้น ซึ่งหากมีการแก้กฎหมายดังกล่าวก็จะช่วยทำให้สภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้มากขึ้นและเป็นการแก้ปัญหาตรงจุด และการที่จะผลักดันทำให้ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้คิดเป็น 80% ของGDP นั้นจะต้องมีกาแก้กฎหมายดังกล่าว

“การที่จะผลักดันให้ตลาดตราสารหนี้มีการซื้อขายคิดเป็น 80% ของGDP ดังนั้นในแต่ละปีจะต้องมีการเติบโตของการออกตราสารหนี้ปีละ 15% ซึ่งการที่จะทำได้นั้นจะต้องมีการแก้กฎหมายให้ภาครัฐสามารถออกบอนด์ได้แม้จะยังคงเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ”นายณัฐพลกล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us