PR 124 ฟุ้งปีนี้โกยรายได้เกินเป้าที่ตั้งไว้ 20% จากการรับรู้รายได้งานที่อยู่ในมืออย่างต่อเนื่อง พร้อมประมูลงานเพิ่มทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้สัดส่วนรายได้เท่ากัน 50% “นิมิตร” มั่นใจได้งานใหม่อีกเพีย ขณะที่เปลี่ยนรัฐบาลใหม่ไม่กระทบการดำเนินงาน ฟุ้งจ่ายปันผลงวดสิ้นปีไม่ต่ำกว่า 50% เนื่องจากคาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะเพิ่มขึ้น เล็งธุรกิจที่ต่อเนื่องกับธุรกิจเดิมเพื่อต่อยอด คาดมีความชัดเจนปีหน้า

นายนิมิตร หมดราคี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด (มหาชน) หรือPR124 เปิดเผยว่า ภายในปี 2549 บริษัทฯมั่นใจว่าจะมีรายได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้โดยไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนบริษัทฯมีรายได้ 183.22 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีการขยายฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากงานที่อยู่ในมือ(Backlog)ภายในปีนี้

โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายในการเข้าประมูลงานเพิ่มมากขึ้น ทั้งในส่วนของหน่วยงานภาครัฐบาลและเอกชน โดยเฉพาะธุรกิจโฆษณาประชาสัมพันธ์ และงานที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ โดยบริษัทฯจะรับรู้รายได้จากงานที่กระจายอยู่ในส่วนของหน่วยงานภาค

รัฐ 50% และภาคเอกชน 50% ขณะที่ผลประกอบการไตรมาสที่ 3/2549 บริษัทฯคาดว่าจะรับรู้รายได้จากงานผลิตสื่อประชาสัมพันธ์จาก ให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ( AOT) มูลค่าโครงการประมาณ 20 ล้านบาทในการผลิตสื่อต่างประเทศ รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ และงานด้านประชาสัมพันธ์ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา 15 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 4/2549 ประมาณ 5 ล้านบาท และอีกประมาณ 10 ล้านบาทจะทยอยรับรู้รายได้ประมาณ 4 ปีข้างหน้า

“รายได้ของบริษัท มีการเติบโตเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ซึ่งเหตุการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมารวมทั้งการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลชุดใหม่ ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทแต่อย่างใด คาดว่าในไตรมาสต่อไป น่าจะได้เห็นการเติบโตของรายได้ที่สูงขึ้นอีก เนื่องจากมองว่างานภาครัฐมีรายได้แน่นอน นอกจากนี้ภาครัฐยังมีแนวทางกระตุ้นการใช้จ่ายทำให้มีเม็ดเงินเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย จึงเชื่อว่าการใช้จ่ายภาครัฐจะต้องมีเพิ่ม ”นายนิมิตรกล่าว

สำหรับ นโยบายการจ่ายเงินปันผลงวดสิ้นปี 2549 บริษัทฯจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ โดยจะพิจารณาจากจากอัตราผลกำไรในการดำเนินงานของบริษัทประจำปี2549 จากที่ปี 2548 บริษัทมีกำไร 30 ล้านบาท และปีนี้

คาดว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้นจากงานที่มีอยู่ในมือเมื่อเทียบกับปี 2548 ประมาณ 30% นอกจากนี้บริษัทยังมองธุรกิจเพิ่มเติม แต่ยังเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเดิมที่ทำอยู่ ซึ่งคงจะเห็นความชัดเจนในปีหน้า