Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน18 ตุลาคม 2549
คาเธ่ย์ฯงัดแผนเชื่อมลงทุน3ชาติปูทางเพิ่มลูกค้า             
 


   
www resources

โฮมเพจ คาเธ่ย์ แปซิฟิคแอร์เวย์

   
search resources

Aviation
คาเธ่ย์ แปซิฟิค แอร์เวย์, บจก.




คาเธ่ย์แปซิฟิคปูทางเพิ่มลูกค้านักธุรกิจ จับมือสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง และพันธมิตรอื่นๆ จัดโครงการ “เดอะ วิง อวอร์ดส์ “ มอบรางวัล แก่บริษัทไทย ที่เข้าไปทำธุรกิจที่ฮ่องกง หวังผลระยะยาวตอกย้ำแบรนด์ คาเธ่ย์ และดรากอนแอร์ ที่มีเส้นทางบินสู่ประเทศจีนถึง 33 เดสติเนชั่น ระบุพร้อมดันฮ่องกงขึ้นเป็นเกทเวย์สู่การลงทุนในประเทศจีน กำหนดสเปกที่สนใจใน 4 ธุรกิจหลัก การเงิน ท่องเที่ยว ขนส่ง และ บริการ

นายแพทริค เยือง ผู้จัดการประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิคเปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวโปรแกรม “เดอะ วิง อวอร์ดส์” ครั้งแรกในประเทศไทย และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากโปรแกรมดังกล่าวประสบความสำเร็จมาแล้วจากการเปิดตัวที่ประเทศ เนเธอร์แลนด์ และ อังกฤษ

ทั้งนี้ “เดอะ วิง อวอร์ดส์” คือ รางวัลที่คาเธ่ย์ จะมอบให้แก่ บริษัทของคนไทย ที่ไปดำเนินกิจการอยู่ในประเทศฮ่องกง หรือ ประเทศจีน แล้วประสบความสำเร็จ มีผลตอบแทนการลงทุนที่ดี ซึ่งรางวัลนี้ มีจุดประสงค์เพื่อเชื่อมให้เกิดการลงทุนระหว่าง 3 ประเทศคือ ไทย ฮ่องกง และจีน

ให้มีการทำธุรกิจร่วมกัน โดยใช้ฮ่องกงเป็นจุดเชื่อมต่อของนักธุรกิจไทยที่ต้องการเข้าไปค้าขาย หรือ ทำธุรกิจในประเทศจีน โดยมีการตั้งออฟฟิศที่ประเทศฮ่องกง สำหรับเป็นประตูสู่การทำธุรกิจในประเทศจีน

โครงการนี้ จะช่วยให้ สายการบิน คาเธ่ย์ ได้ประโยชน์จากลูกค้าใน 2 กลุ่ม คือ ลูกค้าประจำที่เดินทางไปฮ่องกงด้วยสายการบินคาเธ่ย์ และกลุ่มผู้ที่ยังไม่เคยใช้บริการสายการบินคาเธ่ย์ ให้เข้ามาลองใช้บริการ ทั้งนี้เพราะ โครงการนี้ คาเธ่ย์ ได้ร่วมกับพันธมิตร คือสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง สภาพัฒนาการค้าฮ่องกงและอินเดีย หอการค้าไทย-จีน และกลุ่มเดอะเนชั่น ซึ่งบริษัทที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะได้รับข้อมูลการลงทุนในประเทศจีนและฮ่องกง จาก สำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง พร้อมตอบข้อสงสัยในทุกมุมมอง ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับแนวทางการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก

ส่วนในระยะยาว คาเธ่ย์ จะได้ประโยชน์จากการขยายตัวของธุรกิจที่ทำให้มีการเดินทางกันระหว่างนักธุรกิจของทั้งไทยและฮ่องกงเพิ่มขึ้น และยังช่วยตอกย้ำให้ผู้โดยสารได้ทราบว่า คาเธ่ย์ ยังมีสายการบิน ดรากอนแอร์ ที่ให้บริการเส้นทางบินไป 33 เมืองในประเทศจีน

อย่างไรก็ตาม เดอะ วิง อวอร์ดส์ จะมีทั้งสิ้นรวม 3 รางวัล คือ 1.รางวัล พลาตินัม มอบให้แก่ บริษัทไทยที่โดดเด่นด้านความคิดสร้างสรรค์ และมีแผนจะประกอบธุรกิจระยะยาวในฮ่องกงและจีน 2.รางวัลเอมเมอรัลด์ วิง มอบให้กับบริษัทไทยที่ทำคุณประโยชน์ต่อสังคม สิ่งแวดล้อมและชุมชนที่ตนดำเนินธุรกิจ และ3. รางวัลไดมอนด์ วิง มอบให้แก่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทยซึ่งมีพนักงานไม่เกิน 250 คน ที่ประสบความสำเร็จในฮ่องกงและจีน โดยผู้สนใจสมัครเข้ารับรางวัล จะต้องมีคุณสมบัติ เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศ”ทย มีพนักงานปฏิบัติงานที่ประเทศฮ่องกง หรือจีน มีผลตอบแทนการลงทุนที่ดี และมีแผนดำเนินงานและลงทุนในสองประเทศดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

ทางด้านนาย เค เค แลม ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง กล่าวว่า ปัจจุบันรายได้ประชาชาติต่อหัวของประชากรฮ่องกง (จีดีพี) กว่า 90% มาจากธุรกิจบริการ ซึ่งในที่นี้จะรวมถึงธุรกิจการบินด้วย ดังนั้นเพื่อสนับสนุนให้ประเทศฮ่องกง เป็นศูนย์กลางการลงทุน

และเป็นประตูสู่การลงทุนในประเทศจีน ดังนั้นฮ่องกงจึงสนับสนุนให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนด้วยการจัดเก็บภาษีในอัตราที่ต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ หรืออยู่ที่ประมาณ 17.5% ของรายได้ ขณะที่ประเทศอื่น เช่น สิงคโปร์ จะเก็บภาษีรายได้ที่ 21% ส่วนญี่ปุ่นจัดเก็บที่ 50%

โดยธุรกิจที่ฮ่องกงต้องการส่งเสริมให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน ได้แก่ ธุรกิจบริการท่องเที่ยว การเงิน และ ขนส่ง เป็นต้น ซึ่งเราต้องการให้นักธุรกิจมองเห็นศักยภาพของฮ่องกง

ว่าเป็นโลเกชั่นที่เหมาะแก่การตั้งออฟฟิต สำนักงาน สำหรับติดต่อประสานงานไปยังประเทศอื่นๆ โดยมีการผลิต อยู่ที่ประเทศจีน โดยเฉพาะในแถบพื้นที่ กวางเจา เฉินตู เซียงไฮ และปักกิ่ง ขณะที่ประเทศไทยจะมีพื้นฐานที่ดีเรื่องของทรัพยากร หรือวัตถุดิบ ที่จะส่งไปผลิตที่ประเทศจีน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us