ซัมซุงฉีกแนว ผุดโปรโมชั่นมัดใจผู้บริโภค ชูแคมเปญ “Total Solution Provider”หวังสร้างการรับรู้ในตัวสินค้ามากขึ้น คุยเดือนตุลาคมเดือนเดียว ยอดขายกระฉูดเพิ่มขึ้นอีก 50 %แน่นอน มั่นใจช่วยเสริมเฮ้าส์โฮแชร์จาก 10% สู่ 15 %ในสิ้นปี พร้อมรายได้แตะ 8,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นอีก 20 %

นายอาณัติ จ่างตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า ในเดือนตุลาคมนี้ถือเป็นช่วงโลว์ซีซันสำหรับตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าบวกกับระยะนี้หลายๆจังหวัดในประเทศไทยกำลังประสบปัญหาน้ำท่วม จึงยิ่งทำให้บรรยากาศของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าซบเซาลง ดังนั้นทางบริษัทฯจึงได้มีการจัดแคมเปญขึ้น เพื่อกระตุ้นตลาดในช่วงดังกล่าวนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 21-31 ตุลาคมนี้

โดยแคมเปญดังกล่าวที่จัดขึ้นจะอยู่ภายใต้คอนเซปต์ “Total Solution Provider” คือ จะเป็นการนำเอาสินค้าทั้งหมด 4 หมวดที่ทางซัมซุงพัฒนาขึ้น ได้แก่ อุปกรณ์ภาพและเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน โทรศัพท์มือถือ และสินค้าไอที มาจัดโปรโมชั่นร่วมกัน เพื่อให้ลูกค้าสะดวกในการเลือกซื้อสินค้า พร้อมทั้งช่วยในเรื่องของความคุ้มค่า และประหยัดเวลาได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ทางบริษัทฯได้จัด แพคเกจชอปปิ้งไว้ถึง 3 แพคเกจ คือ 1.มิกซ์แอนด์แมทช์ แพคเกจ ให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าชิ้นใดก็ได้ประเภทละ 1 ชิ้น จาก 4 หมวด ให้ครบอย่างน้อย 3 หมวด จะได้รับส่วนลดสูงสุด 40% 2.พรีเมี่ยม แพคเกจ ทางบริษัทฯได้จัดเซ็ตสินค้าจากแต่ละหมวดเทคโนโลยีมาประกอบกันให้ลูกค้าได้มาเลือกซื้อ พร้อมส่วนลดในราคาพิเศษ และ3.แท็งกิ้ง ออฟเฟอร์ แพคเกจ เป็นการนำสินค้าในแต่ละหมวด มาลดราคาสินค้าให้แก่ผู้บริโภค

“การจัดแคมเปญ ภายใต้ คอนเซปต์ Total Solution Provider นี้ ทางซัมซุงถือเป็นรายแรกที่จัดทำขึ้น และยังไม่เคยมีรายใดทำมาก่อน ซึ่งแคมเปญดังกล่าวจะช่วยสร้างสีสันและกระตุ้นให้เกิดความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี โดยเชื่อว่าจะทำให้ยอดขายในช่วงเดือนตุลาคมเพียงเดือนเดียว จะเพิ่มขึ้นถึง 50% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ไม่จัดโปรโมชั่น”

สำหรับส่วนลดสูงสุดกว่า 40% ที่ลูกค้าจะได้รับนั้น จะได้รับเป็นเงินสด เพียงลูกค้าซื้อสินค้าถูกต้องตามกติกา แล้วส่งหลักฐานต่างๆมายังบริษัท ภายในระยะไม่เกิน 30 วัน ทางบริษัทฯจะทำการคืนเงินให้

นายอาณัติกล่าวต่อว่า การที่ต้องทำการคืนเงินหลังการซื้อ แทนการลดราคา ณ จุดขาย นั้น เนื่องจากอาจจะทำให้โครงสร้างของตลาดได้รับความเสียหายได้ จึงนำกลยุทธ์ดังกล่าวมาใช้นั้นเอง

ทั้งนี้แคมเปญดังกล่าว ทางบริษัทฯได้จัดงบสำหรับการทำตลาดไว้กว่า 50 ล้านบาท แบ่งเป็นในส่วนของโฆษณาและประชาสัมพันธ์ 10 ล้านบาท และงบโปรโมชั่น 40 ล้านบาท โดยเชื่อว่าสินค้าที่จะได้รับความนิยมสูงสุดในการจัดแคมเปญครั้งนี้ จะเป็นหมวดอุปกรณ์ภาพและเสียง

อย่างไรก็ตามสินค้าในหมวดต่างๆที่ทางซัมซุงพัฒนาขึ้นนั้น ปัจจุบัน ถือได้ว่า มีมาร์เกต์แชร์ ติดหนึ่งในสามของแต่ละหมวด ซึ่งถือได้ว่าเป็นความสำเร็จที่น่าพอใจ ดังนั้นต่อไปทางซัมซุง จะมุ่งเน้นมาร์เก็ตแชร์ในส่วนของเฮ้าส์โฮลแชร์ (เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน)จาก 10% สู่ 15%ในสิ้นปี

โดยมองว่าการที่ในแต่ละครัวเรือนมีเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์เดียวกันในหลายๆหมวด จะเป็นผลดีทั้งในด้านของการบริการหลังการขายและการประยุกต์ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี หรือที่เรียกว่า ดิจิตอล โซลูชั่น ไลฟ์สไตล์ ซึ่งคาดว่าเทรนด์ดังกล่าวจะได้รับความนิยมในอนาคตอย่างแน่นอน

ขณะที่ผลประกอบการในปีนี้ ทางบริษัทฯตั้งเป้ายอดรายได้จากหมวดอุปกรณ์ภาพและเสียง และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านรวมกันที่ 8,000 ล้านบาท แบ่งเป็น อุปกรณ์ภาพและเสียง 60% และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน 40% เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา 20% ขณะที่หมวดไอทีปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 3,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 25% ส่วนหมวดโทรศัพท์มือถือ ปีนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้กว่า 8,000 ล้านบาท เติบโตอีก 25% เช่นเดียวกัน

“การที่แต่ละหมวด ได้มีการตั้งเป้าไว้ค่อนข้างสู.นั้น เนื่องมาจาก บริษัทฯได้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆมารองรับตลาดอยู่ตลอดเวลา และเป็นสินค้าที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด อาทิ แอลซีดีทีวี ที่คาดว่าตลาดในปีนี้จะเติบโตขึ้นถึง 5 เท่า หรือมีความต้องการอยู่ที่ 1 แสนเครื่อง นั้นเอง” นายอาณัติ กล่าว