Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 ตุลาคม 2549
SCCไตรมาส4เตรียมรับเงิน6,300ล้านบาทหลังเฉือนSUSและกลุ่มไทยซีอาร์ทีเลิกผลิต             
 


   
www resources

โฮมเพจ เครือซิเมนต์ไทย

   
search resources

ปูนซิเมนต์ไทย, บมจ.
สยามยูไนเต็ด สตีล - SUS
Metal and Steel




SCC เตรียมรับเงินไตรมาส 4 นี้ ถึง 6,300 ล้านบาท หลังลดสัดการถือหุ้นใน สยามยูไนเต็ดสตีล จาก 19.5% เหลือ 5% โดยรับประมาณ 2 พันล้านบาทและกำไรหลังภาษีจากรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำ 1,600 ล้านบาท พร้อมให้กลุ่มไทยซีอาร์ทีหยุดการผลิต หลังขาดทุนต่อเนื่อง ผลจากความต้องการบริโภคหันมาใช้โทรทัศน์าสีแบบจอ LCD เตรียมรับรู้การประเมินด้อยค่าของสินทรัพย์และเงินลงทุนคงเหลือหลังภาษีประมาณ 2,700 ล้านบาท ไตรมาสสุดท้ายปีนี้

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) แจ้งว่า บริษัทได้บรรลุข้อตกลงในการลดสัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัท สยามยูไนเต็ดสตีล (1995) จำกัด (SUS) จากร้อยละ 19.5 เหลือร้อยละ 5 โดยการขายหุ้นร้อยละ 14.5 ให้กับผู้ร่วมทุนปัจจุบัน การขายหุ้นดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของ SCC ที่จะเน้นการลงทุนในธุรกิจหลัก ในขณะเดียวกันยังเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับความต้องการของผู้ร่วมทุนที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเพื่อพัฒนาธุรกิจของ SUS ต่อไป โดยการลดสัดส่วนการถือหุ้นในครั้งนี้ SCC จะมีรายรับจากการขายประมาณ 2,000 ล้านบาทและจะมีกำไรหลังภาษีจากรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำ (Non-Recurring Profit) ประมาณ 1,600 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2549

สำหรับ SUS เป็นผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดเย็น ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่ตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง โดยมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 1 ล้านตันต่อปี ทั้งนี้ ในปี 2548 SUS มียอดขาย 23,000 ล้านบาท กำไรสุทธิ 890 ล้านบาทและมีสินทรัพย์รวม 21,000 ล้านบาท

พร้อมกันี้ SCC ยังแจ้งมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2549 ของบริษัทไทยซีอาร์ที จำกัด (TCRT) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SCC ซึ่งประกอบธุรกิจหลอดภาพโทรทัศน์สี ได้มีมติอนุมัติให้วางแผนหยุดการผลิตของ TCRT และบริษัทที่ TCRT ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 100 คือ บริษัทซีอาร์ที ดิสเพลย์ เทคโนโลยี จำกัด (CDT) และบริษัทไทยอิเล็กตรอนกัน จำกัด (TEG) ผู้ผลิตหลอดภาพโทรทัศน์สี และ Electron Gun ตามลำดับ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2549 เป็นต้นไป

เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากโทรทัศน์สีที่ใช้หลอดภาพ CRT มาเป็นโทรทัศน์สีแบบจอ LCD ตามพัฒนาการของเทคโนโลยี ทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจหลอดภาพ CRT ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงและส่งผลให้ TCRT มีผลประกอบการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง โดยการหยุดการผลิตดังกล่าวจะส่งผลให้ SCC

ทั้งนี้ ในปี 2548 TCRT CDT และ T EG มียอดขายรวมประมาณ 4,900 ล้านบาท มีผลขาดทุนสุทธิรวม 1,200 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวม 5,900 ล้านบาท และมีหนี้สินรวม 4,700 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us