พี แอนด์ จีงัดกลยุทธ์“ไอดอล มาร์เก็ตติ้ง”ระเบิดศึกไตรมาสสุดท้ายของปีหลังพบใช้แล้วได้ผล ล่าสุดผนึกยูบีซีดึงเอเอฟ 3 สร้างแบรนด์แพนทีนและโอเลย์ผ่านคอนเสิร์ต “Dream Catcher: คอนเสิร์ตคนคว้าฝัน” หวังขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มและดันยอดขายสิ้นปีโต ย้ำช่วงนี้ยังไม่มีแผนปรับเรื่องราคาและเปิดตัวไซส์เล็ก แต่จะเน้นการทำตลาดและสื่อสารไปยังผู้บริโภคเป็นหลัก

นายเมธี จารุมณีโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาดและองค์กร บริษัทพี แอนด์ จี ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แพนทีน, โอเลย์และออรัล บี ฯลฯ เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้บริษัทฯเตรียมเดินหน้าสื่อสารแบรนด์ในส่วนของผลิตภัณฑ์แพนทีน โปรวีและโอเลย์ ภายใต้กลยุทธ์ “ไอดอล มาร์เก็ตติ้ง” เนื่องจากที่ผ่านมาเคยใช้แล้วพบว่าประสบความสำเร็จเกินคาด จากผลิตภัณฑ์โอเลย์ โทเทิล เอฟเฟกซ์ ไอดอลที่ได้นักร้องและนักแสดงสาว “นัท มีเรีย” เป็นผู้สื่อสารแบรนด์ หรือการที่มีผู้บริโภคใช้สินค้าแล้วมีการบอกต่อไปยังคนรู้จักหรือเพื่อน เป็นต้น

ล่าสุดบริษัทฯได้ร่วมกับยูบีซี แฟนเทเชียและบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์เตรียมจัดคอนเสิร์ตใหญ่ “Dream Catcher: คอนเสิร์ตคนคว้าฝัน” เพื่อสร้างประสบการณ์ในรูปแบบใหม่ไปยังผู้บริโภค ภายใต้ “ไอดอล มาร์เก็ตติ้ง” โดยต้องการสื่อสารไปยังผู้บริโภคในเรื่อง “เปลี่ยนคุณให้เป็นดาว” และตอกย้ำแบรนด์พี แอนด์ จีในเรื่องของผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ความความงามเพื่อผู้หญิง

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้บริษัทฯคาดหวังว่าจะมีการสื่อสารแบรนด์ไปยังสื่ออโบพ เดอะ ไลน์โดยผ่านทางนักล่าฝันทั้ง 13 คน รวมถึงการช่วยเพิ่มยอดขายด้วยการดึงลูกค้าที่ยังไม่เคยใช้สินค้าให้มีโอกาสได้มาทดลองใช้มากขึ้น และยังเป็นการช่วยเพิ่มยอดรายได้ให้เติบโตขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้บริษัทฯมีแผนทำผ่านสินค้าตัวอื่นๆอีกในกลุ่มต่อต้านริ้วรอยหรือแอนตี้ เอจจิ้งและกลุ่มไวท์เทนนิ่ง

“ปีนี้เรามุ่งเน้นพัฒนาสินค้าไปทางด้านอีโมชั่นนัล ซึ่งพบว่ามีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์แพนทีน ซึ่งเดิมทีจะใช้ฟังก์ชั่นนัลเป็นตัวนำ แต่ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าผู้บริโภคมีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป เราจึงต้องปรับไปสู่อีโมชั่นนัลเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้”

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์โอเลย์เป็นผู้นำตลาดบำรุงผิวหน้าด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 32% จากเดิมปีที่แล้วมี 29% ขณะที่แพนทีนก็เป็นผู้นำตลาดแชมพูระดับพรีเมี่ยมโดยครองส่วนแบ่งตลาด12.2% จากเดิมปีที่แล้วมีแชร์11% ทั้งนี้แพนทีนอยู่ในตลาดมานานกว่า 9 ปีและเพิ่งมีการปรับแพคเกจจิ้งใหม่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าได้รับการตอบรับดีจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก โดยยอดรายได้ของบริษัทฯมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักหรือโตกว่าตลาดรวมที่เติบโตเลขหลักเดียว

สำหรับภาพรวมการแข่งขันของตลาดสินค้าบริโภคอุปโภคในช่วงปลายปีพบว่ายังมีความรุนแรงอยู่เหมือนเดิม ทั้งในส่วนของการจัดกิจกรรม ,โปรโมชั่น และการเปิดตัวสินค้าใหม่ ฯลฯ โดยในส่วนของบริษัทฯจะเน้นการสื่อสารและทำตลาดไปยังผู้บริโภคเป็นหลัก ขณะที่เรื่องการทำสินค้าขนาดเล็กและการปรับเพิ่มราคาบริษัทฯยังไม่มีแผนแต่อย่างใด