Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์16 ตุลาคม 2549
3 จอมยุทธ์เผยเคล็ดลับแสวงหาโอกาส- สร้างธุรกิจจนยิ่งใหญ่             
 


   
search resources

บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา
ชาตรี โสภณพนิช
ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ
Knowledge and Theory




*ชาตรี โสภณพนิช –นพ.ประเสิรฐ ปราสาททองโอสถ และบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา คือผู้นำธุรกิจที่ได้รับการยกย่องสู่ทำเนียบเกียรติคุณนักการตลาดไทยปี 2549
*ความสามารถเฉพาะตัวของ 3 จอมยุทธ์ในการสร้างอาณาจักรธุรกิจแต่ละสาขาจนโดดเด่นเป็นที่ยอมรับ
*เคล็ดหลักวิชาที่เผยจากประสบการณ์แสดงถึงวิสัยทัศน์ และความกล้าคิด กล้าทำ จนสามารถผ่านอุปสรรค นำองค์กรสู่ความยิ่งใหญ่ในวันนี้ จึงน่าเรียนรู้มาก

จากหมอผ่าตัดสู่ธุรกิจ

ถ้านายแพทย์ประเสริฐ ปราสาททองโอสถ พอใจจะเอาดีในวิชาชีพที่เรียนจบมาจากมหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ ในยุคนั้น ป่านนี้เราก็คงรู้จักหมอผ่าตัดชื่อดังแทนที่จะเป็นนักบริหารธุรกิจการบินในนามบางกอกแอร์เวย์สที่เขาปลุกปั้นมากับมือ

กระนั้นหมอประเสริฐก็รับราชการอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชถึง 5 ปี ผ่านประสบการณ์ผ่าตัดพันกว่าราย ก่อนลาออกมาทำธุรกิจร่วมกับเพื่อนๆ ประมาณปลายปี 2506 ซึ่งเป็นช่วงที่ไทยเข้าไปเกี่ยวข้องกับสงครามเวียดนาม จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจจากวิกฤตสงคราม

เริ่มต้นจากงานรับเหมาก่อสร้างในนามบริษัทกรุงเทพสหกล ที่รับงานแรกที่สนามบินอู่ตะเภา จากนั้นขยายไปสู่บริการขนส่ง ที่มีทั้งรถบรรทุก เรือขนส่งน้ำมัน และเครื่องบินให้เช่า

จากสหกลแอร์ ที่มีทั้งเครื่องบินและเฮลิคอร์ปเตอร์พัฒนาเป็นบริษัทการบินกรุงเทพ จำกัด ตั้งแต่ปี 2511 และเป็นจุดเริ่มต้นของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สที่เติบโต และขยายไปสู่ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจขนส่งทางอากาศและการท่องเที่ยว เช่น ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ รถยนต์ให้เช่า เป็นต้น

กล้าเสี่ยงแต่ไม่สุ่มเสี่ยง

การติดตามสถานการณ์และมีวิสัยทัศน์ทำให้มองเห็นว่ากิจการสนับสนุนและขุดเจาะน้ำมันเริ่มมีขนาดเล็กลง จึงเริ่มมองหาธุรกิจใหม่ แม้แต่แนวคิดที่คนอื่นไม่กล้าทำ

การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยเข้าถึงแผนการตลาด ภายใต้การแข่งขันที่เสียเปรียบทุกด้าน ทั้งเงินลงทุนที่ต้องแข่งกับธุรกิจการบินของรัฐ บางกอกแอร์เวย์สจึงต้องสร้างความแตกต่าง ในตำแหน่งทางยุทธศาสตร์(Positioning)ให้เป็น "บูติกแอร์ไลน์" คือสายการบินขนาดเล็ก ที่มีความโดดเด่น และเอกลักษณ์เฉพาะด้านเส้นทางการบินและการบริการ มุ่งสู่ดินแดนวัฒนธรรมโลก ทั้ง กัมพูชา และสาธารณรัฐประชาชนจีน

การฟันฝ่าอุปสรรคสร้างสนามบินที่เกาะสมุยได้สำเร็จ เป็นการอำนวยความสะดวกแผนบุกเบิกตคลาดท่องเที่ยวสมุยซึ่งเป็นเพชรเม็ดงาม รองรับจุดขายหาดทราย สายลม แสงแดดได้ดี จนความถี่จากวันละหนึ่งเที่ยว วันนี้กลายเป็น 34 เที่ยว

เป็นการยืนยันผลการตั้งสำนักงานท่องเที่ยวถนนซองเอลิเซ่ ย่านหรูหรากลางกรุงปารีส เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเกรดเอจากทั่วโลกมาเยือน “สวรรค์บนดินแห่งใหม่” ได้ผล

บุกเบิกโรงพยาบาลเอกชนไทย

โรงพยาบาลกรุงเทพ นับเป็นโรงพยาบาลเอกชนของคนไทยแห่งแรก ที่ดำเนินการโดยบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการก็เกิดจากความคิดของหมอประเสริฐที่เห็นการณ์ไกล ทั้งๆ ที่เพื่อนๆ ที่ถูกชวนมาร่วมลงทุนต้องการเพียงแค่ โพลิคลินิก แต่หมอประเสริฐมั่นใจและเดินหน้า

กลุ่มเป้าหมายโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้ มุ่ง "คนรวย" โดยเฉพาะการรักษาโรคหัวใจ ซึ่งคนมีเงินเป็นกันมาก

และขณะนี้เครือข่ายของโรงพยาบาลกรุงเทพได้ขยายใหญ่ที่สุดในประเทศ มีโรงพยาบาลพันธมิตรเข้าร่วมเครือข่ายกว่า 18 แห่งทั่วประเทศ

นพ.ประเสริฐ มองยุทธศาสตร์การเชื่อมโยงธุรกิจการบ้าน การรักษาพยาบาล ที่สามารถเป็นศูนย์กลางการรักษาสุขภาพของนักท่องเที่ยวที่โดดเด่นของเอเชียได้

นพ.ประเสริฐให้ข้อคิดว่านักธุรกิจผู้บริหารต้องเลือกธุรกิจที่เรารัก เพราะถ้าทำไปแล้วเกิดเจอเรื่องลำบากก็ยังมีใจสู้ไปได้ เหมือนอย่างการออกเรือไปในทะเล เมื่อเกิดพายุผมกลับชอบ เพราะหลังคลื่น หลังพายุ ฟ้าจะสว่าง แต่ถ้าเราเริ่มต้นด้วยความรู้สึกสบายใจ เพราะฟ้าสว่างต้องระวังตัวให้ดี ต้องมีกำลังใจ ต่อไปเมื่อเข้าสู่ช่วงวิกฤตจะได้ร่วมกันฟันฝ่าปัญหาเพื่อเอาชนะให้ได้

"การทำธุรกิจต้องไม่ถอดใจกลางคัน เจอปัญหาต้องแก้ไข จึงต้องมีการวางแผนที่ดี และที่สำคัญต้องไม่ยอมแพ้" หมอประเสริฐดกล่าวย้ำ

บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา

นักการตลาดต้องเหมือนนักบิน ต้องรู้ว่าเครื่องบินของเรามีศักยภาพแค่ไหน เป็นแบบหนึ่งเครื่องยนต์หรือสองเครื่องยนต์ และต้องมีแผนการบิน รู้ว่าจะไปเส้นทางไหน จุดหมายปลายทางอยู่ที่ใด เพื่อเติมน้ำมันให้พอเพียงเพราะถ้าเป็นการขับรถยนต์ เกิดขัดข้องก็ยังจอดได้ แต่ถ้าเครื่องบินเกิด ปัญหามันจอดไม่ได้ง่ายๆ เหมือนรถยนต์

นักการตลาดต้องเน้นการทำกำไรก็จริง แต่บางกรณีอาจไม่ดีอย่างที่คิด เหมือนขับเครื่องบินออกไปเจออุปสรรคจะทำอย่างไรจะบินต่อหรือร่อนลง ก็ต้องเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด มีประสิทธิภาพมากที่สุด

นักการตลาดถ้ารู้จักเล่นโกะหรือ "หมากล้อม" จะช่วยให้รอบคอบยิ่งขึ้น ผมเคยไปอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น 6ปี ก็ชอบเล่นโกะ(อ่านล้อมกรอบ "ได้อะไรจากหมากล้อม...?")

คุณเทียม(โชควัฒนา) เคยบอกว่า คนรุ่นหลังต้องเก่งกว่าคนรุ่นพ่อ ลูกศิษย์ต้องเก่งกว่าอาจารย์

ยุคทองของบุณยสิทธิ์ ปัจจุบันเครือสหพัฒน์ทำยอดขายได้กว่าแสนล้านบาท ซึ้งนับว่ามีปริมาณสูงแซงหน้ายุคที่เทียม โชควัฒนารุ่นพ่อทำไว้แล้ว

"เพราะยุคคุณพ่อทำแบบไม่เสี่ยง ยุคนี้ขยายตัวไปมาก แต่ผมก็เอาอย่างพ่อ คือ ต้องชัวร์ และไม่เสี่ยง ทำแล้วต้องนอนหลับได้ ถ้าทำอะไรแล้วนอนไม่หลับอย่าทำดีกว่า"

อย่างธุรกิจยุคนี้ บางคนทำเกินตัว สมมุติว่าทุน 1 บาท แต่ทำถึง 10 เท่า 20 เท่า แบบนี้ทำแล้วนอนไม่หลับแน่ดังนั้นโครงการไม่ใหญ่ก็ต้องใช้เงินกู้ธนาคารน้อยหน่อย จะได้ไม่เสี่ยง อะไรที่ไม่รู้ก็อย่าทำ สินค้าที่เราไม่รู้จัก อย่าทำดีกว่า

กลยุทธ์ร่วมทุนกระจายความเสี่ยง

การพึงต่างประเทศมาร่วมลงทุน โดยใช้เป็นจุดแข็ง 2 ฝ่ายเสริมกันให้เกิดพลังผนึก (Synergy) คือเราต้องรู้จักตลาดในเมืองไทยดี ส่วนตลาดต่างประเทศมีเทคโนโลยีการผลิตแบบญี่ปุ่น ที่น่าเชื่อถือมีการทำตลาดที่ดี ก็เป็นการผนึกกำลังแบบ 1+1 ไม่ใช่ได้ 2 แต่จะได้ผลเป็น 3 เป็น 4

การออกผงซักฟอกใช้ตรา "เปาบุ้นจิ้น" ช่วงนั้นอาศัยกระแสชื่อหนังดังทางโทรทัศน์ที่ผู้คนชื่นชอบบทบาทของเปาบุ้นจิ้นในการจัดการคนผิด และเป็นยุคที่สังคมสะใจและอยากให้มีการปราบคอรัปชั่นที่เกิดขึ้นในสังคมไทยมากในตอนนั้น

คำขวัญที่ใช้ในขณะนั้นคือ "คุณภาพซื่อสัตย์ ราคายุติธรรม" เป็นการเกาะกระแสที่สังคมโหยหาการมีคุณธรรม

ได้แรงหนุน 3 ด้าน

การร่วมลงทุนในสัดส่วน 50:50 นอกจากได้เงินทุนของญี่ปุ่นมาลงแล้ว ในฐานะการเป็นธุรกิจร่วมทุนยังต้องใช้เครดิตในการส่งวัตถุดิบจากญี่ปุ่นรวมทั้งธนาคารญี่ปุ่นในประเทศไทยก็วิ่งมาสนับสนุนด้วย

กลยุทธ์การสร้างแบรนด์

ตั้งแต่ยุคเจ้าสัวเทียม ก็มักย้ำเสมอว่าธุรกิจจะเติบโตได้ต้องสร้างแบรนด์ของตัวเองให้ได้ แต่ตอนนั้นการจะเริ่มโดยใช้แบรนด์ดังจากต่างประเทศก็เป็นวิธีหนึ่ง แต่ก็ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ในการใช้

ช่วงแรกของสหพัฒน์ก็ใช้ แบรนด์จากต่างประเทศเพื่อจะได้รับการดูแลเทคโนโลยีการผลิตด้วย อย่างผงซักฟอกก็ใช้แบรนด์ TOP ของญี่ปุ่น เมื่อได้เรียนรู้เทคโนโลยีดีพอ ต่อมาจึงออกแบรนด์ "เปาบุ้นจิ้น" ของเครือสหพัฒน์เองด้วย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us