ดัชนี "ไลฟ์-แมทเทอร์ส" ที่ "เอไอเอประกันชีวิต" ยกขึ้นมากล่าวอ้าง บ่งบอกข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับ ความเสี่ยงจากการจ่ายค่ารักษาพยาบาลโรคร้าย พบผลสำรวจมากกว่าครึ่งอาจไม่มีกำลังเพียงพอจะควักกระเป๋าจ่ายในระยะยาว กลายเป็นโอกาสที่ "เอไอเอ"จะออกโปรดักส์พ่วงโรคร้ายขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ
โธมัส เจมส์ ไวท์ รองประธานบริหารระดับสูง และผู้จัดการทั่วไป บริษัทอเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนล แอสชัวรันส์ จำกัด หรือ เอไอเอ บอกว่า ผลสำรวจดัชนี "ไลฟ์-แมทเทอร์ส" ที่ทำมาเป็นปีที่ 3 จะทำการวัดระดับการเตรียมความพร้อมในกรณีที่เจ็บป่วยและเกิดอุบัติเหตุ จากการสุ่มสำรวจครอบคลุม 4 ประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์และประเทศไทย และใช้กลุ่มตัวอย่างประเทศละ 1,000 คน ผลสำรวจพบว่า คนไทยกว่า 59% เชื่อว่าหากต้องเจ็บป่วยจากโรคร้ายแรง ไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายหรือไม่แน่ใจว่าจะมีเงินเพียงพอสำหรับค่ารักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่องได้เกิน 10 ปี
นอกจากนั้นยัง เชื่อว่าค่าใช้จ่ายที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วยที่รุนแรงอยู่ที่กว่า 350,000 บาทเท่านั้น ทั้งที่ความเป็นจริงค่ารักษาพยาบาลจากโรคร้ายแรงบางชนิด อาทิ มะเร็งทรวงอก กับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน ภายในระยะเวลา 3 เดือน ค่าใช้จ่ายจะสูงถึงกว่า 800,000 บาท
ในกลุ่มตัวอย่างได้มีการทำประกันชีวิตไว้ที่ประมาณ 37 % ทำประกันอุบัติเหตุที่ 33% แต่มีการทำประกันการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงไว้เพียง 9% โดยมักคิดไปเองว่าสุขภาพดี และปัจจุบันความก้าวหน้าทางการแพทย์ ทำให้มีอัตราการรอดชีวิตจากโรคร้ายแรงและอุบัติเหตุสูงขึ้น โดยผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็ง มีอัตรารอดสูงถึง 80-90 %
แต่สิ่งที่ไม่รู้เลยก็คือ ความเสี่ยงต่อการกลับมาของโรคค่อนข้างสูง และอาจทำการรักษาต่อเนื่องถึง 10-20 ปี ซึ่งจะสร้างความเสียหายทางการเงินอย่างมาก ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่า 28 % ของกลุ่มตัวอย่างจะหมดเงินทุนภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี กรณีที่ไม่มีความคุ้มครองเรื่องรายได้และเงินเดือนโธมัส ได้นำผลสำรวจที่ได้มาเป็นกลยุทธ์ทางการตลาด โดยการพัฒนาแบบกรมธรรม์ใหม่ จากผลสำรวจทำให้เอไอเอปรับตัวเลขความคุ้มครองขั้นต่ำที่ 100,000 บาท เพิ่มเป็น 150,000 บาท
อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจ ทำให้เอไอเอ มองถึงการออกแบบประกันที่ให้ความคุ้มครองเรื่องโรคร้ายแรงเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมาที่คนทำประกันตัวนี้ยังน้อย เนื่องจากส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีเบี้ยประกันที่สูง โดยแบบกรมธรรม์ใหม่ที่จะทำออกมา จะเป็นการนำเอาอนุสัญญาโรคร้ายแรงมารวมเข้ากับประกันชีวิต ขายเป็นลักษณะแพกเกจ
" แบบประกันปกติของเราจะมีทุนขั้นต่ำอยู่ที่ 150,000 บาท แต่ทุนประกันของตัวใหม่นี้จะอยู่ที่ 120,000 บาท เพื่อให้ลูกค้าสามารถจ่ายความคุ้มครองในส่วนอนุสัญญาโรคร้ายแรงเพิ่มขึ้นได้ เพื่อให้ได้รับค่ารักษาพยาบาล ค่าห้องพัก และการชดเชยด้านรายได้เป็นต้น ซึ่งเราจะนำออกมาใน 1-2 เดือนนี้" คาดกันว่า แบบประกันใหม่ ที่จะนำออกมาขาย จะสามารถเพิ่มสัดส่วนการประกันโรคร้ายแรงจากที่มีอยู่เพียง 9% ให้เพิ่มขึ้นมาเป็น 11-12 % ได้
ดูเหมือนปัญหาเรื่องสุขภาพจะกลายมาเป็นโอกาสขยายฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมประกันชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ ....
|