Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2546








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2546
Whistle-Blowers สามสตรีผู้จุดโคมแห่งปี             
โดย สุปราณี คงนิรันดรสุข
 


   
search resources

Sherron Watkins
Coleen Rowley
Cynthia Cooper




"A community is like a ship. Everyone ought to be prepared to take the helm" จากละครเรื่อง An Enemy of the People ของนักประพันธ์เอก Ibsen

ในกระแสธารทุนนิยมที่เชี่ยวกรากด้วยมายาคติของโลภ โกรธ หลง เหล่าฝูงชนเปรียบประดุจเรือที่ไร้หางเสือ จนกว่าจะมี "คนถือพวงมาลัย" บังคับเรือให้ไปถูกทิศทาง ปรากฏว่าในสถานการณ์บ้านเมืองสหรัฐอเมริกาหลังเหตุวินาศกรรม 9/11 ได้สร้างสามสตรีเหล็กที่นิตยสาร TIME ได้ยกย่อง Sherron Watkins, Coleen Rowley และ Cynthia Cooper ให้เป็นบุคคลแห่งปี (Persons of the Year)

วิถีการทำงานของเธอที่กล้าเตือนภัยและเปิดเผยเรื่องทุจริตในองค์กรอย่างต่อเนื่อง ทำให้สังคม ยังมีความหวังและเชื่อมั่นว่ายังมี "คนจุดโคม" ส่องนำความจริงเช่นนี้อยู่

Sherron Watkins ขณะนั้นดำรงตำแหน่ง vice president วัย 43 ของ ENRON ได้เขียนจดหมาย เมื่อสิงหาคม 2001 ถึงประธานบริษัท Kenneth Lay เตือนให้เขารู้ว่า การทำบัญชีของบริษัท ไม่ถูกต้องซึ่งอาจทำให้บริษัทล้มละลายได้ ต่อมาบริษัทได้ยื่นขอล้มละลาย และในเดือนมกราคม 2002 คณะกรรมาธิการรัฐสภาผู้ตรวจสอบการล้มละลายของ ENRON ได้แถลงข่าวว่า จดหมายของ Watkins ได้กลายเป็นหลักฐานสำคัญ และเปิดศักราชของการเปิดโปงการทุจริตฉ้อฉลแห่งปี

ต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2002 Coleen Rowley ทนายใจเพชร วัย 48 แห่ง FBI ได้เขียนบันทึกช่วยจำถึง Robert Mueller ผู้อำนวยการ FBI เพื่อเปิดโปงความล้มเหลวด้านประสิทธิภาพและการแบ่งพรรคแบ่งพวกของหน่วยข่าวกรอง ที่เพิกเฉย ต่อการตรวจสอบหลักฐานที่อาจช่วยประเทศได้ก่อน เกิดเหตุวินาศกรรมร้ายแรง 9/11 โดยเฉพาะละเลยการตรวจสอบ Zacarias Moussaoui ซึ่งเป็นหนึ่งใน ผู้ก่อการร้ายที่โจมตีสหรัฐอเมริกาด้วย

หลังจากนั้นอีกหนึ่งเดือนต่อมาเกิดเหตุอาณาจักรโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ WorldCom ล่มสลาย เมื่อ Cynthia Cooper เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบัญชีภายในบริษัท วัย 38 ได้แจ้งต่อคณะกรรมการบริหารของบริษัท เมื่อมิถุนายน 2001 ว่า บริษัทได้ตกแต่งบัญชีปลอมขึ้นมาเพื่อกลบเกลื่อนภาวะขาดทุน อย่างหนักถึง 3,800 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่อมาอีกหนึ่งเดือนบริษัทได้ประกาศล้มละลายถือว่าเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจของสหรัฐ อเมริกาทีเดียว

วิถีขบถของสตรีธรรมดาๆ ทั้งสามคนนี้ ได้ทำในสิ่งที่คนทั่วไปที่ยังห่วงลาภ ยศ สรรเสริญไม่กล้าทำกัน ใครจะกล้าเสี่ยงแลกอนาคตและความมั่นคงกับอิทธิพลมืดที่ข่มขู่คุกคามชีวิตและทรัพย์สิน? พวกเธอไม่ใช่คนอยากดังที่ต้องคุยกับ Barbara Walters แห่ง ABC News เพื่อให้คนทั้งเมืองต้องฟัง แต่สตรีเหล็กทั้งสามยังคงยืนหยัดที่จะทำหน้าที่ตามหลักการที่ถูกต้องด้วยภารกิจแห่งมนุษย์ที่มีพลังและความรับผิดชอบต่อส่วนรวม โดยไม่ยอมเพิกเฉยต่อความฉ้อฉล หรือยอมจำนนด้วยการพายเรือให้โจรนั่งเลย

"As whistle-blowers, these three became fail-safe systems that did not fail. For believing really believing that the truth is on thing that must not be moved off the books." หนึ่งในคำนิยมของ TIME

สตรีทั้งสามเป็นลูกสาวคนโตของครอบครัว เกิดในเมืองเล็กๆ ของสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันสมรสมีครอบครัวแล้ว โดย Cooper และ Rowley เป็นผู้ทำมาหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว ขณะที่สามีของทั้งคู่เป็นพ่อบ้าน (stay-at-home-dads) ดังนั้นการตัดสินใจเปิดโปงการตกแต่งบัญชีบริษัท WorldCom ของ Cooper จึงต้องเสี่ยงต่อฐานะของครอบครัวที่ขึ้นอยู่กับเงินเดือนของเธอผู้เดียว

แต่ในฐานะผู้ตรวจสอบบัญชีภายในบริษัทคนหนึ่ง Cooper ไม่อาจเพิกเฉยละเลยความรับผิดชอบได้ เธอจำเป็นต้องเลือกต่อสู้เพื่อความถูกต้องก่อนปากท้อง แต่กว่าจะฝ่าวงล้อมของความเท็จหลอกลวงได้ เธอต้องเสี่ยงทำงานหนักเพื่อหาหลักฐานแน่นหนามัดผู้บริหารระดับสูง และสามารถเปิดโปงห่วงโซ่ทุจริตในบริษัท WorldCom ได้

ในห้วงเวลาอันยากลำบากเช่นนี้ ถ้าคนไม่แกร่งกล้าพอ อาจเพี้ยนติดเหล้าและเครียดเพราะถูกไล่ออกจากงานและจนตรอก แต่สำหรับสตรีเหล็กทั้งสาม ที่มีเลือดเนื้อและน้ำตาเหมือนคนอื่นๆ สามารถทนทานต่อความเจ็บปวดและโดดเดี่ยวได้อย่างมีสติปัญญาและความกล้าหาญจนถึงที่สุด ที่ก่อให้เกิดการปฏิวัติธรรมาภิบาลของธุรกิจข้ามชาติของสหรัฐฯ ในกฎหมายใหม่ว่าด้วย พ.ร.บ. Sarbanes-Oxley Act of 2002 โดยมีมาตราว่าด้วย จริยธรรมและธรรมาภิบาลในมาตรา 201, 301, 406 และ 806 ให้ผู้บริหารระดับ CEOs และ CFOs ต้อง รับผิดชอบเซ็นรับรองประกันความถูกต้องของบัญชีกิจการด้วยตนเอง

"There is a price to be paid. There have been times that I could not stop crying." นี่คือทัศนะและความคับแค้นใจที่ Cooper พรั่งพรูให้ฟัง

ขณะที่ Watkins ที่ทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่ ENRON ได้รับแรงบันดาลใจจากคติพจน์ของ Martin Luther King Jr. ที่พิมพ์ลงในกระดาษจดโน้ตของบริษัทที่เธอเห็นทุกๆ วันว่า

"Our lives begin to end the day, we become silent about thing that matter." สิ่งนี้ ทำให้เธอกล้าเปิดโปงความฉ้อฉลใน ENRON ได้อย่างเงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน

งานต่อไปของสตรีทั้งสาม อย่าง Watkins, Rowley และ Cooper น่าจะรับเป็นอาจารย์พิเศษสอนที่ University of Buenos Aires ของประเทศ อาร์เจนตินา เพราะที่นั่นได้เปิดหลักสูตรระดับปริญญาโทบริหารธุรกิจ "MBA สาขาวิชาคอร์รัปชั่น" เป็นครั้งแรกในสมัยของอดีตประธานาธิบดีคาร์ลอส เมเนม หลักสูตรว่าด้วยกรณีศึกษาการคอร์รัปชั่นหลากหลายสาเหตุและพฤติกรรม ที่นำความฉิบหาย วายวอดมาสู่ประเทศและเศรษฐกิจโลก

ถ้าประสบการณ์ต่อสู้ของเธอทั้งสามสามารถ จุดโคมทางปัญญาในดินแดนอันมืดมิด เพราะไร้ความหวังอย่างอาร์เจนตินาและในประเทศที่เต็มไปด้วยคอร์รัปชั่นได้ ต้องนับถือว่าคนดีอย่างเธอสามารถ ค้ำจุนโลกไว้ครึ่งหนึ่งจากบุรุษ

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us