Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 ตุลาคม 2549
เอเยนซี่ปั่นป่วนห้ามโฆษณาน้ำเมา หาลูกค้าใหม่อุดช่องโหว่ หวั่นเม็ดเงินไหลสู่ตปท.             
 


   
search resources

โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ (ประเทศไทย)
Advertising and Public Relations
กรณ์ เทพินทราภิรักษ์




มาตรการคุมเข้มการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่เตรียมประกาศใช้ ฟาดหางใส่เอเยนซี่โฆษณาเต็มแรง เหตุน้ำเมาเป็นลูกค้ารายหลัก งบมาก เร่งเครื่องหาลูกค้ารายใหม่มาอุดช่องโหว่ ครีเอทีฟจูซ-วายแอนด์อาร์ รับถ้วนหน้ากระทบรายได้รวมแน่นอน วงการชี้ควรแก้ไขที่ต้นเหตุ เช่นการศึกษา โวยห้ามขายสุราเลยดีกว่าหมดเรื่องหมดราว ด้านโอกิลวี่เชื่อเม็ดเงินไหลสู่ต่างประเทศ เชื่อผู้ประกอบการและเอเยนซี่ต้องหารูปแบบการทำตลาดแบบใหม่

จากกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขเตรียมออกประกาศกฎกระทรวงควบคุมการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงในทุกสื่อและทุกรูปแบบชนิดเบ็ดเสร็จ ส่งผลให้บรรดาเอเยนซี่ที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นลูกค้า ต่างต้องปรับตัวกันวุ่นพร้อมกับการแสดงความเห็นในมุมมองต่างๆถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้

โอกิลวี่เชื่อเม็ดเงินไหลสู่ตปท.

นายกรณ์ เทพินทราภิรักษ์ เอ็กซ์เซ็คคิวทีฟ ครีเอทีฟ ไดเรคเตอร์ บริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยถึงประเด็นที่ภาครัฐเตรียมควบคุมสื่อโฆษณาสินค้าแอลกอฮอลล์ทุกช่องทางว่า เป็นวิธีการแก้ปัญหาของภาครัฐ ซึ่งตรงนี้ต้องคิดให้รอบคอบเสียก่อน เพราะอาจมีบางกลุ่มได้เปรียบหรือเสียเปรียบก็ได้ ทั้งนี้ในแง่ธุรกิจเชื่อว่ากระทบแน่ แต่ถ้าไม่อยากให้คนดื่มก็น่าจะงดขายสินค้าเลยดีกว่าหรือไม่

ขณะที่แนวทางการไขปัญหาในระยะยาวตรงนี้มองว่าควรให้การศึกษากับคนให้มากๆ เพราะปัจจุบันคนส่วนใหญ่ที่มีการศึกษาไม่มากพอเวลามีปัญหาขึ้นมาก็จะดื่มเหล้า เป็นต้น

ในส่วนของบริษัทโอกิลวี่ฯอาจได้รับผลกระทบบ้างหากมาตรการของภาครัฐประกาศออกมา โดยยอดรายได้อาจจะหายไปจากลูกค้าที่มีอยู่ ได้แก่ เบียร์สิงห์ของบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และเหล้าจากต่างประเทศ 1-2 ราย เช่น สก็อตวิสกี้เดวาร์และยังทำให้บาร์คาดี้บ้างในบางครั้ง ทั้งนี้หากนโยบายคุมเข้มสินค้าแอลกอฮอลล์จริงในเชิงธุรกิจผู้ประกอบการก็ต้องพยายามหาแง่มุมและรูปแบบการทำตลาดแบบใหม่ อาทิ การใช้ชื่อบริษัทเป็นชื่อเดียวกับสินค้า เป็นต้น

นอกจากนี้ต้องรอดูรายละเอียดของการห้ามของภาครัฐด้วยว่าจะควบคุมมากน้อยอย่างไร แต่เท่าที่ดูน่าจะห้ามเฉพาะในประเทศ ขณะที่ต่างประเทศไม่ได้ห้าม ตรงนี้จะทำให้ผู้ประกอบการสินค้าจะหันไปทำตลาดและใช้เม็ดเงินในต่างประเทศ เช่น กรณีเบียร์ช้างเป็นสปอนเซอร์ที่เสื้อให้ทีมฟุตบอลเอฟเวอร์ตันจากอังกฤษ

ครีเอทีพจูซ\จีวันยอดขายหาย5-10%

นายพงษ์สุรี อาศนะเสน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ครีเอทีฟ จูซ\จีวัน เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯมีลูกค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์อยู่ 2 ราย คือ สปาย ไวน์คูลเลอร์ และเบียร์สิงห์ ซึ่งดูแลในแง่คอร์ปอเรตหรือองค์กร ส่วนตัวสินค้าสลับเอเยนซี่กันไปแล้วแต่สินค้า ซึ่งหากภาครัฐออกกฎควบคุมการโฆษณาของสินค้าแอลกอฮอลล์ตรงนี้ก็จะส่งผลกระทบต่อบริษัทฯบ้างในส่วนยอดรายได้ที่คาดว่าจะหายไป 5-10% จากยอดรายได้รวม

ทั้งนี้ลูกค้า 2 รายนี้ถือว่าเป็นรายหลักและมียอดรายได้ติดท็อปเทน(Top 10) ตรงนี้มองว่าบุญรอดริวเวอรี่ ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์สิงห์อาจได้รับผลกระทบมากหน่อยในการทำตลาด ส่วนสปาย ไวน์คูลเลอร์ช่วงที่ผ่านมาจะเน้นทำสื่อบีโลว์ เดอะ ไลน์เป็นหลัก นอกจากนี้ยังมองว่าสินค้าแอลกอฮอลล์ที่เป็นแบรนด์ต่างประเทศจะมีความได้เปรียบมากกว่าแบรนด์ไทยในสภาวะการแข่งขันไม่เสรี100%

“ในฐานะเอเยนซี่มองว่าการทำงานต่อไปไม่ใช่แค่คิดด้านครีเอทีฟเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมี Strategic Planner หรือผู้วางแผนกลยุทธ์เข้ามาช่วยคิด รวมถึงต้องคิดไอเดียใหม่ๆให้แก่ลูกค้าด้วย อย่างไรก็ตามก็ต้องรอดูนโยบายของภาครัฐอีกทีก่อนว่าจะมีความชัดเจนแค่ไหน ซึ่งไม่ว่าจะออกมาอย่างไรในฐานะเอเยนซี่ก็ต้องทำตามกฎของรัฐบาลอยู่แล้ว” นายพงษ์สุรีกล่าว

บีบีดีโอชี้ควรแก้ที่ต้นเหตุที่ระบบกศ.

นายเดชา ตั้งปณิธานสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บีบีดีโอ กรุงเทพ จำกัด เปิดเผยว่า มาตรการดังกล่าวไม่กระทบต่อภาพรวมของบริษัทฯมากนัก เพราะปัจจุบันบริษัทฯมีลูกค้ากลุ่มสินค้าแอลกอฮอลล์ 1 ราย คือ ชีวาส รีกัล ซึ่งที่ผ่านมาการทำตลาดก็เน้นทางสื่ออโบฟ เดอะ ไลน์เป็นหลัก แต่ตรงนี้ต้องรอดูความชัดเจนของกฎหมายก่อนว่าจะครอบคลุมอีเวนต์ต่างๆหรือไม่ เท่าที่อ่านข่าวผ่านสื่อต่างๆจะเห็นได้ว่าการทำตลาดผ่านเบียร์การ์เด้นยังก้ำกึ่งอยู่ ไม่ชัดเจน ส่วนในร้านแบบปิดหรือผับบาร์ยังทำได้อยู่ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องรอนโยบายประกาศออกมาก่อน

“ตรงนี้ผลกระทบเชื่อว่ามีอยู่แล้ว โดยคนที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากก็จะได้เปรียบ หรือบริษัทที่มีฐานลูกค้ามากก็ได้เปรียบ ส่วนแบรนด์ใหม่หรือแบรนด์ไทยที่เป็นแบรนด์เล็กๆมองว่าจะเกิดในตลาดได้ยาก ขณะที่แบรนด์ที่มาจากต่างประเทศจะมีความได้เปรียบกว่าแบรนด์ไทย เพราะว่ามีการสื่อสารผ่านโลกสื่อที่เสรีและเปิดกว้างมากกว่า เช่น สื่อดิจิตอล,เมล์และเว็บไซต์ เป็นต้น”

อย่างไรก็ตามในฐานะเอเยนซี่ก็เห็นด้วยกับมาตรการของภาครัฐ แต่ต้องมองในมุมกว้างด้วยว่าหากมีแล้วจะมีข้อดีหรือข้อเสียอย่างไร ในความเห็นมองว่าน่าจะแก้ไขส่วนอื่นๆที่เป็นต้นเหตุ อาทิ ระดับการศึกษาของคน,บ้าน,ชุมชน และครอบครัวว่ามีการดูแลหรือรณรงค์ได้มากน้อยแค่ไหน

วาย แอนด์ อาร์ชี้กระทบตลาดรวมโฆษณา 1%

นายสรณ์ จงศรีจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วาย แอนด์ อาร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ลูกค้าแอลกอฮอล์ของบริษัทฯมี 1 ราย ได้แก่ สินค้าวิสกี้เบนมอร์ของบริษัทดิเอจิโอ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัท ริชมอนเด้ (บางกอก) จำกัด โดยบริษัทฯเป็นแบรนด์เอเยนซี่หรือบริหารดูแลแบรนด์ให้ ส่วนการทำสื่อโฆษณาสินค้าตรงนี้ผ่านสื่อทำอะไรมากไม่ได้ ดังนั้นหากทางภาครัฐประกาศมาตรการควบคุมสินค้าแอลกอฮอล์ออกมาก็เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อยอดรายได้ของบริษัทฯเล็กน้อยหรือแทบไม่มีผลเลย เพราะบริษัทฯมีลูกค้าอยู่หลายราย กระจายในหลายสินค้า

ส่วนผลกระทบต่อภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณามองว่ากระทบเพียง 1% หรือเม็ดเงินหายไปกว่า 1 พันล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวมโฆษณาที่มีประมาณ 9หมื่น-1แสนล้านบาท นอกจากนี้หากมองในแง่ผลกระทบต่อการว่าจ้างงานของธุรกิจเหล้าและเบียร์ก็จะพบว่าอาจทำให้คนกลุ่มดังกล่าวนี้ตกงานและต้องดิ้นรนพยายามหางานใหม่   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us