อาร์เอส ปรับแนวรุกสื่อสิ่งพิมพ์ ตั้งบิสซิเนสยูนิตใหม่ อาร์เอสพับลิชชิ่ง รวมทั้ง 4 หัวมาอยู่ภายใต้เดียวกัน รับยุทธศาสตร์ 3S มั่นใจปีหน้าเติบโต 50% สู่รายได้ 250 ล้านบาท ยันปีหน้ายังไม่มีหัวใหม่ แต่ ปี 2551 เล็งเพิ่มทั้งหัวนอกและหัวใน เจาะนิชมาร์เกตมากขึ้น

นางพรพรรณ รุ่งเรืองบางชัน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากนโยบายโดยรวมของอาร์เอสที่ดำเนินยุทธศาสตร์ภายใต้ 3 เอส (3S) คือ SYNERGY SPEED และ STYLE ตั้งเป้าหมายที่จะมีอัตราการเติบโตของรายได้รวมเพิ่มขึ้นปีละ 15% ในช่วง 3 ปีจากนี้ไป โดยธุรกิจสิ่งพิมพ์จะเติบโต 50% ในปีหน้าและมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 5% จากรายได้รวมของอาร์เอส

ส่วนธุรกิจอีเวนต์นั้นจะจัดอยู่ในรายได้จากการับจ้างผลิต ไตรมาสแรกมีประมาณ 150 ล้านบาท แต่ไตรมาสที่สองลดลงเหลือประมาณ 40 ล้านบาท ส่วนไตรมาสสามและสี่คาดว่า จะมีประมาณ 100 ล้านบาทต่อไตรมาส และปีหน้ารายได้นี้จะไปอยู่ในส่วนของอาร์เอสไอดรีมบริษัทใหม่ที่เพิ่งตั้งขึ้นช่วงไตรมาสสามปีนี้

นายชาคริต พิชญางกูร กรรมการบริหาร อาร์เอส พับลิชชิ่ง เปิดเผยว่า อาร์เอสได้ปรับแนวทางการดำเนินธุรกิจด้านสิ่งพิมพ์ใหม่ โดยได้ตั้งหน่วยงานใหม่ชื่อว่า อาร์เอสพับลิชชิ่ง ขึ้นมาบริหารงานด้านธุรกิจสิ่งพิมพ์ทั้งหมด คือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารทั้งหมด ซึ่งขณะนี้มี 4แบรนด์หลัก คือ หนังสือพิมพ์ดาราเดลี่ หนังสือพิมพ์ดาเดลี่วีคเอนด์ (เดิมอยู่ภายใต้บริษัท นิวเจนเนอเรชั่น จำกัด ) ส่วนนิตยสารฟร้อนท์ และนิตยสารเฟม (เดิมอยู่ภายใต้บริษัท โพเอมม่า) ขณะที่นิตยสารบอสสนั้น ได้เลิกไปแล้วโดยมีรายอื่นเข้ามารับช่วงต่อ ซึ่งฉบับสุดท้ายที่อาร์เอสทำ คือ เดือนกรกฎาคมปีนี้

โดยแนวทางการทำงานของอาร์เอสพับลิชชิ่ง จะเริ่มชัดเจนต้นปีหน้า ซึ่งขณะนี้เริ่มปรับเปลี่ยนแล้ว จะรวมการทำงานทั้ง 4เล่มเข้าด้วยกัน แบ่งระบบการบริหารเป็น ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด และผู้อำนวยการฝ่ายการขาย ส่วนแต่ละแบรนด์นั้น ก็จะมีทีมขายโฆษณาแต่ละเล่มเหมือนเดิม แต่การทำงานจากนี้ไปจะเป็นการทำงานแบบเป็นแพกเกจมากกว่าเดิมที่แต่ละเล่มแต่ละคนจะไปขายโฆษณาลูกค้า ซึ่งค่อนข้างกระจัดกระจาย ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

"ตลาดสิ่งพิมพ์ในปีหน้า จะมีการแข่งขันที่สูงขึ้น แต่เม็ดเงินโฆษณาโดยรวม ก็ไม่ได้เติบโตมากนัก ผู้ประกอบการจะเข้ามามากขึ้น และต้องพยายามออกหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารทำตลาดให้เป็นนิชมาร์เกตมากขึ้น และการทำตลาด ขายโฆษณา จะไม่ใช่แค่ขายหน้ากระดาษเท่านั้น จะต้องเป็นระบบ ทั้งการขายหน้าโฆษณา การจัดอีเวนต์ โปรโมชัน และการนำเสนอสื่อที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น ซึ่งตรงนี้อาร์เอสพับลิชชิ่ง เรามีพร้อมอยู่แล้วทั้งหมด จากบริษัทในเครือที่ตอบสนองตลาดได้" นายชาคริตกล่าว

ทั้งนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้รวมของอาร์เอสพับบลิชชิ่งในปีหน้าว่าจะเติบโตประมาณ 50% โดยมีรายได้รวมประมาณ 250 ล้านบาท แบ่งเป็น ดาราเดลี่ และวีคเอนด์ ประมาณ 150 ล้านบาท ฟร้อนท์ประมาณ 50 ล้านบาท และเฟมประมาณ 50 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้คาดว่ารายได้รวมจะมีประมาณ 140 ล้านบาท แบ่งเป็น ดาราเดลี่และวีคเอนด์ประมาณ 100 ล้านบาท และนิตยสารฟร้อนท์ประมาณ 40 ล้านบาท ส่วนนิตยสารเฟมยังมีไม่มากนัก เพราะว่าเพิ่งเริ่มปีนี้ ได้แค่ 2 ฉบับเป็นรายสามเดือน แต่ปีหน้าจะเริ่มออกเป็นรายเดือน โดยสัดส่วนรายได้นั้นมาจาก การขายโฆษณา 80% และมาจากยอดขายหนังสือ 20%

อย่างไรก็ตามในปีหน้าแผนธุรกิจของอาร์เอสพับลิชชิ่ง ยังไม่มีแผนที่จะเปิดสิ่งพิมพ์หัวใหม่ขึ้นมา จะชู 4 แบรนด์นี้เป็นหลักก่อน แต่ว่าในช่วงปี 2551 อาจจะมีการขยายหัวใหม่เพิ่มขึ้น ทั้งการพัฒนาหัวขึ้นมาเอง และการซื้อลิขสิทธิ์หัวนอกเข้ามาดำเนินการ ซึ่งจะไม่ซ้ำซ้อนกับหัวเดิมที่ทำตลาดอยู่แล้ว ซึ่งเทรนด์ของสิ่งพิมพ์ที่น่าสนใจเช่น กลุ่มลีฟวิ่ง คือแนวทางการใช้ชีวิต หรือแนวอาหารการกิน ก็เป็นตลาดที่น่าสนใจ และตลาดนิตยสารจะเป็นตลาดที่น่าสนใจมากกว่าตลาดหนังสือพิมพ์

ปัจจุบัน ดาราเดลี่ มียอดพิมพ์ 300,000 ฉบับต่อวัน ราคา 10 บาทต่อฉบับ ยอดขายมาจากกรุงเทพฯ 60.78% (แผงร้านหนังสือ 60.14% โมเดิร์นเทรด 23.60% และร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 16.26%) และมาจากต่างจังหวัด 39.62% กลุ่มเป้าหมายชายและหญิงอายุ 18-45 ปี รายได้ประมาณ 20,000-85,000 บาทต่อเดือน ส่วนดาราเดลี่สุดสัปดาห์ ยอดพิมพ์ 300,000 ฉบับต่อวัน ราคา 35 บาท กลุ่มเป้าหมายคือ ชายและหญิงอายุ 18-45 ปี รายได้ 25,000 -90,0000 บาทต่อเดือน

ส่วนนิตยสารฟร้อนท์ ยอดพิมพ์ 150,000 ฉบับต่อเดือน ราคา 75 บาท กลุ่มเป้าหมายผู้หญิง 19-30 ปี รายได้มากกว่า 25,0000 บาทต่อเดือน ยอดจำหน่ายในกรุงเทพฯ 75% ต่างจังหวัด 25% มีสมาชิก 20% ส่วนนิตยสารเฟม ยอดพิมพ์ 100,000 ฉบับต่อเดือน ราคา 120 บาท จับกลุ่มผู้หญิงอายุ 25-40 ปี รายได้มากกว่า 50,000 บาทต่อเดือน ยอดจำหน่ายมาจากกรุงเทพฯ 80% ต่างจังหวัด 20% และมีสมาชิก 20%