Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน12 ตุลาคม 2549
ปัจจัยลบปี49’กระทบตลาดโตไม่คืบ5ส.ตลาดจัดสัมมนารับมือศก.ปีหน้า             
 


   
search resources

สมบุญ ประสิทธิ์จูตระกูล
Commercial and business




5สมาคมฟันธงเศรษฐกิจไทยปี49 “การตลาดฯ” เผยปัจจัยลบอื้อกระทบตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคไม่หวือหวา ระบุไตรมาสสุดท้ายตลาดคึกคักขึ้น แห่อัดโปรโมชั่นแทนการเปิดตัวสินค้าใหม่ พร้อมรอดูนโยบายรัฐอีก 2-3 เดือน ด้านตลาดวิจัยไทยปีนี้คาดว่าโต 5-10% ส่วนธุรกิจขายตรงปีนี้อนาคตสดใสโตสวนทางเศรษฐกิจ พร้อมกังวลน้ำท่วมยื้อเยื้อจะทำให้ธุรกิจลำบาก ขณะที่เอเยนซี่งัดโนว์ฮาวใหม่สนองลูกค้า ธุรกิจพีอาร์มีบทบาทมากขึ้นในยุคเศรษฐกิจไม่ดี ผนึกกำลังจัดงานสัมมนารับมือเศรษฐกิจปี 50

นายสมบุญ ประสิทธิ์จูตระกูล นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศ กล่าวว่า สินค้าที่เกี่ยวข้องกับอุปโภคบริโภคในช่วงภาวะเศรษฐกิจดี ก็จะมีการใช้สอยกันเป็นจำนวนมาก ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้ไม่ค่อยดี โดยคาดว่าปีนี้ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคจะมีอัตราการเติบโตที่5% ซึ่งอาจจะโตมากกว่าจีดีพีเล็กน้อย เนื่องจากตลาดต้องประสบกับปัจจัยลบต่างๆ ตั้งแต่ช่วงต้นปี อาทิ น้ำมันแพงในช่วงเมษายนถึงพฤษภาคม จากนั้นก็เรื่องอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคมีการใช้จ่ายน้อยลง และหันมาใช้จ่ายเฉพาะสินค้าที่จำเป็น ส่วนช่วงเดือนกันยายนต้องประสบกับปัญหาการเมือง

“ภาพรวมตลาดปีนี้ไม่น่าจะหวือหวามากนัก แต่เชื่อว่าอารมณ์การจับจ่ายใช้สอยน่าจะดีขึ้นช่วงปลายปีนี้ เพราะปัจจุบันความไม่แน่นอนทางการเมืองเริ่มนิ่งแล้ว ล่าสุดเดือนนี้อาจสะดุดบ้างเรื่องน้ำท่วม ทำให้การส่งของมีความยากลำบากขึ้น อย่างไรก็ตามก็ยังเชื่อว่าสินค้าอุปโภคบริโภคหรือของจำเป็นคนก็ยังต้องซื้ออยู่”

ขณะที่แนวโน้มตลาดในปีหน้ายังไม่สามารถคาดการณ์ได้ เพราะรัฐบาลใหม่เพิ่งตั้ง คงต้องรอดูว่านโยบายเศรษฐกิจพอเพียงจะนำมาใช้อย่างไร และผู้บริโภคจะมีความมั่นใจมากขึ้นหรือไม่ ตรงนี้คาดว่าคงต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือนถึงจะเห็นภาพชัดเจนขึ้น สำหรับภาพรวมตลาดช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เชื่อว่าผู้บริโภคจะเน้นการทำโปรโมชันเป็นหลัก เพราะเหลือเวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น ส่วนการเปิดตัวสินค้าใหม่ในช่วงนี้มองว่าไม่น่าจะมี เพราะการจะเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ นั้นต้องใช้เวลาพอสมควร

**ตลาดวิจัยไทยปีนี้คาดโต 5-10%**

นางดารณี เจริญรัชต์ภาคย์ นายกสมาคมการวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดงานวิจัยในประเทศไทยว่า ในปีที่ผ่านมาตลาดงานวิจัยของไทยมีอัตราการเติบโตที่ 23.2% ซึ่งถือว่าโตเป็นอันดับ2 ในเอเชียแปซิฟิกต่อจากจีนที่โต25% ขณะที่ปีนี้ก็มีการคาดการณ์ว่าตลาดวิจัยไทยจะมีอัตราการเติบโตขึ้น 5-10% ทั้งนี้การที่ตลาดเติบโตเนื่องจากสถานที่ของประเทศไทยเอื้ออำนวยต่องานวิจัยและไทยยังเป็นศูนย์กลางงานวิจัยหลายๆ อย่างหรืองานที่เป็นรีจีนัล โปรเจกส่วนใหญ่ก็ยึดไทยเป็นศูนย์กลาง รวมถึงปัจจุบันลูกค้าให้ความสำคัญกับงานวิจัยมากขึ้น ยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีวิกฤตยิ่งทำให้ลูกค้าใช้จ่ายเม็ดเงินอย่างคุ้มค่า โดยที่ไม่ได้ตัดเม็ดเงินการวิจัยลงแต่อย่างใด

**ขายตรงโตสวนทางศก.-ห่วงน้ำท่วมทำธ.แย่**

แพทย์หญิงนลิณี ไพบูลย์ นายกสมาคมการขายตรงไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจขายตรงไทยปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 10-15% ซึ่งถือว่าโตสวนกระแสเศรษฐกิจ เนื่องจากมีปัจจัยในด้านต่างๆ อาทิ คนหันมาทำธุรกิจขายตรงเป็นอาชีพเสริมมากขึ้น รวมถึงการที่คนไทยสามารถแยกแยะธุรกิจขายตรงที่ดีและธุรกิจที่แอบแฝงได้แล้ว ส่วนเรื่องปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองพบว่าไม่มีผลต่อธุรกิจขายตรงเลย โดยนักธุรกิจขายตรงนั้นมีความเป็นกลางทางการเมือง แต่สิ่งที่เป็นกังวลมากที่สุด คือ เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งหากยืดเยื้อต่อไปจะเป็นผลลบต่อธุรกิจ เพราะทำให้คนไม่มีอารมณ์จับจ่ายใช้สอย

**เอเยนซี่งัดโนว์ฮาวใหม่สนองลูกค้า**

นายชัยประนิน วิสุทธิผล อดีตนายกสมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วงการโฆษณาในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเหมือนปีที่แล้วหรือประมาณ 3-5% เนื่องจากปีนี้ไทยต้องประสบกับหลายปัจจัยทั้งเศรษฐกิจและการเมืองที่เพิ่งจะมาชัดเจนขึ้น จากการได้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชั่วคราวที่เพิ่งมีการแต่งตั้งขึ้น แต่ในแง่การจับจ่ายใช้สอยของลูกค้ามายังเอเยนซี่พบว่ายังมีไม่มากและอยู่ในขั้นชะลอตัว เนื่องจากลูกค้ายังไม่มีความมั่นใจในการลงทุนหรือทำตลาด ดังนั้นสิ่งที่เอเยนซี่ต้องทำ คือ พยายามหาวิธีการหรือโนว์ฮาว และกลยุทธ์ที่สร้างสรรค์มารองรับกับความต้องการของลูกค้าให้มากๆ

พีอาร์มีบทบาทมากขึ้นในยุคศก.ไม่ดี

นายชัยวัฒน์ ศีตะจิตร นายกสมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า นโยบายของภาครัฐมาทางเศรษฐกิจพอเพียง ดังนั้นทุกอย่างก็ต้องใช้เรื่องนี้เป็นตัวนำ ซึ่งในสภาวะเศรษฐกิจแบบพอเพียงนี้เอง ทำให้แรงบันดาลใจในวิชาชีพประชาสัมพันธ์ก่อให้เกิดผลดีตามไปด้วย โดยปัจจุบันภาพรวมของวิธีการสื่อสารและประชาสัมพันธ์เริ่มทวีความสำคัญมาก ส่งผลให้ตลาดมีการเติบโตขึ้นทุกปี ขณะที่การทำงานของบริษัทประชาสัมพันธ์ก็หนักขึ้น เนื่องจากต้องศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคว่าต้องการอะไร

ล่าสุด 5 สมาคมวิชาชีพของไทย ซึ่งประกอบด้วย สมาคมวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทย, สมาคมการตลาดแห่งประเทศ,สมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทย, สมาคมการขายตรงไทย และสมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย เตรียมจัดงานสัมมนาครั้งใหญ่ประจำปี “วันห้าสมาคม ปรับเปลี่ยนสู่อนาคต 4” ภายใต้หัวข้อ “INSPIRATION,the unwritten rule of success เพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในประเทศไทยทั้งจากเรื่องเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us