ไบโอ คอนซูเมอร์ รับกระแสเมโทรเซ็กชวลโตกว่า 100% ล่าสุดทุ่ม 100 ล้านบาท ปั้น "CTRL" บุกตลาดสกินแคร์ชาย ชูสูตรไวท์เทนนิ่งและดูแลผิว 10 ประการในขั้นตอนเดียวเป็นจุดขาย พร้อมอัดกลยุทธ์ราคาต่ำกว่าคู่แข่ง 10% หวังกระชากการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค การบุกครั้งนี้ไบโอฯหวังจะขึ้นมาแทนที่ลอรีอัลภายในสิ้นปี ก่อนจะขยับขึ้นไปท้าชิงเบอร์ 1กับนีเวียในลำดับถัดไป

ด้วยอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดเมโทรเซ็กชวล หรือกลุ่มสินค้าสำหรับผู้ชาย โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีการเติบโตสูงถึงกว่า 100% ทำให้ชัดเจนขึ้นว่า ตลาดเมโทรฯไม่ใช่เพียงกระแสแฟชั่นที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวอีกต่อไป แต่กลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความสนใจจากผู้ชายจริงๆเช่นเดียวกับสินค้าสำหรับผู้หญิง จากแนวโน้มดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้เล่นรายใหม่โดดเข้ามาร่วมแจมในตลาดนี้มากขึ้น ทั้งที่เป็นแบรนด์สำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ หรือแบรนด์สำหรับผู้หญิงก็ตาม เช่น การ์นิเย่ร์ ทั้งนี้เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ยังมีพฤติกรรมใช้สินค้าของผู้หญิงอยู่ประมาณ 75% ทำให้แบรนด์เครื่องสำอางผู้ชายต้องแข่งขันกับแบรนด์ของผู้หญิงด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้

แต่เมื่อพิจารณาเฉพาะแบรนด์สำหรับผู้ชาย ก็จะมีเพียง 2 รายเท่านั้นที่เป็นผู้เล่นหลักในตลาด คือ "นีเวีย ฟอร์เม็น" จากค่ายไบเออร์ สด็อรฟ และ "เม็น เอ็กซ์เพิร์ท" จากค่ายลอรีอัล ด้วยจำนวนคู่แข่งที่มากนัก จึงเป็นโอกาสในการเข้ามาทำตลาดของค่ายไบโอ คอนซูเมอร์ ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคแบรนด์ชั้นนำ เช่น ทรอส , จีนี่ , บีไนซ์ ด้วยการเปิดตัวแบรนด์ "CTRL" ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผู้ชาย นับเป็นครั้งแรกของค่ายนี้ที่หันมาบุกตลาดสกินแคร์ ซึ่งแน่นอนว่าในฐานะผู้เล่นเบอร์ 3 ย่อมมีต้องชูจุดขายที่แตกต่างจาก 2 รายแรกที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องสกินแคร์อย่างแน่นอน

สำหรับ แบรนด์"CTRL" ที่เปิดตัวในครั้งนี้ ไบโอฯหยั่งเชิงคู่แข่ง ด้วยการส่งกลุ่มทำความสะอาดผิวและกลุ่มบำรุงผิว ที่ชูนวัตกรรมเรื่องผิวขาวมาเป็นจุดขายก่อน ซึ่งมีให้เลือกอย่างละ 3 สูตร คือ สูตรเพื่อผิวขาว สูตรควบคุมความมัน และต่อต้านริ้วรอย พร้อมชูจุดเด่นเรื่องการดูแลผิวครบ 10 ประการในขั้นตอนเดียว ขณะที่คู่แข่งอย่างนีเวียมีเพียง 3 ประการเท่านั้น

"CTRL เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลผิวหน้าผู้ชายครบ 10 ประการในขั้นตอนเดียว ซึ่งจะช่วยตอบสนองความต้องการของพฤติกรรมผู้ชายที่ชอบความความสะดวกรวดเร็วในการใช้" เป็นคำกล่าวของ ศิริสุภา ยิ่งเจริญ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ บริษัท ไบโอ คอนซูเมอร์ จำกัด

นอกจากนี้ เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคทดลองซื้อสินค้าไปใช้ง่ายขึ้น CTRL จึงถูกวางราคาให้ต่ำกว่าคู่แข่งประมาณ 5 - 10% โดยเริ่มต้นที่ประมาณ 150 - 400 บาท ไม่เพียงเท่านี้ทางไบโอฯได้ทุ่มเม็ดเงินกว่า 100 ล้านบาท สำหรับการทำตลาดอย่างครบวงจร เช่น การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ การจัดโรดโชว์ รวมทั้งการแจกสินค้าตัวอย่างที่มากถึง 2 ล้านชิ้นภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสทดลองใช้สินค้าอย่างทั่วถึง รวมทั้งจะทำการขยายจุดจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศถึง 160 จุดภายในสิ้นปีนี้ด้วย แบ่งเป็น 100 จุดในต่างจังหวัด และ 60 จุดในกรุงเทพฯ ทั้งนี้ไบโอฯเชื่อว่าจากการที่มีจุดแข็งในเรื่องตัวแทนจำหน่ายก็จะทำให้สามารถกระจายสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม จาก 2 เซกเมนต์ที่เปิดตัวในครั้งนี้ เป็นไปได้ว่าจะเป็นเพียงสินค้านำร่องเท่านั้น เพราะหากไบโอฯหมายที่จะปั้นซีทีอาร์แอลขึ้นมาท้าชิงบัลลังก์จากนีเวียแล้ว เชื่อว่าสินค้าเพียง 2 กลุ่มคงไม่เพียงพอที่จะเข้ามาต่อกรกับผู้นำตลาดอย่างนีเวียที่ปัจจุบันครองส่วนแบ่งมากกว่า 70% อย่างแน่นอน

"อีก 2 - 3 ปี บริษัทมีแผนจะขยายไลน์สินค้าภายใต้แบรนด์ CTRL ไปยังกลุ่มสินค้ากลุ่มบอดี้อื่นๆ เช่น สินค้าระงับกลิ่นกาย ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทถนัดอยู่แล้ว ทั้งนี้เพื่อให้สินค้าครบไลน์และตอบสนองผู้ชายได้ครบทุกกลุ่ม แต่ทั้งนี้แผนปีหน้าเราจะยังให้ความสำคัญกับสินค้าเพื่อผิวหน้าก่อน เพื่อให้แบรนด์แข็งแรง โดยคาดว่าจะขึ้นเป็นเบอร์2 แทนที่ลอรีอัลภายในสิ้นปีนี้ ด้วยส่วนแบ่งกว่า 25% และจะขึ้นเป็นผู้นำตลาดได้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อผิวหน้าผู้ชายแทนที่นีเวียได้ภายใน 2 - 5 ปี" ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์กล่าว

ปัจจุบัน สินค้าดูแลผิวหน้าในกลุ่มบำรุงผิวมีมูลค่ากว่า 310 ล้านบาท มีการเติบโต 163% สินค้ากลุ่มทำความสะอาดมีมูลค่า 390 ล้านบาท มีการเติบโต 78% ทั้งนี้ไบโอฯตั้งเป้าสิ้นปีมีส่วนแบ่งประมาณ 25% จากตลาดรวมกว่า 700 ล้านบาท รวมทั้งผลักดันยอดขายในเครือไบโอฯให้มีการเติบโตได้ถึง 3 พันล้านบาทตามเป้าหมายที่ตั้งไว้