ลีสซิ่งกสิกรไทยวาดฝันยอดสินเชื่อทะลุแสนล้านภายใน 5 ปี เผยเตรียมขยายสาขาและออกโปรดักส์ใหม่ให้ครบวงจรมากขึ้น คาดปีนี้ปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้าไม่ต่ำกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท ส่วนแผนธุรกิจปีหน้าคาดจะเพิ่มสินเชื่อใหม่ไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท พร้อมรุกปล่อยสินเชื่อรถยนต์ที่ใช้แล้วให้มากขึ้น

นายอิสระ วงศ์รุ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทเปิดดำเนินการมา 1 ปี นับว่าประสบผลสำเร็จอย่างสูงในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ โดยล่าสุดสิ้นเดือนกันยายน 2549 บริษัทมียอดสินเชื่อประมาณ 10,000 ล้านบาท และในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทมีแผนจะขยายสาขาในกรุงเทพฯ ให้ครบ 4 มุมเมือง พร้อมทั้งเปิดสาขาต่างจังหวัดที่ชลบุรีและหาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้การให้บริการของบริษัทครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าภายในสิ้นปี 2549 จะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ 12,000-13,000 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 11,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทจะรุกตลาดบริการสินเชื่อรถยนต์เพื่อเงินสด (K-Car for Cash) สำหรับลูกค้าที่มีรถยนต์อยู่แล้วและต้องการใช้เงินสดในการหมุนเวียน โดยนำรถยนต์ที่ปลอดภาระมาเป็นหลักประกันขอสินเชื่อด้วยโปรโมชั่นพิเศษ Car for More Cash โดยลูกค้าที่ใช้บริการภายในปีนี้ จะได้รับวงเงินสินเชื่อสูงถึง 30 เท่าของรายได้ หรือไม่เกิน 100% ของราคาประเมิน อัตราดอกเบี้ยเริ่มที่ 4.9% เทียบกับของบริษัทอื่นที่จะเริ่มต้นอัตราดอกเบี้ยที่ 5.5-6% ซึ่งคาดว่าภายใน 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ จะมีลูกค้าสมัครขอใช้สินเชื่อดังกล่าวประมาณ 500 ราย คิดเป็นมูลค่า 200 ล้านบาท

“ขณะนี้การแข่งขันในธุรกิจลีสซิ่งมีความรุนแรงมาก โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ใหม่ ที่มีการแข่งขันทั้งเรื่องอัตราดอกเบี้ยและการให้บริการ ซึ่งในส่วนของลีสซิ่งกสิกรไทย จะเน้นเรื่องการให้บริการมากขึ้น ทั้งการขยายสาขา และการอนุมัติสินเชื่อที่รวดเร็ว รวมทั้งการออกบริการใหม่เพื่อให้บริการได้อย่างครบวงจร โดยมีเป้าหมายว่า ภายใน 5 ปี จะมียอดสินเชื่อถึง 1 แสนล้านบาท”

สำหรับแผนธุรกิจในปี 2550 บริษัทจะรุกตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น โดยมีแผนจะขยายสาขาหลักในจังหวัดที่มีศักยภาพอีกกว่า 10 สาขา พร้อมเปิดสาขาย่อยในจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งภายในกลางปีหน้าบริษัทจะมีสาขารวม 20-30 สาขา โดยได้ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ไว้ที่ 20,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันด้านบริการบริษัทจะเน้นการปล่อยสินเชื่อสำหรับรถยนต์ที่ใช้แล้ว โดยจะเพิ่มสัดส่วนจากปัจจุบันที่มีเพียง 3% ของสินเชื่อทั้งหมด เป็น 15% ของสินเชื่อทั้งหมด และให้ความสำคัญกับสินเชื่อ K-Car for Cash อย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มสัดส่วนจาก 1% เป็น 5%

นอกจากนั้นบริษัทมีแผนจะออกบริการใหม่ Operating Lease ซึ่งเป็นการให้บริการรถยนต์ลักษณะเช่าดำเนินงาน หรือการให้บริการรถยนต์ประจำตำแหน่งของผู้บริหาร และรถยนต์ใช้งานในองค์กรต่างๆ (Executive and Company Cars) โดยจะเริ่มให้บริการแก่บริษัทในเครือธนาคารกสิกรไทยก่อน อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการศึกษาที่จะปล่อยสินเชื่อสำหรับผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ โดยอาจจะร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยในการให้บริการสินเชื่อแก่ผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ทั่วประเทศ และปัจจุบันเป็นลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยอยู่แล้ว