Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน2 ตุลาคม 2549
LHBankโหมเจาะลูกค้านอกเครือแลนด์ฯส่งทีมขายรุกจัดสรรกลาง-ล่างดบ.ต่ำ             
 


   
www resources

โฮมเพจ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ - แลนด์แอนด์เฮ้าส์

   
search resources

แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, บมจ.
Real Estate




แบงก์แลนด์ฯขยับรุกเจาะลูกค้าโครงการจัดสรรนอกกลุ่ม ส่งฝ่ายขายรุกหนักจัดสรรขนาดกลางและล่าง ชูจุดขายอนุมัติเงินกู้สูง อัตราดอกเบี้ยจูงใจ ด้านแบงก์ไทยพาณิชย์ยอมรับพอร์ตสินเชื่อจากลุ่มแลนด์ฯหายวูบเกือบ 30,000 ล้านบาท จับตาแบงก์แลนด์ฯเพิ่มเงินกองทุนฯรับการแข่งขันทางด้านสินเชื่อ

แหล่งข่าวในวงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย (LH Bank) ซึ่งเป็นฐานธุรกิจทางด้านการเงินของกลุ่มแลนด์ฯ ได้เปิดให้บริการสินเชื่อรายย่อยแก่ผู้ขอสินเชื่อบ้านเมื่อวันที่19 ธันวาคม 2548 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนั้น ค่อนข้างมีผลต่อตลาดการปล่อยสินเชื่อเคหะของธนาคารพาณิชย์ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าส่วนหนึ่งโดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าของบริษัทแลนด์ฯและรวมถึงบริษัทในเครือแลนด์ฯอาทิ บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ AP และบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ต้องหันไปขอสินเชื่อเคหะจากแบงก์แลนด์ เนื่องจากมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า และมีระยะเวลาในการผ่อนส่งที่ยาว40ปี โดยสามารถโอนกรรมสิทธิ์ในการผ่อนชำระให้กับบุตรได้ รวมถึงให้วงเงินกู้ที่สูงกว่าจะราคาประเมินที่ธนาคารนำเสนอให้

โดยปริมาณสินเชื่อที่หายไปจากโครงการในกลุ่มแลนด์ฯประมาณ 200,000 -30,000 ล้านบาทต่อปี ล่าสุดหลังจากที่ปล่อยกู้ให้กลุ่มแลนด์ฯได้ระยะหนึ่ง แบงก์แลนด์ฯได้ขยายกลุ่มลูกค้าโดยเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ได้เริ่มปล่อยกู้ให้แก่ผู้ประกอบการนอกเครือกลุ่มแลนด์แอนด์เฮ้าส์ฯ เพื่อเป็นการแสวงหาโอกาสให้แก่โครงการอื่นๆ ซึ่งคาดว่าสิ้นต.ค.ยอดการปล่อยสินเชื่อจะอยู่ที่ 500 ล้านบาท โดยกลยุทธ์ที่แบงก์แลนด์ฯนำเข้ามาใช้คือ เรื่องค่างวดในการผ่อนชำระมาเป็นเกณฑ์ในการทำตลาด และเน้นกลุ่มลูกค้าที่ซื้อบ้านและขอสินเชื่อตั้งแต่ 3-5 ล้านบาท ในกลุ่มโครงการขนาดเล็ก ซึ่งกลุ่มลูกค้าเหล่านี้เป็นกลุ่มที่ไม่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยมากนัก

" ช่วงที่ผ่านมา โครงการอสังหาฯในเครือกลุ่มแลนด์ ได้มีการปรับกลยุทธ์ทางด้านการพัฒนาโครงการ อย่างเช่น บริษัทควอลิเตี้ เฮ้าส์ฯที่เปิดแบรนด์บริษัทอสังหาฯใหม่ภายใต้ชื่อบริษัท คาซ่า วิลล์ จำกัด มุ่งทำตลาดบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ระดับราคา 3-5 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่บริษัทป้อนให้แก่ธนาคารแลนด์ฯ เนื่องจากทางธนาคารมีการเสนอเงื่อนไขทางด้านอัตราดอกเบี้ยที่จูงใจ"แหล่งกล่าว

สำหรับอัตราดอกเบี้ยที่เสนอให้แก่ลูกค้าของธนาคารแลนด์ฯ คือ ดอกเบี้ยพิเศษปีที่ 1 MLR ลบ 1.50% ต่อปี ปีที่ 2 MLR ลบ0.75% ต่อปี และปีที่ 3 MLRลบ 0.50% ตลอดอายุสัญญา ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยMLR อยู่ที่ 7.75 % ขณะที่ธนาคารยังอนุมัติเงินกู้เต็มวงเงิน 100% ระยะเวลาชำระเงินกู้ได้มีการยืดหยุ่นมาเป็น 40 ปี ไม่มีการคิดค่าปรับในกรณีที่ลูกค้าชำระเงินกู้เต็มก่อนกำหนด ยกเว้นกรณีการปรับโครงสร้างเงินกู้(รีไฟแนนซ์)ปิดบัญชี ภายใน 5 ปีแรก จะถูกคิดอัตรา 2.0% ของวงเงินกู้ตามสัญญา โดยเฉลี่ยแล้วลูกค้าจะมีการผ่อนกับธนาคารประมาณ 20,000 บาทต่อเดือน ซึ่งลูกค้าที่ซื้อโครงการส่วนใหญ่จะมีรายได้ต่อครอบครัวเกิน 80,000 บาท อนึ่ง ธนาคารพาณิชย์จะมีการคิดค่าธรรมเนียมชำระคืนเงินกู้ก่อนกำหนดภายใน 3 ปี ซึ่งแต่ละธนาคารจะมีอัตราที่ต่างกัน

อย่างไรก็ตามแบงก์แลนด์มีแผนเรียกชำระทุนเพิ่มอีก 700 ล้านบาทในต้นปีหน้า ซึ่งจะทำให้ธนาคารมีทุนที่เรียกชำระเต็ม 2,600 ล้านบาท มีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง(บีไอเอส) อยู่ที่ 2,300 ล้านบาท จากปัจจุบัน 1,600 ล้านบาท โดยในส่วนของยอดสินเชื่อ ณ ปัจจุบันสามารถปล่อยกู้ได้แล้ว 10,500 ล้านบาท เป็นสินเชื่อเคหะ 7,500 ล้านบาท ที่เหลือเป็นสินเชื่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ซึ่งในสิ้นปีคาดว่ายอดสินเชื่อคงค้างจะอยู่ที่ 16,000 ล้านบาท เป็นสินเชื่อเคหะ 11,000 ล้านบาท สินเชื่อเอสเอ็มอี 5,000 ล้านบาท หรือ สินเชื่อเคหะ 70% สินเชื่อเอสเอ็มอี 30% จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ในอัตรา60 ต่อ 40

" การขยายกลุ่มลูกค้าเพิ่มในส่วนของลูกค้ารายย่อยของ Bank Land ในช่วงที่ผ่านมานั้น คาดว่าจะเป็นการพยายยามขยายพอร์ตให้ใหญ่ขึ้น และเพื่อให้สามารถดำเนินการในเชิงธนาคารพาณิชย์ได้เต็มรูปแบบ ซึ่งเท่าที่ผ่านมาเราเริ่มเห็นฝ่ายขายสินเชื่อของแบงก์แลนด์ ออกเสนอขายสินเชื่อในโครงการขนาดกลางและเล็กบ้างแล้ว ซึ่งนั้นหมายความว่าธนาคารเริ่มดำเนินการขยายกลุ่มลูกค้าเพื่อให้สามารถขยายการดำเนินการในเชิงธนาคารพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ" แหล่งข่าวกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาแบงก์แลนด์ฯยังคงเน้นปล่อยกู้สินเชื่อให้แก่โครงการในเครือกลุ่มแลนด์ฯเป็นหลัก สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารยังไม่เพียงพอ ซึ่งหากธนาคาร ต้องการดำเนินการให้เต็มรูปแบบธนาคารพาณิชย์ ต้องมีการขยายเงินกองทุนฯให้สูงขึ้น ซึ่งคาดว่าการเพิ่มทุนในส่วนนี้ จะต้องมีการหาผู้ร่วมทุนใหม่เข้ามาเสริม หรือ มีการเพิ่มทุนจากทางใดทางหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าความจำเป็นในการเพิ่มทุนนั้นต้องมีการดำเนินการอย่างแน่นอน เพื่อรองรับการแข่งขันในตลาดสินเชื่อ ทั้งนี้ กลุ่มทุนจากสิงคโปร์ถือเป็นพันธมิตรที่เหนี่ยวแน่นกับบริษัทแลนด์ฯมานาน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us