หากพูดถึงการเปลี่ยนแปลงของไอทีวีแล้ว สรรค์ชัย เตียวประเสริฐกุล นับว่าเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญคนหนึ่ง
ในการบุกเบิกธุรกิจสถานีโทรทัศน์ให้กับกลุ่มชินคอร์ป
ถึงแม้จะมีพื้นฐานการศึกษาในสายวิทยาศาสตร์ ตั้งแต่ระดับปริญญาตรี จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปริญญาโท คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบัน AIT ความคิดเขาจึงเป็นระบบ และดูจริงจัง
แต่สรรค์ชัยกลับใช้ชีวิตการทำงานสายงานด้านการตลาดเป็นส่วนใหญ่ ตำแหน่งสุดท้ายก่อนร่วมงานกับกลุ่มชินคอร์ป
คือ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทแพน คอสเมติก
สรรค์ชัยร่วมงานกับกลุ่มชินคอร์ปอเรชั่น ตั้งแต่ปี 2538 เริ่มต้นจากไอบีซี
เคเบิลทีวีเป็นแห่งแรก ทำได้ปีเดียวย้ายมาดูชินวัตรไดเรคเทอรีส์ จากนั้นย้ายไปเป็นรองกรรมการผู้อำนวยการ
ดูแลงานด้านการตลาดให้กับเอไอเอส และอยู่ที่นั่นถึง 4 ปีเต็ม ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่สำคัญสำหรับเขาในช่วงนั้น
เอไอเอสในช่วงนั้น แม้จะยังไม่อยู่ในภาวะแข่งขันเหมือนปัจจุบัน แต่เป็นช่วงที่ต้องคิดหาการตลาดรูปแบบใหม่ๆ
มากขึ้น มีพรีเซ็นเตอร์มาเป็นตัวแทนของการสื่อตัวสินค้า อย่างนิโคล เทริโอ
รวมทั้งการปั้นโน้ตและตูนขึ้นมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เป็นผลงานของเขาล่าสุดก่อน
ย้ายมาอยู่ไอทีวี ในปี 2544
ไอทีวีในยุคนั้น ก็มีปัญหาเรื่องของ identity ค่อนข้างมาก เนื่องจากต้องเผชิญปัญหา
2 เรื่องหลักๆ คือ การต่อต้านจากฝ่ายข่าวบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย กับนโยบาย
และการมาของกลุ่มชินคอร์ป ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของไอทีวีโดยตรง และมีปัญหาในเรื่องการขาดทุนสะสมติดต่อกันมาหลายปี
หลังจากแก้ปัญหาจนเหตุการณ์คลี่คลายลง ด้วยการบอกเลิกจ้างผู้สื่อข่าว 20
กว่าคนที่ออกมาต่อต้าน สรรค์ชัยก็หันมาบุกเบิกรายการบันเทิงให้กับไอทีวีมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม สรรค์ชัยได้สร้างความชัดเจนทั้งในด้านการบริหารจัดการ และการสร้างรายได้มากขึ้น
เฉพาะอย่างยิ่งในช่วงท้ายของการบริหารงาน สรรค์ชัยหันมาให้ความสำคัญกับข่าวมากขึ้น
จากการเพิ่มรายการข่าวเชิงสารคดี เช่น รัฐบาลหุ่น ทำผิดอย่าเผลอ รวมทั้งการลงทุนระบบไอทีสำหรับใช้กับงานข่าว
100 ล้านบาท บุกเบิกนำเฮลิคอปเตอร์มาใช้ในงานข่าว เกิดขึ้นในช่วงของสรรค์ชัย
"ชัดเจนเลยว่า ไอทีวีเราให้ความสำคัญกับข่าวมากที่สุด เรามีเนื้อที่ และเวลาของการนำเสนอข่าวมากที่สุด
เราเดินมาทางนี้ตั้งแต่ต้น ถ้าเราหลุดจากทางนี้แล้วจะไม่เหลืออะไร ดังนั้นถ้าช่องอื่นประกาศตัวมาเป็นช่องข่าว
ก็ต้องชนกับเราอย่างเดียว" สรรค์ชัยกล่าว
ด้วยสไตล์การตลาดในเชิงรุก คิดเร็ว ทำเร็ว พูดจา เปิดเผยของสรรค์ชัย ทำให้เขาตอบโต้การมาของโมเดิร์นไนน์ทีวี
อย่างทันทีทันควัน ทั้งจากสกู๊ปข่าวบั้งไฟพญานาค และการเปิดแถลงข่าวถึงการกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจนของการเป็นสถานีข่าว
(อ่านนิตยสาร "ผู้จัดการ" เดือนธันวาคม 2545)
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างใหม่ของไอทีวีในครั้งนี้ แม้ว่าสรรค์ชัยย้ายจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ
ขึ้นเป็นรองประธานกรรมการบริหาร ที่ต้องขึ้นไปดูแลงานด้านนโยบายแล้วก็ตาม
แต่ยังเป็น executive board ที่ยังคงมาทำงานทุกวัน
"เปลี่ยนจากหน่วยรบ มาเป็นเสนาธิการ ลงไปในบทบาทของการคุมนโยบายมากกว่า"
สรรค์ชัยบอก
เมื่อถึงเวลาไอทีวีต้องย้ายไปอยู่ที่อาคารสำนักงานแห่งใหม่ บนตึกชิน 3
ห้องทำงานของเขาบนชั้นผู้บริหาร จึงเป็นห้องตรงกลาง ขนาบข้างด้วยห้องนิวัฒน์
บุญทรง ประธานกรรมการบริหาร ไอทีวี และทรงศักดิ์ เปรมสุข กรรมการผู้จัดการ
ในลักษณะ 3 แรงแข็งขัน
แม้ว่าภารกิจหลักๆ ของสรรค์ชัยจะต้องดูแลงานด้านนโยบาย และมาดูแลเรื่องการจัดกิจกรรม
เช่น ประกวดนางสาวไทย การจัดงานปีใหม่ แต่ดูเหมือนว่า งานที่เขาสนใจเป็นพิเศษ
พอๆ กับเทคโนโลยี ก็คือ งานข่าว
"ข่าว สนใจมานานแล้ว แต่ไม่มีเวลา ตอนนี้มีเวลา ก็เข้าไประชุมข่าวเกือบทุกวัน"
สรรค์ชัยบอกถึงการทำงาน ที่ดูเหมือนว่า เขายังสนุกกับงานที่ทำอยู่ในเวลานี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข่าวอาชญากรรมที่เขาไปดึงเอาทีมงานเก่าๆ ของไอทีวีกลับมาช่วยในรายการ
ทำผิดอย่าเผลอ หรือรายการข่าวอิงบันเทิง
ในวันที่ "ผู้จัดการ" สนทนากับสรรค์ชัย เขานำเอาการ์ตูนแอนิเมชั่น ที่ผลิตขึ้นเองจาก
ทีมงานของไอทีวี ใช้เงินลงทุน 10 ล้านบาท กำลังจะลงจอในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้ามาให้ชม
ด้วยความภาคภูมิใจ