Editor-in-Chief คุณวิรัตน์ แสงทองคำ เขียนถึงเรื่อง "อยู่บ้านดีกว่า" เมื่อฉบับที่ผ่านมา ทำให้นึกถึงกระแสการปรับเปลี่ยนของสังคมที่ก้าวเดินไปอย่างรีบเร่ง

เพื่อนจาก Calgary ชื่อ Scott ถูกเจ้าของคอนโดที่เขาอาศัยอยู่ในห้องใต้ดิน (base-ment) ยื่นจดหมายแจ้งให้ย้ายออกภายในเดือน ตุลาคมนี้ หากเขาไม่สามารถขานรับกับค่าเช่าที่ขยับสูงขึ้นจากเดือนละ 800 เหรียญ เป็น 1,200 เหรียญ

อีกสัปดาห์มีนักศึกษาหลายคนถามหาห้องพัก เพราะใกล้ช่วงเปิดเทอมของที่นี่ หลายครอบครัวพยายามหาที่อยู่อาศัยใกล้สถานศึกษา ของบุตรหลานตนเอง บางคนขอให้บ้านใกล้ออฟฟิศ เพราะสะดวกในการคมนาคม

ที่อยู่อาศัยกำลังเป็นประเด็นอีกข้อหนึ่งที่เกิดจากผลของเศรษฐกิจของผู้คนที่นี่ ตลาดบ้านในซีกตะวันออกของแคนาดา เช่นที่ New Brunswick หรือ Nova Scotia ไม่ได้แรงจัดเท่าตลาดบ้านในซีกตะวันตก เช่น Vancouver Calgary และ Edmonton เพราะผลพวงของความรุ่งเรืองทางด้านพลังงาน เช่นเดียวกับเมือง Montreal และ Toronto ที่มีผู้คนโยกย้ายมาตั้งหลักแหล่งมากที่สุด

รายงานของคณะกรรมการบริหารอสังหาริมทรัพย์ของเมืองเอดมอนตัน ระบุว่า ราคาเฉลี่ยบ้านเมื่อต้นปีอยู่ที่ 256,159 เหรียญ ขยับสูงกว่าเมื่อปีที่ผ่านมา 18.5% หรือ 216,187 เหรียญ ราคาคอนโดสูงขึ้น 17% โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 156,988 เหรียญ ราคาบ้านในแวนคูเวอร์เฉลี่ยที่ 445,865 เหรียญ คาการี 363,370 เหรียญ

Canadian Real Estate Association หรือสมาคมอสังหาริมทรัพย์ของแคนาดาระบุในรายงานผลการดำเนินการว่า เมืองเอดมอนตันมียอดการขายสูง 22% เมืองคาการีราคาขยับสูงกว่าถึง 44% ขณะที่เมืองโตรอนโตมีอัตราที่ 2.4% โดยราคาบ้านเฉลี่ยสูงถึง 358,214 เหรียญ

เศรษฐกิจของแคนาดาขยับตัวสูงจน อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรากับดอลลาร์สหรัฐมีค่าใกล้เคียงกันแล้ว (US=0.90 CAD) หลายคนสู้ราคาบ้านช่วงนี้ไม่ไหว เพราะราคาการขายของอสังหาริมทรัพย์ของแคนาดาตอนนี้มีอัตราต่ำเพียง 2.4% ของเดือนที่ผ่านมา ซึ่งสวนทางกับภาวะการขาดแคลนแรงงานที่มีอัตราเฉลี่ยต่ำสุด ในรอบ 30 ปี ทำให้อัตราเฉลี่ยของราคาบ้านทั่วประเทศอยู่ที่ 300,000 เหรียญแคนาดา

นักเศรษฐศาสตร์ให้ความเห็นว่า ผู้บริโภคที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้มีความมั่นใจที่ต้องการที่อยู่อาศัยใหม่เป็นของตัวเองมากกว่าการเช่านั้น เพราะภาวะการจ้างงานที่สูงขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจที่ก้าวย่างอย่างไม่หยุดยั้ง

Ken Shearer เจ้าของกิจการและโบรกเกอร์ LePage Norvalta Real Estate ในเอด มอนตัน บอกว่า มันเป็นผลพวงจากเศรษฐกิจของ จังหวัดนี้ที่ทำให้ผู้คนโยกย้ายมาที่แอลเบอร์ตาร์ ทำให้ความต้องการบ้านพักสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว

Shearer ยอมรับว่า ตลอดเวลาในการบริหารกิจการนี้นานกว่า 36 ปี เขาไม่เคยเห็นตลาดบ้านร้อนแรงเท่านี้ โดยเฉลี่ยเพียง 19 วันบ้านสามารถขายได้ในพริบตา จากผลเฉลี่ยการขายบ้านเมื่อปี 2005 อยู่ที่ 22.3 วันต่อหลัง

โบรกเกอร์จาก The Re/Max real estate เช่น Gary Kruetzfeldt เห็นว่า ตลาดบ้านตอนนี้ เป็นช่วงดีมานด์มากกว่าซัปพลาย ทำให้เขาหาบ้านตามความต้องการของลูกค้าไม่ได้ เรียกได้ว่าลูกค้าไม่มีทางเลือกมากนัก เพราะถ้าช้า ผู้ซื้อ รายอื่นสามารถได้บ้านที่คุณเลือกไว้ไปได้ทุกเมื่อ บางคราลูกค้าไม่มีเงื่อนไขในการตรวจสอบบ้าน อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

เงื่อนไขของระเบียบในการซื้อขายอสังหา ริมทรัพย์ของแคนาดาส่วนใหญ่ ผู้ซื้อมักยื่นเงื่อนไขให้มีการตรวจสอบอสังหาริมทรัพย์ก่อนการเซ็นสัญญาซื้อขายที่เรียกว่า "Official home inspection" ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมา ภายหลัง เช่น การขอสินเชื่อจากแหล่งเงินกู้การฉ้อโกงสัญญาการซื้อขาย ความมั่นคงของ โครงสร้างบ้าน ระบบไฟฟ้า น้ำประปา

โบรกเกอร์ขายบ้านที่มีคุณภาพส่วนใหญ่ มักแนะนำให้ลูกค้าของตนเองพิจารณาอย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านหลังหนึ่ง เพราะ ยิ่งตลาดบ้านแรงมากเท่าใด ก็ยิ่งเป็นโอกาสที่อาจได้บ้านที่ไม่พึงประสงค์มากเท่านั้น

เช่นเดียวกับ Kevin Hnatiuk จาก Calgary ที่บอกถึงคุณภาพของบ้านที่เขาคิดจะซื้อก่อนหน้านี้หากมองเพียงผิวเผินแล้วจะเห็นว่า ตกแต่งสวยงาม แต่ถ้าใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบ เขาเห็นว่า โครงสร้างบ้านไม่มีคุณภาพ ไม้จากผนังมีกลิ่นไม่พึงประสงค์

การตัดสินใจซื้อบ้านในแอลเบอร์ตาร์ โดยเฉพาะในเมืองคาการี และเอดมอนตัน จึงกลายเป็นเรื่องไม่ง่ายอย่างที่คิด แม้ว่าจะมีเงินถุง อยู่ในกระเป๋าก็ตาม

ธุรกิจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อันเกิดจากการขยายตัวของอสังหาริมทรัพย์ นั่นคืออุปกรณ์การ ก่อสร้าง การตกแต่ง ซ่อมแซมอสังหาริมทรัพย์ ทำให้บริษัท Rona Inc., มีตัวเลขยอดการขายในเดือนมิถุนายนสูงถึง 12.1% หรือประมาณ 1.35 พันล้านเหรียญ

บ้านส่วนใหญ่ในแคนาดามีอายุมากกว่า 20 ปี ถือเป็นโอกาสอันดีที่ทำให้ธุรกิจการต่อเติมซ่อมแซมบ้านโตตามตลาดบ้านไปด้วย

ช่วงต้นปีนี้ Rona Inc. ซื้อกิจการ Chester Dawe Ltd., บริษัทที่มีธุรกิจการตกแต่ง ซ่อมแซมบ้านใน Newfoundland ที่มียอดการขาย 80 ล้านเหรียญ เมื่อปี 2005 ถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ เมื่อเทียบกับบริษัทคู่แข่งอย่าง Curtis Lumber จาก British Columbia ที่มียอดขาย 80 ล้านเหรียญ หรือ Materiaux Coupal Inc., จาก Quebec ที่มีตัวเลขการขายถึง 125 ล้านเหรียญ

Claude Guevin ผู้บริหารทางการเงินของ Rona Inc., กำลังมองหาลู่ทางในการขยาย ตลาดของบริษัท โดยมีเป้าหมายแผนการกระจายยอดขายอยู่ที่ 20-150 ล้านเหรียญ

แม้ Rona Inc., เล็งเห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา น่าจะมีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคตก็ตาม หากแต่ช่วง เวลาของเศรษฐกิจพลังงานของแคนาดาที่ร้อนแรงตอนนี้ ถือเป็นสิ่งที่บริษัทไม่ควร มองข้าม ทำให้ CEO อย่าง Robert Dutton ผู้บริหาร Rona Inc., เบนความสนใจในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทมาที่ตลาดบ้านเพื่อชาวแคนาดามากกว่าเพื่อน บ้านชาวอเมริกัน

ขณะนี้ Rona Inc., มีฐานบริษัทแม่ ที่ Quebec มีการขยายแฟรนไชส์มากกว่า 600 ร้าน ครอบคลุมประเทศแคนาดา ซึ่งถือว่ามีความ หลากหลายในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าทางด้านการตกแต่ง ซ่อมแซม บ้านพักอาศัย โดยมีลูกจ้าง 24,000 คน มียอดการขายมากกว่า 5.2 พันล้านเหรียญ และมีแผนการขยายตลาดสูงถึง 7 พันล้านเหรียญ ในปี 2007

Flip the house เป็นอีกคำหนึ่งที่นิยมใช้กันในยามนี้ เพราะเป็นธุรกิจการหวังผลกำไร จากการซื้อบ้านมาขายไป ในเวลาช่วงเดียวกัน คล้ายกับบ้านเรา "ซื้อมาขายไป" เพื่อผลกำไร ไม่ใช่เพื่ออยู่อาศัย เห็นได้ชัดจากเพื่อนบ้านใกล้เคียงกัน บอกว่าได้กำไรจากวิธีการนี้เกือบเท่าตัว

ชาวแคนาดาจำนวนไม่น้อยไม่อยากเสียค่าธรรมเนียม หรือค่านายหน้าผ่านโบรกเกอร์ ส่วนใหญ่จะประกาศแจ้งความต้องการซื้อ-ขายบ้านผ่านเว็บไซต์ที่ www.comfree.com หรือตามหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในชุมชนตนเอง บางคน ใช้วิธีง่ายๆ เหมือนบ้านเราด้วยการติดป้ายประกาศตามมุมถนนก็มี

เห็นด้วยกับคุณวิรัตน์ว่า "บ้าน" ไม่ใช่ เป็นเพียงที่พักอาศัยเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงกระแสความผันผวนของผู้คนในสังคมยุคนี้ด้วย