Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ตุลาคม 2549








 
นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2549
ตัวเลือกใหม่ของ AJF             
โดย สุจินดา มหสุภาชัย
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อยุธยาเจเอฟ จำกัด - เอเจเอฟ

   
search resources

อยุธยาเจเอฟ, บลจ.
Funds
ณสุ จันทร์สม
ประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์




หากถามประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการลงทุนของเอเจเอฟ ถึงคุณลักษณะบริษัทที่พวกเขาชื่นชอบและอยากใช้เป็นหนึ่งในตัวเลือกในพอร์ตการลงทุนแล้ว คำตอบที่ได้อาจไม่แตกต่างกันคือ พวกเขาชอบลงทุนในบริษัทที่อาจดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ธุรกิจนั้นสามารถ keep doing well ได้ทุกปี เช่น กลุ่มค้าปลีก โรงพยาบาล และกลุ่มที่มีการปรับโครงสร้างในเชิงอุตสาหกรรมอย่างชัดเจนแล้ว

"เราอยากลงทุนในหุ้นบริษัทที่วิเคราะห์แล้วเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน มีการเติบโตที่ค่อนข้างมองเห็นได้ชัด ไม่แกว่งมาก คือเติบโตได้ 10 หรือ 20% ทุกปีสม่ำเสมอ นิ่งๆ ซึ่งบริษัทแบบนี้คนส่วนใหญ่มักจะมองว่ามันน่าเบื่อ แต่พวกเราชอบ" ประธานเจ้าหน้าที่สายการลงทุนกล่าว

แต่หากถามณสุ จันทร์สม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายกองทุนตราสารทุน ถึงตัวหุ้นที่เขาได้เลือกแล้ว ก็จะได้คำตอบแบบไม่ต้องคิดนานว่าต้องเป็นหุ้นอย่างห้างบิ๊กซี โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ และฮานา ไมโครอิเล็คทรอนิคส์ เป็นต้น

"ผมไม่รู้นะว่าโรงพยาบาลมันโตไม่โต แต่เห็นค่ารักษาก็ขึ้นกันทุกปี และคนไข้ก็ยังเดินชนกันอยู่เยอะแยะ ส่วนฮานาฯ ที่เลือกเพราะผมเห็นว่าตอนนี้ไม่มีหนี้สินระยะยาว และใช้รายได้ของเขาล้วนๆ มาทำธุรกิจ margin อาจจะลดลงบ้าง แต่ตลาดของเขาตอนนี้ก็ขยายตัวแล้ว" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายกองทุนตราสารทุนกล่าว

อย่างไรก็ตาม 2 ผู้บริหารเอเจเอฟยังได้ให้ภาพโดยรวมในการลงทุนของพวกเขาเวลานี้ว่าที่ผ่านมาเอเจเอฟจะลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับรายอื่นๆ แต่ขณะเดียวกันพวกเขาได้ให้ความสำคัญกับการเลือกตัวบริษัทมากกว่า

ส่วนความโดดเด่นของธุรกิจพลังงานเกิดขึ้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องบังเอิญจากที่ได้ปัจจัยราคาน้ำมันในตลาดโลกมาเป็นตัวช่วย แต่ในระยะยาวแล้วยังถือเป็นความเสี่ยงอีกประการ และตามความเห็นของณสุนั้นก็มองว่า หุ้นน้ำมันยังคงเป็นหุ้นที่ลงทุนต่อได้ในช่วง 1 ปีครึ่งนี้

แต่หุ้นพลังงานที่เอเจเอฟให้ความสนใจอย่างมากในเวลานี้ อยู่ที่หุ้นบ้านปู ซึ่งกระจายฐานการทำธุรกิจเหมืองถ่านหินและโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งในและนอกประเทศ โดยณสุบอกว่าในปีนี้พวกเขาเห็นถึงแนวโน้มที่ดีของความสามารถในการสร้างรายได้ของบ้านปูที่ดีขึ้นกว่าช่วง 2 ปีก่อนหน้า จากที่โรงไฟฟ้าถ่านหิน BLCP เฟสแรกในประเทศ ซึ่งมีกำลังการผลิต 700 เมกะวัตต์นั้น กำลังจะเปิดเดินเครื่องในเดือนนี้ ทั้งยังมี BLCP เฟส 2 ซึ่งมีกำลังการผลิตอีก 700 เมกะวัตต์ จะเปิดตัวตามมาในต้นปี 2550

ทั้งนี้ บ้านปูเคยคาดหมายว่า 1 ใน 3 ของกำไรจากธุรกิจในประเทศจะมาจากโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้ง 2 แห่งนี้

เช่นเดียวกับความน่าสนใจในหุ้นบริษัท MBK เจ้าของห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง ซึ่งเป็นตัวเลือกอีกตัวของประภาส เพราะเขาเห็นว่า ผู้บริหารของ MBK พยายามสร้างมูลค่าทางธุรกิจของพวกเขาอย่างเงียบๆ โดยไม่ต้อง make story เพื่อป่าวประกาศว่า MBK ไม่เพียงแต่จะเป็นเจ้าของอาคารสยามเซ็นเตอร์ผ่านการถือหุ้น 100% ในบริษัทสยามพิวรรธน์ ซึ่งปัจจุบันป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดกว่า 30% ในสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ และอีก 50% ในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน

และยังเป็นเจ้าของในกิจการอันหลากหลายมากกว่าห้างสรรพสินค้า อย่างโรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส โรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส ระนอง โรงแรมเชอราตัน กระบี่ บีช รีสอร์ท ปทุมไรท์มิลท์แอนด์แกรนารี่ บริษัทแปลน เอส เตท จำกัด (PST) สนามกอล์ฟล็อคปาล์ม กอล์ฟ คลับ ธารธารา เฮลท์ สปา และบริษัทเอ็ม บี เค เลเชอร์ ล้วนแต่เป็นธุรกิจที่ MBK เป็นเจ้าของ

"ก็ดูสิว่า asset ตรงสยามสแควร์มันเป็นยังไง ค่าเช่าเขาก็ lock ยาว 30 ปี อย่างสยามพารากอนเขาลงทุนแค่ 100 ล้านบาท ได้เงินค่าเช่าก็มาจ่ายค่าก่อสร้าง อย่างนี้ enjoy ปีเดียวเขาก็ได้กำไร 100 ล้านแล้วนะ เราไปทำการบ้านเชิงลึกมาถึงรู้ว่าเขามีวิสัยทัศน์ ซึ่งก็โอเค เราอยากลงทุน MBK ประกาศ earning โต 20% เราก็ไปแกะไส้ในออกมาโชว์ให้เห็นของจริง แต่ทางเขาก็ยังโชว์ไม่หมดพยายามจะเก็บๆ ไม่อยากโชว์กำไรเยอะ คือเขาไม่พยายามสร้าง story แต่สิ่งที่เขาพยายามสร้าง คือสร้างธุรกิจ สร้างมูลค่าในระยะยาว" ประธานเจ้าหน้าที่ สายการลงทุนเอเจเอฟ เล่า

กลุ่มบริษัทที่มีการปรับตัวในเชิงโครงสร้างอุตสาหกรรมอย่างชัดเจนในปัจจุบัน ก็ถือเป็นอีกกลุ่มที่มีคุณสมบัติตรงกับความต้องการที่จะเข้าลงทุนของเอเจเอฟ โดยกิจการที่ประภาสพอจะยกให้เห็นเป็นตัวอย่างได้ในกรณีนี้คือโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ซึ่งมีลูกค้าในโครงการประกันสังคม และโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรคเป็นฐานใหญ่

แม้อดีตอาจจะเคยมีปัญหาต้นทุนที่เกิดมาจากนโยบายการกำหนดราคาค่ารักษาพยาบาลของรัฐบาลเช่นเดียวกับโรงพยาบาล แห่งอื่นๆ ในโครงการเดียวกัน แต่ยังมีความสามารถในการบริหารต้นทุนที่พอให้ได้เห็นกำไรอยู่บ้าง จนเมื่อรัฐบาลเข้ามาปรับราคาขึ้นใหม่ในโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคแล้ว กำไรของเกษมราษฎร์ที่เคยมีอยู่ไม่มากนักก็เริ่มปรับตัวมากขึ้น แถมยังมีแนวโน้มว่าน่าที่จะขยายตัวต่อไปได้อีก เมื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในนโยบายขยายเพิ่มสิทธิขอเบิกค่ารักษาพยาบาลได้จนเต็มวงเงินในบางรายการสำหรับผู้ถือบัตรประกันสังคม เช่นกรณีการคลอดบุตร เป็นต้น

ส่วนธุรกิจเหมืองแร่ ซึ่งมีบริษัทผาแดง อินดัสทรี เป็นเพียงธุรกิจเดียวในหมวดนี้ และธุรกิจกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำตาลนั้น ดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้าข่ายตัวเลือกในพอร์ตลงทุนของเอเจเอฟเท่าที่ควร จากภาพที่ประภาสบอกว่าแม้บริษัทผาแดงฯ จะมีการปรับตัวในเชิงโครงสร้างค่อนข้างมากจากความต้องการพลังงานทดแทนในประเทศก็ตาม แต่หากเทียบกับอุตสาหกรรมน้ำตาลซึ่งมีการปรับตัวทางโครงสร้างอย่างเห็นชัดตามความต้องการใช้เอทานอลในปัจจุบันนี้นั้น การปรับตัวของผาแดงฯ ยังอาจมียังไม่มากเท่า แต่กระนั้นก็ตาม ประธานเจ้าหน้าที่สายการลงทุนแห่งเอเจเอฟบอกว่า พวกเขายังคงไม่กล้าเสี่ยงลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำตาล เนื่องจากเป็นหนึ่งในสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีความอ่อนไหวทางด้านราคาเป็นอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีหุ้นตัวเลือกบางตัวที่กำลังอยู่ในช่วงการวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติมของเอเจเอฟ เช่นหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อย่างบริษัทเอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดิเวลลอปเมนท์ ซึ่งณสุได้เข้าพบปะผู้บริหารเพื่อทำการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับตัวบริษัทแล้ว ส่วนบริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท ซึ่งเป็นอีกกิจการที่ณสุอ้างถึงนั้น เอเจเอฟยังไม่ได้เริ่มเข้าเก็บข้อมูลจากผู้บริหารในบริษัทแห่งนี้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us