Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ตุลาคม 2549








 
นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2549
ธุรกิจใหม่ของทุนเก่า             
 


   
search resources

สันติ ภิรมย์ภักดี
Restaurant
Franchises
ยามาโกย่า (ไทยแลนด์), บจก.




เย็นวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา นาตาลี เกลโบวา อดีตนางงามจักรวาล ปี 2005 ต้องทำหน้าที่ในการโปรโมตสินค้าอีกครั้งหนึ่ง เพียงแต่สินค้าที่เธอมาช่วยในวันนี้ไม่ใช่เบียร์สิงห์ตามบทบาทของ Brand Ambassador ที่เธอทำอยู่ แต่เป็นร้านราเมงจากญี่ปุ่น ธุรกิจใหม่ล่าสุดของสันติ ภิรมย์ภักดี นายใหญ่ของบุญรอดบริวเวอรี่ เจ้าของเบียร์สิงห์

ยามาโกย่า ราเมง เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เกิดจากการร่วมทุน 3 ฝ่าย ได้แก่ บริษัทกัสตรอนอมเม่อ ที่เป็นบริษัทในกลุ่มพาราวินเซอร์ (ในเครือตระกูลเอื้อวัฒนสกุล (อื้อจือเหลียง)) สันติ ภิรมย์ภักดี และ บริษัทวาย เอส ฟู๊ด เจ้าของร้านยามาโกย่า ราเมง จากประเทศญี่ปุ่น ที่เปิดดำเนินการมาแล้วเกือบ 40 ปี มีสาขาอยู่ทั้งสิ้น 280 สาขา โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นฝ่ายไทย 51% และญี่ปุ่นอีก 49%

ถึงแม้ว่าขณะนี้ยามาโกย่า ราเมง ในประเทศไทยจะเพิ่งเปิดสาขาแรกที่ซอยทองหล่อ แต่ผู้ร่วมทุนทั้ง 3 ฝ่าย ตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนสาขาให้ได้ถึง 100 แห่งภายใน 5 ปี ทั้งในรูปแบบของร้านสาขาและแฟรนไชส์ โดยเตรียมจะเปิดอีก 2 สาขา ที่สยามสแควร์และถนนสุรวงศ์ หลังจากนั้นจะกระจายออกสู่หัวเมืองใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา เพื่อสร้างความรับรู้ในกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้นซึ่งจะช่วยเอื้อต่อแผนการขายแฟรนไชส์ที่วางไว้

สาเหตุหนึ่งที่ยามาโกย่า ราเมง เลือกมาเปิดร้านในประเทศไทยในครั้งนี้ เนื่องจากชาวญี่ปุ่นที่มาทำงานและพักอาศัยอยู่ในประเทศไทยมีจำนวน ถึงกว่า 60,000 คน นับเป็นสมาคมชาวญี่ปุ่นในต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด การมาเปิดร้านในไทยจึงมุ่งหวังมาที่ลูกค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ เพราะแม้แต่ทำเลที่ตั้งของร้านแห่งแรกยังเลือกอยู่ในย่านทองหล่อซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยและแหล่งชอปปิ้งของชาวญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ

ขณะเดียวกันยังหวังจะขยายกลุ่มลูกค้าไปสู่ผู้บริโภคชาวไทยอีกด้วย เนื่องจากตลาดอาหารญี่ปุ่นในไทยยังได้รับความนิยมและมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ยามาโกย่า ประเทศไทย ได้รับบทบาทสำคัญให้เป็นศูนย์กลาง การขยายแฟรนไชส์ออกไปในประเทศต่างๆ ทั่วเอเชียและออสเตรเลีย ยกเว้นเพียงมาเลเซีย ซึ่งมีสาขาของยามาโกย่าอยู่ก่อนแล้ว นอกจากนี้ ยังวางเป้าหมายที่จะใช้เป็นฐานการผลิตเส้นราเมงเพื่อส่งกลับไปที่ญี่ปุ่นด้วย โดยขณะนี้มีโรงงานผลิตเส้นราเมงแห่งแรกแล้วที่บริเวณถนนสุรวงศ์

"ตลาดต่างประเทศตอนนี้ที่ดูไว้คือสิงคโปร์ภายในปีหน้า เพราะตอนนี้มีติดต่อเข้ามาแล้ว ส่วนที่ฮ่องกงก็มีโพเทนเชียลที่ดี" วิรวัฒน์ ทังสุบุตร กรรมการผู้จัดการ ยามาโกย่า (ไทยแลนด์) กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us