"จะว่าเราไม่โดนเลยก็ไม่ใช่ ขนาดโดนน้อยกว่ากลุ่มอื่น แต่ทำเอาผมอ่วมไปเหมือนกัน
ตอนนั้นลูกสองคนเรียนอยู่ที่อังกฤษ คนหนึ่งโทรมาบอกว่า คุณพ่อไม่ต้องกลัวเสียหน้านะ
ถ้าไม่ไหวผมกลับเมืองไทยได้ บ้านที่ซื้อไว้ที่อังกฤษเตรียมเอาออกมาขายเอาเงินให้ลูกเรียน
โชคดีไม่ต้องทำถึงขนาดนั้น"
สงกรานต์ อิสสระ เล่าย้อนเหตุการณ์ในช่วงนั้นให้ "ผู้จัดการ" ฟัง ด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม
มรสุมครั้งนั้นผ่านพ้นไปแล้ว แต่งานหนักครั้งใหญ่กำลังรอเขาอยู่เบื้องหน้า
หากจัดวาง ชาญ อิสสระ, เพียงใจ หาญพาณิชย์ เกียรติ วัธนเวคิน, สุนทร เปรมฤทัย,
วิเชียร กลิ่นสุคนธ์ เป็นนักพัฒนาที่ดินรุ่นที่ 1 สงกรานต์ อิสสระ, อนันต์
อัศวโภคิน, พงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์, ธีพจน์ จรญศรี, สุเทพ บูลกุล ก็น่าจะเป็นรุ่นที่
2 โดยมีกลุ่มแสนสิริ โนเบิลโฮม เป็นกลุ่มที่ 3 ไล่ตามมา
สงกรานต์เป็นบุตรชายคนที่ 3 ของ ชาญ อิสสระ เกิดที่จังหวัดสงขลา ปัจจุบันอายุ
49 ปี เป็นเด็กต่างจังหวัดอีกคนที่เข้ามาเรียนโรงเรียนประจำ วชิราวุธวิทยาลัย
จนจบมัธยมศึกษาตอนต้น และปี 2521 M.A. (Economic) จาก Indiana University
Bloomington เริ่มทำงานครั้งแรกที่บริษัท SGV ณ ถลาง และบริษัท Citicorp
Finance & Security Thailand
สงกรานต์ อิสสระ มีภรรยาคือ ศรีวรา (สวัสดิ์ ชูโต) และมีลูกชื่อเป็นปลาที่น่ารัก
3 คนคือ วรสิทธิ "ปลาวาฬ" ดิฐวัฒน์ "ปลาทู" และน้องสาวคนสุดท้อง คือ กรัชเพชรหรือ
"ปลาเข็ม"
ชาญผู้เป็นพ่อ ซึ่งวันนี้มีอายุถึง 87 ปีเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างทางที่มีทิศทางเดินเหมือนกับผู้มีอาชีพนี้คนอื่นๆ
คือ ในขณะที่รับสร้างทางก็ซื้อที่ดินไปด้วย มีจังหวะก็เริ่มพัฒนาเป็นตึกแถว
ทาวน์เฮาส์ และบ้านจัดสรร สงกรานต์เป็นลูกชายคนหนึ่งที่ได้เข้ามาเรียนรู้งานทางด้านพัฒนา
ที่ดินจากผู้เป็นพ่อ เริ่มตั้งกลยุทธ์ทางด้านรวบรวมที่ดิน
ซึ่งเป็นบทเรียนที่นักพัฒนาที่ดินรุ่นเก่าต้องเรียนรู้
งานแรกที่เขาเข้ามารับผิดชอบเต็มตัวคือ การทำโครงการชาญอิสสระทาวเวอร์
1 คอนโดแห่งแรกๆ บนถนนพระราม 4 หลังจากนั้นก็เข้าไปพัฒนาโครงการพัฒนาที่ดินต่างๆ
อย่างต่อเนื่อง และได้เข้าไปเป็นกรรมการในสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่ปี
2533 ถึงปัจจุบัน