Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 กันยายน 2549
แบงก์กรุงไทยขน1.6พันล้านเร่งปล่อยสินเชื่ออบจ.-เทศบาล             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกรุงไทย

   
search resources

ธนาคารกรุงไทย
Banking and Finance




กรุงไทยเดินหน้าขยายฐานสินเชื่อปลายปีทุ่มงบ 1.6 พันล้านบาทปล่อยกู้อบจ.-เทศบาล 20 แห่ง ระบุที่ผ่านมาปล่อยไปแล้ว 62 แห่งยังไม่มีเอ็นพีแอล มั่นใจสิ้นปีปล่อยสินเชื่อแก่หน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจได้ตามเป้า 15,000 ล้าน

นายปรีชา ภูขำ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้บริหารสายงาน สายงานธุรกิจภาครัฐ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ธนาคารมีแผนที่จะปล่อยกู้ให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ.และเทศบาล ประมาณ 20 แห่ง คิดเป็นเม็ดเงินในการปล่อยทั้งสิน 1,600 ล้านบาท โดยแต่ละแห่งเฉลี่ยมีความจำเป็นในการใช้เงินประมาณ 70-80 ล้านบาท ซึ่งหากธนาคารสามารถปล่อยกู้ได้ตามแผนที่วางไว้ ก็จะทำให้ภายในสิ้นปีนี้จะสามารถปล่อยกู้ให้กับ 2 หน่วยงานดังกล่าวรวมกัน 82 แห่งจากก่อนหน้านี้ได้ปล่อยไปแล้ว 62 แห่ง เม็ดเงินรวมประมาณ 400-500 ล้านบาท

สำหรับหลักการปล่อยกู้ให้กับอบจ.และเทศบาลนั้น ธนาคารยึดหลักการปล่อยกู้เดียวกันกับการปล่อยกู้ให้กับภาคธุรกิจเอกชน โดยพิจารณากระแสเงินสด รายรับ รายจ่าย ความสามารถในการชำระหนี้ รวมทั้งทิศทางในการหารายได้ ซึ่งหน่วยงานนั้นต้องมีโครงการมานำเสนอให้กับธนาคารก่อน หากธนาคารพิจารณาแล้วว่าโครงการดังกล่าวมีความเป็นไปได้ ธนาคารก็จะพิจารณาอนุมัติเงินกู้ให้ ทั้งนี้จะทยอยให้หน่วยงานนั้นเบิกเงินกู้ โดยธนาคารจะไม่ให้หน่วยงานนั้นๆ ทำการเบิกเงินกู้ไปทั้งหมด สำหรับอัตราดอกเบี้ยนั้น จะถูกกว่าภาคเอกชนที่มาขอกู้เนื่องจากอบจ.และเทศบาลมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีที่แน่นอนอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าทุกอบจ.หรือทุกเทศบาลจะได้รับเงินกู้ เพราะทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับว่าผ่านคุณสมบัติที่ธนาคารกำหนดหรือไม่

“การปล่อยกู้อบจ.และเทศบาลนั้นจะเป็นในลักษณะคลีนโลน คิดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ12เดือนบวกอีก1.5% กำหนดชำระคืนสูงสุดไม่เกิน 20 ปี หากนำเงินฝากมาจำนำกับธนาคารธนาคารก็จะคิดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากตามประเภทที่หน่วยงานนั้นเคยฝากอยู่กับธนาคารว่าเป็นประเภท3เดือน 6เดือน 12เดือนหรือ 24เดือน แล้วก็บวกอีก1% กำหนดชำระคืนก็เท่ากันคือ20ปีสูงสุดแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกโครงการจะได้รับการผ่อนชำระคืนนานถึง20ปี ขึ้นกับแต่ละโครงการมากกว่าและที่สำคัญโครงการที่อบจ.และเทศบาลนำมาเสนอขอกู้เงินจากธนาคาร ต้องเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมหรือเป็นโครงการที่สามารถเพิ่มรายได้ให้กับอบจ.หรือเทศบาลเป็นหลัก ส่วนวงเงินสูงสุดไม่มีการกำหนดขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ “

ทั้งนี้จากคำประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้นไม่ได้ทำการยกเลิก อบจ.และเทศบาลทำให้การปล่อยสินเชื่อยังสามารถดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง ธนาคารจึงเดินหน้าปล่อยสินเชื่อต่อให้กับ 2 หน่วยงานดังกล่าวต่อไปได้ ขณะที่ 62 แห่งที่ปล่อยสินเชื่อไปแล้วนั้นปรากฏว่าในปัจจุบันยังไม่พบเอ็นพีแอลเลย เนื่องจากอบจ.และเทศบาลมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเข้ามาในแต่ละเดือนแน่นอนและยังมีเงินสมทบจากรัฐบาลเข้ามาอีกด้วย จึงมั่นใจว่าเอ็นพีแอลจากการปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้น

“เอ็นพีแอลจากการปล่อยสินเชื่อให้กับหน่วยงานอบจ.และเทศบาล เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะมี เพราะหน่วยงานดังกล่าวมีการจัดเก็บภาษีเข้ามาในแต่ละเดือน พร้อมทั้งยังมีเงินสมทบจากรัฐบาลเข้ามาจึงเชื่อว่าเอ็นพีแอลจากการปล่อยสินเชื่อนี้จะไม่มีปัญหา”

นายปรีชา กล่าวต่อว่า ตลาดอบจ.และเทศบาล ถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่และเป็นตลาดที่พึ่งเปิดมีความต้องการลงทุนในการขยายงานค่อนข้างมาก ณ ปัจจุบันทั่วประเทศมีอบจ.อยู่ 75 แห่ง และเทศบาลอยู่ 1,200แห่ง ซึ่งจากนี้ไปธนาคารจะใช้โอกาสที่มีอยู่ในการขยายตลาดในกลุ่มนี้ให้มากขึ้น เพราะถือว่ามีความคล่องตัวสูงเมื่อเทียบกับธนาคารัฐแห่งอื่นๆ ด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายการปล่อยสินเชื่อหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจในปีนี้ยังยึดเป้าหมายเดิมที่ตั้งเอาไว้ 15,000 ล้านบาท ณ ปัจจุบันสามารถปล่อยไปได้แล้ว 11,000 ล้านบาท เพราะฉะนั้นเวลาที่เหลือคาดว่าจะสามารถปล่อยได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งนี้พอร์ตรวมของสินเชื่อภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ณ ปัจจุบันคิดเป็น 10%ของพอร์ตรวมสินเชื่อของธนาคารกรุงไทย สำหรับในปีหน้าคาดว่าสินเชื่อภาครัฐและรัฐวิสาหกิจจะเพิ่มเป็น 12%ของพอร์ตสินเชื่อรวมของธนาคาร ซึ่งในปีหน้าธนาคารจะเพิ่มให้ความสำคัญมากขึ้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us