Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 กันยายน 2549
"มั่นคงฯ"อิงกระแสสุวรรณภูมิ             
 


   
www resources

โฮมเพจ มั่นคงเคหะการ

   
search resources

มั่นคงเคหะการ, บมจ.
Real Estate
ชูเกียรติ ตั้งมติธรรม




นายชูเกียรติ ตั้งมติธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายการตลาด บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK เปิดเผยว่า ด้วยภาวะราคาน้ำมันที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยการกู้ซื้อบ้านที่ทรงตัวและเริ่มมีแนวโน้มปรับลดลง จึงเป็นจังหวะที่เวลาเหมาะสมที่สุดสำหรับการตัดสินใจซื้อบ้าน โดยบริษัทฯได้เปิดการขาย 2 โครงการใหม่ บน 2 ทำเลทองให้แก่ผู้ซื้อบ้านได้พิจารณาเป็น 2 ทางเลือก ได้แก่ โครงการ กรีนพาร์ค ชวนชื่นซิตี้ บนถนนรามอินทรา กม.8 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ขนาดพื้นที่ 34 ไร่ จำนวน 215 ยูนิต มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท โดยเป็นบ้านสร้างเสร็จก่อนขาย ราคาเริ่มต้นเพียง 2.4 ล้านบาท โดยทางโครงการได้จัดโปรโมชันพิเศษตั้งแต่วันนี้ถึงเดือนต.ค.49 ด้วยของแถมมากมาย รวมมูลค่าเกือบแสนบาท ได้แก่ เครื่องปรับอากาศขนาด 18,000 BTU 1 เครื่อง, วอลล์เปเปอร์ทั้งหลัง, ถังเก็บน้ำบนดิน ขนาด 1,100 ลิตรพร้อมปั๊มน้ำ รวมทั้งจัดสวนรอบบ้านให้ฟรีอีกด้วย และพิเศษสุดในปีนี้คือ ฟรีค่าโอนกรรมสิทธิ์ซึ่งเราขอมอบให้แก่ลูกค้าที่รับโอนฯ ภายในปี 2549 เท่านั้น

สำหรับอีกหนึ่งโครงการ คือ ชวนชื่นเพชรเกษม 81 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดติดถนนใหญ่ ซอยเพชรเกษม 81 และยังอยู่ใกล้กับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ) โครงการดังกล่าวมีขนาดพื้นที่โครงการในเฟสแรก 39 ไร่ จำนวน 210 ยูนิต มูลค่าโครงการ 760 ล้านบาท โดยบ้านสร้างก่อนขายราคาเริ่มต้นเพียง 2.7 ล้านบาท สำหรับผู้จองบ้าน ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธ.ค.นี้ จะได้รับส่วนลด 2,000 บาท/ตารางวา, เครื่องปรับอากาศขนาด 18,000 BTU 1 เครื่อง, วอลล์เปเปอร์ทั้งหลังและถังเก็บน้ำพร้อมปั๊มน้ำ

นางสาวชุติมา ตั้งมติธรรม กรรมการ บริษัท มั่นคงเคหะการฯ กล่าวถึงแผนลงทุนโครงการใหม่ใน 2550 ด้วยปัจจัยการที่สนามบินสุวรรณภูมิจะเปิดใช้ในวันที่ 28 ก.ย.นี้ ทำให้บริษัทเตรียมความพร้อมรับกำลังซื้อที่จะเข้าผ่องถ่ายเข้ามาในทำเลดังกล่าว โดยทางบริษัทจะเปิดโครงการใหม่จำนวน 3 โครงการ มีมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าว มีทำเลอยู่ที่บริเวณรามอินทราและสนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งนี้ 1 ใน 3 โครงการจะก่อสร้างเพื่อรองรับพนักงานของสนามบินสุวรรณภูมิด้วย

" คาดว่าในช่วงหลังน่าจะมีพนักงานของสนามบินสุวรรณภูมิหันมาหาที่อยู่บริเวณสนามบินมากขึ้น ก็เลยมี 1 โครงการที่ก่อสร้างเพื่อรองรับความต้องการตรงนั้น และในไตรมาสที่ 4 ก็คาดว่ายอดขายบ้านที่ทำเลสนามบินจะเพิ่มขึ้นประมาณ 20-30%"นางสาวชุติมา กล่าว

ต่อกรณีที่คณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขยึดอำนาจการปกครอง เมื่อคืนวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ไม่ส่งผลกระทบต่อยอดขายบ้านของบริษัทฯ เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้รุนแรง รวมทั้งผู้บริโภคยังคงมั่นใจในแบรนด์ของบริษัทฯ อีกด้วย

นางสาวชุติมา กล่าวถึงแนวโน้มของรายได้ตลอดปี 2549 ว่า คงจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 2,371.62 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้จะมาจากโครงการชวนชื่นปิ่นเกล้า, โครงการชวนชื่นศรีนครินทร์ และโครงการชวนชื่นเพชรเกษม ส่วนในปี 2550 เตรียมงบสำหรับการซื้อที่ดินทั้งสิ้น 500 ล้านบาท เพื่อรองรับการเปิดโครงการใหม่ในปีหน้า

ก่อนหน้านี้ ทางบริษัทฯได้แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2 โดยระบุว่า บริษัทฯรับรู้รายได้จากการขายและบริการ 383.07 ล้านบาทสูงขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาถึง 26.30% แต่ลดลง 36.37% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากยอดจองในปี 2549 ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านสั่งสร้างซึ่งต้องใช้เวลา 6-10 เดือนในการส่งมอบ จึงยังไม่สามารถรับรู้รายได้ในไตรมาส 2 ประกอบกับในปีนี้ยอดลูกค้าที่ถูกปฏิเสธการให้สินเชื่อจากธนาคารสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมามาก ทำให้ต้องยกเลิกการจองและนำกลับมาขายใหม่ ทำให้ระยะเวลาการโอนกรรมสิทธิ์ไปตกอยู่ในครึ่งหลังของปี 2549 เป็นส่วนใหญ่ แตกต่างจากปีที่ผ่านมาซึ่งการรับรู้รายได้ค่อนข้างสม่ำเสมอระหว่างไตรมาส ทั้งนี้ บริษัทฯ มียอดจองรอรับรู้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา ประมาณ 1,200 ล้านบาท

ด้านบทวิเคราะห์แห่งหนึ่ง ระบุถึงแนวโน้มรายได้ของบริษัทฯปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 2,250 ล้านบาท ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิคาดว่าจะอยู่ที่ 473 ล้านบาท แต่บทวิเคราะห์ยังระบุว่าในครึ่งปีหลัง ผลประกอบการของบริษัทเติบโตอย่างมาก เนื่องจากบริษัทฯมียอดขายรอโอนในครึ่งปีหลังจำนวนมากถึง 1,200ล้านบาท ซึ่งมากกว่ารายได้ในครึ่งปีแรกเกือบ 2 เท่า ขณะเดียวกันทางบริษัทฯยังมีแผนที่จะเร่งยอดรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลัง โดยเพิ่มสัดส่วนบ้านสร้างเสร็จก่อนขายจากประมาณ 30% ของยอดขายรวมในครึ่งปีแรก เป็น 50-60% ของยอดขายรวมในครึ่งปีหลัง

จากแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนของบ้านสร้างเสร็จก่อนขาย ทำให้บริษัทฯมีความจำเป็นต้องกู้เงินเพิ่มเพื่อไปขยายงาน ยอดหนี้สินจึงเพิ่มเป็น 2,190 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายอดจองครึ่งปีแรกจะชะลอตัวเหลือเพียง 1,000 ล้านบาท แต่คาดว่ายอดจองจะดีขึ้นในครึ่งปีหลัง จากสถานการณ์การเมืองที่คลี่คลาย ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มนิ่ง และราคาน้ำมันที่เริ่มลดลง ประกอบกับบริษัทฯมีโครงการเปิดขายทั้งสิ้น 14 โครงการ มูลค่าเหลือขายรวม 5,270 ล้านบาท ในครึ่งปีหลังวางแผนจะเปิดอีก 4 โครงการมูลค่ารวม 2,720 ล้านบาท จะทำให้โครงการรวมเพิ่มเป็น 18 โครงการ นอกจากนี้ในช่วงเดือนที่เหลือ ทางบริษัทฯจะจัดโปรโมชันเพื่อกระตุ้นยอดขายในไตรมาส คาดว่าจะช่วยผลักดันยอดขายให้ดีขึ้นได้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us