Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กันยายน 2537








 
นิตยสารผู้จัดการ กันยายน 2537
"ยกเครื่องรัฐวิสาหกิจจีน"             
 

   
related stories

"ยกเครื่องรัฐวิสาหกิจจีน"

   
search resources

China




ความไร้ประสิทธิภาพ การบริหารที่ผิดพลาด จำนวนพนักงานที่มากเกินความจำเป็น ล้วนแต่เป็นปัญหาใหญ่ของรัฐวิสาหกิจจีน ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งทศวรรษในการสะสาง

เดวิด อึ้ง ที่ปรึกษาทางด้านการบริหารจากบริษัทอาร์เธอร์ แอนเดอร์เซ่น แอนด์ โค มีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงงานเหล็กของรัฐบาลจีนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา สิ่งที่เขาได้พบก็คือ ระบบการบริหารที่เทอะทะ อุ้ยอ้าย มีฝ่ายงานและแผนกเกิดขึ้นมากมาย มีการทำงานที่ซ้ำซ้อน เหลื่อมล้ำกัน ค่าใช้จ่ายในการบริหารงานมีสัดส่วนถึง 10% ของรายได้ปีละ 230 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่อุตสาหกรรมแบบเดียวกันในประเทศทางตะวันตกมีค่าใช้จ่ายด้านนี้เพียง 7% ของรายได้เท่านั้น

อึ้งกล่าวว่า ความต้องการรักษาสถานะเดิม ๆ ทำให้เกิดความเฉื่อยชา แต่ในที่สุด โรงงานนี้ก็ต้องยอมละความพึงพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่ เมื่อพบว่า การปรับองค์กรให้มีขนาดเล็ก และเรียวลง สามารถประหยัดเงินได้ถึง 7 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี

ความไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารที่อึ้งมองเห็นนี้ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐวิสาหกิจของจีนเกือบครึ่งหนึ่งขาดทุน

นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่า หน่วยงานเหล่านี้แบกหนี้สินไว้รวมกันมูลค่าถึง 70,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสาขาในฮ่องกงของเมอร์ริล ลินช์คำนวณว่าเท่ากับ 2.7 เท่าของเงินทุนของระบบธนาคารในจีนทั้งหมด

แม้ว่าจะมีรัฐวิสาหกิจบางแห่งกำลังปรับตัวรับการปฏิรูปเศรษฐกิจ แต่ถ้าจะฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่แล้วจะต้องใช้เงินอัดฉีดจำนวนมาก และต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ซึ่งต้องใช้เวลาถึงหนึ่งทศวรรษหรือมากกว่านั้นจึงจะบรรลุเป้าหมาย

ปัญหาเริ่มต้นตั้งแต่การขาดแคลนความรู้ทางการตลาดและเงินทุน จนกระทั่งถึงค่าจ้างเงินเดือนที่สูงและเทคโนโลยีที่ล้าสมัย

ปัญหาที่ยากยิ่งที่สุดก็คือ การเปลี่ยนแปลงความคิดของผู้บริหารที่ส่วนใหญ่เป็นคนแก่ ซึ่งเคยชินกับการทำหน้าที่ผู้ผลิตเพียงอย่างเดียว ปล่อยให้งานด้านการจัดจำหน่ายเป็นเรื่องของคนอื่น แต่เมื่อมาถึงวันนี้ พวกเขาได้รับการบอกกล่าวอย่างกระทันหันว่า ต้องเป็นคนรับหน้าที่ทั้งหมดเอง

"พวกเขายังเคยชินกับการทำงานในระบบเก่า ไม่สามารถปลดปล่อยความคิดของตัวเองได้ พวกเขามีจิตใจที่คิดแต่จะพึ่งพาอาศัยรัฐเพียงอย่างเดียว" วู ชุนหยูแห่งคณะบริหารธุรกิจของมหาวิทยาลัยต้าเหลียนกล่าว

มิโค ฉุง กรรมการบริหารของบริษัท ไชน่า สตราเตรจิค อินเวสท์เมนท์ หรือ ซีเอสไอ (CHINA STRATEGIC INVESTMENT - CSI) ซึ่งเป็นบริษัทที่ซื้อกิจการรัฐวิสาหกิจจีนเกือบ 200 แห่งกล่าวว่า ปัญหาของอดีตผู้บริหารรัฐวิสาหกิจเหล่านี้คือ การปรับตัวให้เข้ากับระบบการทำงานในภาคเอกชน บางคนยังพยายามค้ำประกันหนี้ของอดีตหุ้นส่วนของโรงงาน ทั้ง ๆ ที่ไม่มีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันแล้ว ฉุงบอกว่า พวกเขาอยู่ภายใต้ร่มธงเดียวกันของรัฐมาเป็นเวลานับทศวรรษ ทำให้ยังมีความผูกพันกับอดีตเพื่อนร่วมงานอยู่

แม้จะมีแต่ปัญหาน่าปวดหัว แต่ในบรรดาผู้บริหารเหล่านี้ก็ยังมีหลาย ๆ คนที่สร้างความประทับใจให้กับฉุง พวกเขาสามารถเรียนรู้ได้เร็วเมื่อได้รับการอบรม มีความฉลาดเฉลียว สามารถตอบสนองต่อความเป็นจริงแบบใหม่ได้ดี

"ผู้จัดการบางคนของเรา ทำงานดีกว่าผู้จัดการในฮ่องกงเสียอีก ผู้จัดการในโรงงานกระดาษของเรา เป็นคนเก่งที่สุดคนหนึ่งที่เรารู้จัก" ฉุงเล่าให้ฟัง

ซีเอสไอมีนโยบายคงผู้บริหารเดิมที่เป็นคนจีนในท้องถิ่นไว้เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนงาน

ทั้งผู้บริหารและคนงานมีการตอบสนองที่ดีกับแรงจูงใจเมื่อซีเอสไอเข้าครอบครองกิจการของบริษัท หังโจว จองซี เบียร์ พบว่าเบียร์ที่ผลิตออกมาแล้วเสียถึง 15% จึงเสนอว่า หากสามารถลดการสูญเสียลง คนงานจะได้รับค่าตอบแทนเป็นจำนวน 50% ของต้นทุนที่ประหยัดได้

ปรากฏว่าภายใน 4 เดือน อัตราการสูญเสียลดลงเหลือเพียง 7% เท่านั้น

บริษัทที่ปรึกษาทางการบริหาร แม็คคินเซย์ ซึ่งกำลังช่วยปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ 4 แห่งในเซี่ยงไฮ้ ภายใต้โครงการช่วยเหลือของธนาคารโลก ก็มีความประทับใจจากรัฐวิสาหกิจบางแห่ง จากการศึกษาของแม็คคินเซย์เมื่อเร็ว ๆ นี้ พบว่าโรงงานผลิตเหล็กกล้าของจีนมีมาตรฐานไม่แพ้โรงงานของประเทศอื่น ๆ ในเอเซีย ยกเว้นญี่ปุ่น

การปฏิรูปในด้านความเป็นเจ้าของกิจการก็มีความคืบหน้าด้วย ต้าเหลียน ดีพาร์ทเม้นสโตร์ ได้แปลงสภาพจากรัฐวิสาหกิจที่รัฐเป็นเจ้าของทั้งหมด มาเป็นบริษัทที่มีหุ้นส่วนอื่น ๆ ด้วย โดยขายหุ้น 33% ให้กับพนักงานเมื่อเดือนมกราคมปีกลาย

ในปีที่แล้ว บริษัททำกำไรได้ 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่เพียง 6 เดือนแรกของปีนี้มีกำไรแล้ว 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากที่มีการเปลี่ยนปรัชญาการให้บริการของห้าง โดยใช้คำขวัญว่า "ลูกค้าคือพระเจ้า"

"พื้นฐานโดยธรรมชาติของบริษัทได้เปลี่ยนไป เพราะผู้ถือหุ้นคือพนักงาน และพวกเขาต่างให้ความสนใจกับการทำงานอย่างจริงจัง" หลี กุย ผู้จัดการทั่วไปกล่าวและเสริมต่อไปว่า "ถ้าทุกรัฐวิสาหกิจทำได้ตามระบบนี้เราก็มีความหวัง"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us