|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ซีเอสพี สตีลเซ็นเตอร์ เตรียมดึงกลุ่มทุนจากจีน เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ คาดจะได้ข้อสรุปภายใน ต.ค. หรือ พ.ย. นี้ชี้จะสามารถเกื้อหนุนให้ธุรกิจเติบโตได้อีก เล็งขยายกำลังการผลิตในต้นปีหน้า พร้อมตั้งเป้าปี 50 รายได้โตไม่ต่ำกว่า 10%
นายวีรศักดิ์ ชัยสุพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทซีเอสพี สตีลเซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CSP เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับกลุ่มทุนจากประเทศจีนที่จะเข้ามาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจหรือ Strategic Partner และจะเข้ามาร่วมถือหุ้นด้วย ส่วนจะถือในสัดส่วนเท่าใดนั้นยังไม่มีข้อสรุป เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายนนี้
"ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับกลุ่มทุนจากจีนที่จะเข้ามาถือหุ้น ซึ่งจะต้องมีการศึกษาถึงผลดีและผลเสียว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตามมองว่ากลุ่มทุนจีนที่จะเข้ามานั้นสามารถเกื้อหนุนธุรกิจของบริษัทได้ เพราะกลุ่มทุนจากจีนนั้นมีโรงงานอุตสาหกรรม ดังนั้นจึงสามารถซื้อท่อเหล็ก ซึ่งเป็นสินค้าของบริษัทเป็นวัตถุดิบในการประกอบธุรกิจได้ ขณะเดียวกันบริษัทก็สามารถใช้ช่องทางของผู้ร่วมทุนใหม่นี้ในการกระจายสินค้าไปยังประเทศจีนได้เช่นเดียวกัน" นายวีรศักดิ์กล่าว
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเอสพี สตีลเซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2549 บริษัทได้มีมติให้บริษัทออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท หรือวอร์แรนต์จำนวน 125 ล้านหน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้น ซึ่งกำหนดสัดส่วน 4 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 วอร์แรต์ ซึ่งมีอายุไม่เกิน 7 ปี ซึ่งคาดว่าการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทุนนั้นจะได้ข้อสรุปก่อนที่จะจัดสรรวอร์แรนต์ ดังนั้นผู้ร่วมทุนรายใหม่ จึงมีโอกาสที่จะได้รับการจัดสรรวอร์แรนต์ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้บริษัทเตรียมที่จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น หลังจากที่ได้นำเงินจากการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปหรือ IPO ไปซื้อเครื่องจักรใหม่ประมาณ 100 ล้านบาทเศษ และได้มีการติดตั้งเสร็จเกือบหมดแล้ว ดังนั้นจึงคาดว่าจะทำให้เพิ่มกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกภายในต้นปีหน้า ซึ่งจะสามารถรองรับกับคำสั่งซื้อสินค้าของพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามาร่วมถือหุ้น ดังนั้นจึงคาดว่าผลประกอบการในปีหน้าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10%
สำหรับผลประกอบการในปีนี้ ซึ่งตั้งเป้าว่าจะมีรายได้มากกว่า 3 พันล้านบาท ขณะที่ในปี 2548 มีรายได้ประมาณ 2.8 พันล้านบาทนั้นอย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างรอดูผลประกอบการในไตรมาส 3 ก่อน ว่าจะมีการปรับเป้ารายได้ลดลงหรือไม่ เพราะในครึ่งปีแรกผลประกอบการนั้นต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย
ในส่วนของกรณีคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ได้เข้ามายึดอำนาจรัฐบาลรักษาการนั้น มองว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด และเห็นว่าคงจะมีการเบิกจ่ายงบประมาณเร็วยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นสภาพเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตามคงจะต้องรอดูว่าสถานการณ์ต่อไปจะมีความชัดเจนมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะผู้ที่จะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีจะได้รับการยอมรับมากน้อยเพียงใด
"กรณีที่จะมีการตรวจสอบโครงการเมกกะโปรเจกต์ว่ามีการทุจริตหรือไม่นั้นและทำให้ยังไม่สามารถดำเนินโครงการดังกล่าวได้ ซึ่งเห็นว่าบริษัทคงจะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เพราะสินค้าของบริษัทนั้นไม่ใช่เป็นโครงสร้างหลักในการนำไปสร้างโครงการเมกกะโปรเจกต์และที่ผ่านมาบริษัทก็ไม่ได้มีการขายสินค้าโดยตรงกับทางรัฐบาลแต่อย่างใด" นายวีรศักดิ์กล่าว
ด้านความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น CSP วานนี้ (25 ก.ย.) ราคาปิดที่ 6.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 2.99% มูลค่าการซื้อขาย 2.56 ล้านบาท
|
|
|
|
|