|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
PICNI แจงบอร์ดอนุมัติให้ลงทุนในบริษัทย่อย เพราะหวังให้โครงสร้างทางการเงินของบริษัทย่อยมีความมั่นคงมากขึ้น และเพิ่มศักยภาพให้บริษัทย่อยในการดำเนินงานและขยายธุรกิจ โดยการลงทุนไม่มีผลกระทบต่อฐานะการเงินของบริษัท เพราะ PICNI ถือหุ้นในบริษัททั้ง 4 แห่งๆ ละ 99.99 %
นายประสิทธิ์ เพ็ชร์ฆาฎ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (PICNI) แจ้งว่าตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 20/2549 เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ได้มีมติอนุมัติการลงทุนในบริษัทย่อย 2 รายการ ดังนี้คือ บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด ลงทุนใน บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น (สิงคโปร์) จำกัด
โดยบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด ลงทุนใน บริษัท ปิคนิค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และรับทราบการลงทุนของบริษัทย่อย 2 รายการ ดังนี้ บริษัท ปิคนิค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ลงทุนใน บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น (เวียดนาม) จำกัด หรือชื่อเดิมคือ บริษัท เอส ซี ที (เวียดนาม) แก๊ส จำกัด ซึ่งถือหุ้นโดย ปิคนิค อินเตอร์เนชั่นแนล 99.99%
บริษัท เวิล์ดแก๊ส (ประเทศไทย) ลงทุนใน บริษัท ไพร์ด โลจีสติก จำกัด ซื่งถือหุ้นโดย บริษัท เวิล์ดแก๊ส จำกัด 99.99% โดยผู้ลงทุนจะนำเงินที่ได้รับจากการชำระคืนเงินกู้ยืมของบริษัทดังกล่าวมาลงทุนในบริษัทนั้น
สำหรับเหตุผลในการลงทุนดังกล่าว เพื่อให้โครงสร้างทางการเงินของบริษัทย่อยมีความมั่นคงมากขึ้น ซึ่งทำให้บริษัทย่อยสามารถจัดหาแหล่งเงินกู้เองได้ และผลกระทบลดภาระของบริษัทในการหาแหล่งเงินทุนให้แก่บริษัทย่อยในอนาคต และภายหลังการเข้าลงทุนหลังเพิ่มทุนจะทำให้บริษัทถือหุ้น 99.99%
ทั้งนี้ การลงทุนในบริษัทย่อยทั้ง 4 แห่ง ไม่มีผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของบริษัทแต่อย่างใด เนื่องจากการลงทุนดังกล่าวเป็นการลงทุนในบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นร้อยละ 99.99 โดยใช้เงินซึ่งบริษัทย่อยทั้ง 4 แห่ง กู้จากบริษัทและบริษัทย่อย โดยบริษัทก็มิได้มีแผนที่จะเรียกชำระคืนเงินกู้ดังกล่าวในระยะสั้นแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทย่อยมีความต้องการใช้เงินจำนวนดังกล่าวไม่ว่าในรูปแบบของเงินกู้หรือเงินทุนในการดำเนินธุรกิจตามปกติ ซึ่งการเพิ่มทุนดังกล่าวจึงเป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับบริษัทย่อยในการดำเนินธุรกิจและขยายธุรกิจต่อไป
|
|
|
|
|